Spoil NieR Gestalt/Replicant Part 9 จุดเปลี่ยนของโชคชะตา



เนียร์ไปหาโปโปลาที่หอสมุดซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของเธอเพื่อขอยาบรรเทาอาการป่วยของโยนาห์ ทว่ายาที่นักปราชญ์สาวมีอยู่ใกล้หมดแล้ว เธอจึงให้เขาไปเก็บสมุนไพรที่เป็นส่วนประกอบของยามาให้เธอปรุงยาเพิ่ม เนียร์ทำตามอย่างว่าง่าย แต่ขณะที่กำลังเก็บสมุนไพรที่หน้าประตูทางเข้าหมู่บ้าน สายตาของเขาก็เห็นคนๆ หนึ่งกำลังวิ่งผ่านประตูเข้ามา

เอมิลนั่นเอง เด็กชายมีท่าทีเหนื่อยอ่อนมาก เนียร์จึงผละจากงานที่ทำอยู่วิ่งไปหาอีกฝ่าย แต่ยังไม่ทันได้ถามไถ่อะไร เอมิลก็สลบไป คำพูดสุดท้ายก่อนที่จะล้มลงคือ “รีบเร็วเข้า”

เนียร์พาเอมิลมาพักที่ห้องของโปโปลาเพื่อให้หญิงสาวช่วยดูอาการ โชคดีที่เหมือนว่าเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เพียงแค่เหนื่อยเกินไปเท่านั้น ไม่นานนักเด็กชายก็รู้สึกตัว

เนียร์ : เอมิล เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า
เอมิล : ผมเห็นมัน…
เนียร์ : พอแล้ว อย่าพูดอีกเลย

เอมิล : อากาศ... กำลังสั่นไหว ผมรู้สึกได้ว่ามันอยู่ข้างหลังผม แรงกดดันมันมหาศาลมาก พระเจ้า พวกมันมีเยอะจริงๆ
เนียร์ : อะไรเยอะงั้นเหรอ
เอมิล : หนีไป... หนีออกไปจากหมู่บ้าน พวก Shade กำลังมากันแล้ว

แผ่นดินที่สะเทือนราวกับของหนักกระแทกบนพื้น ทำให้เนียรีบวิ่งออกไปที่ตลาดของหมู่บ้าน เหล่ายามรักษาประตูกำลังดันประตูเมืองที่กำลังถูกกระแทกอย่างหนักหน่วงโดยอะไรบางอย่าง ทว่าพวกเขาก็ไม่อาจต้านทานได้นาน ประตูเมืองถูกพังในที่สุด และ Shade ที่มีอาวุธครบมือกลุ่มใหญ่ก็กรูเข้ามา ระหว่างที่ทุกอย่างกำลังสับสนวุ่นวาย เนียร์ก็ได้พบกับเดโวลาที่วิ่งสวนทางมา เขาจึงบอกให้เธอช่วยอพยพชาวเมืองไปที่หอสมุด และได้โปรดช่วยปกป้องโยนาห์ด้วย เดโวลารับคำว่าเธอจะไปพาโยนาห์หนีเอง และขอให้เนียร์ระวังตัวด้วย

เนียร์รีบเข้าไปร่วมต่อสู้เคียงข้างกับเหล่าทหารยาม เมื่อเหล่า Shade ส่วนมากถูกจำกัดได้แล้ว ยามก็รีบหมุนกลไกปิดประตูเมืองอีกชั้นซึ่งทำจากเหล็กกล้า ทว่าแค่ประตูสัมผัสกับผืนดินเพียงเล็กน้อย มือสีดำขนาดมหึมาก็ซัดเข้ามาจนประตูพังทลายลงอย่างง่ายดาย พร้อมกับการปรากฏตัวของ Shade ขนาดยักษ์ที่มีนิ้วมือและเท้าคล้ายเส้นรยางค์ มันยกขาขึ้นเหนือกำแพงเมือง น้ำหนักทำให้กำแพงทลายลงมาหลายส่วน

เนียร์เข้าโรมรันกับศัตรูที่มีขนาดใหญ่กว่าเขามากมายอย่างไม่กลัวเกรง เขาสามารถใช้ Sealed Verse ทำลายแขนซ้ายของ Shade ยักษ์ได้ แต่ไม่ถึงนาทีมันก็งอกแขนขึ้นมา ไม่ว่าจะโจมตีแค่ไหนก็ไม่มีท่าทีสะทกสะท้านแม้แต่น้อย มันเริ่มเดินหน้าเข้าไปในเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ กระโดดผ่านกำแพง เบื้องหน้าคือหอสมุดที่ประชาชนเข้าไปหลบภัยอยู่

ไม่ว่าเนียร์จะใช้พลัง Sealed Verse กับมันเท่าไร มันก็ไม่มีทีท่าจะล้มลง ในที่สุดเมื่อสังเกตเห็นความโกลาหลที่เกิดขึ้น ไคเนก็วิ่งเข้าเมืองมาร่วมสู้กับสหายทั้งสอง แต่ Shade ก็ยังคงเข้าใกล้หอสมุดมากขึ้นเรื่อยๆ เนียร์จึงรวบรวมพลัง Sealed Verse โจมตีใส่มันในครั้งเดียว ในที่สุด Shade ยักษ์ก็ล้มลง เลือดของมันสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ ก่อนที่เสียงหวีดร้องจะดังขึ้นจากในหอสมุด เนียร์ ไวส์ และไคเน ไม่รอช้า พวกเขารีบเปิดประตูใหญ่ของอาคารพุ่งเข้าไปด้านใน

ภายในหอสมุดมี Shade ลักลอบเข้ามาได้อยู่มากมาย ทำให้เอมิลที่ฟื้นตัวดีแล้วตัดสินใจเข้าร่วมต่อสู้ด้วย แม้ไคเนจะพยายามกันเขาออกไปด้วยความเป็นห่วงก็ตาม ทว่าเด็กชายตัดสินใจแล้วว่าการปกป้องผู้อื่นนี่แหละ คือเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงมีดวงตาที่ทำให้ผู้ที่ถูกมองเป็นหินได้ เขาไม่มีทางปล่อยให้เพื่อนของเขาต่อสู้ในขณะที่เขาซ่อนอยู่เบื้องหลังเด็ดขาด

จู่ๆ อาคารหอสมุดก็เริ่มสั่นไหว ก่อนที่ Shade ยักษ์ที่พวกเขาจัดการไปเมื่อครู่ ซึ่งบัดนี้เหลือเพียงศีรษะและลำตัวจะพุ่งใส่ประตูผ่านเข้ามาด้านใน ชนเอมิลกระแทกชั้นหนังสือจนเด็กชายสลบไป เมื่อไม่เห็นวิธีจะฆ่ามันได้ ไวส์จึงเสนอให้ล่อมันไปขังไว้ในชั้นใต้ดินของหอสมุด พวกเขาเข้าฟาดฟันมันอย่างสุดความสามารถจน Shade อ่อนแรง และเนียร์ก็ใช้เวทมนต์ดำผลักมันลงไปในห้องใต้ดินได้

ไคเนรีบวิ่งไปยันประตูเอาไว้ เธอตะโกนเรียกให้เนียร์เอากุญแจมาให้เธอ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะส่งมันให้อีกฝ่าย ทันใดนั้นก็มีลำแท่งสีดำพุ่งทะลุไหล่ซ้ายของเขาจากด้านหลัง เลือดสีแดงเข้มไหลออกมาจากบาดแผล แล้วเขาก็ล้มลง พร้อมๆ กับการปรากฏร่างของ Shade ที่มีรูปร่างเป็นมนุษย์เพศชายที่เคลื่อนตัวออกมาจากเลือดที่นองพื้นของเนียร์ ที่สำคัญมันมีหน้าตาที่คล้ายกับเนียร์มาก

Shade ที่มาใหม่กางสิ่งที่คล้ายผ้าคลุมของมันออก และเริ่มบินไปรอบๆ หอสมุดอย่างรวดเร็วราวกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง และในที่สุดมันก็ค่อยๆ ลอยลงมาต่อหน้าเนียร์ ไวส์ และไคเน ข้างๆ ของมันคือหนังสือสีดำกริมัว นัว และร่างที่ลอยอยู่เบื้องหน้าของมันคือเด็กหญิงที่กำลังหลับใหล โยนาห์นั่นเอง


ภาพของโยนาห์ที่ถูก Shade จับตัวไปสร้างความตกใจให้กับเนียร์ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ทำอะไร Shade อีกกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏกายขึ้นของกองเลือดของ Shade ยักษ์ที่ตอนนี้อยู่ในห้องใต้ดิน พวกมันเดินเข้าไปหา Shade ที่จับตัวโยนาห์ไว้ ก่อนก้มลงคุกเข่าแสดงความเคารพอีกฝ่ายอย่างนอบน้อม ทำให้ไวส์ทราบว่าเจ้านี้ต้องเป็นหัวหน้าของเหล่า Shade แน่นอน ขณะเดียวกันนั้นเอมิลก็ฟื้นขึ้นมา

ทันใดนั้นกริมัว นัวก็เคลื่อนตัวมาอยู่ข้างหน้า กางร่างกายตัวเองออกเผยให้เห็นแผ่นกระดาษสีดำทมิฬ แล้วพลังสายฟ้าก็พุ่งเข้าทำร้ายไวส์และเนียร์ ทั้งสองกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ทว่าไคเนก็ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ เพราะ Shade ในห้องใต้ดินกำลังกระแทกประตูไม่หยุดอยู่เบื้องหลังของเธอ

ไวส์ที่กำลังอ่อนแรงพบว่าตัวเองกำลังอยู่ในห้วงมิติที่มีเพียงสีขาวที่เขาไม่รู้ว่าเป็นที่ใด ก่อนที่เสียงหนึ่งจะทำลายความเงียบขึ้นมา มันคือกริมัว นัว หนังสือสีดำ

นัว : นานแล้วนะกริมิว ไวส์
ไวส์ : เจ้าเป็นใคร แล้วที่นี่คือที่ไหน
นัว : ข้าคือกริมัว นัว และข้าก็คือตัวเจ้ายังไงล่ะ

ไวส์ : ว่าไงนะ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด
นัว : นี่เจ้าลืมไปแล้วเหรอกริมัว ไวส์ พวกเราทั้งหมดเกิดมาเพื่อจุดประสงค์อันยิ่งใหญ่
ไวส์ : ไม่ต้องมาโกหก ถอยออกไปห่างๆ ข้าซะ

นัว : ทำไมเจ้าถึงต้องพยายามผนึกความทรงจำของเจ้าเอาไว้กันล่ะ หวาดกลัวที่จะต้องทำร้ายคนใกล้ตัวอย่างนั้นหรือ
ไวส์ : ไร้สาระ เจ้ามันวิปริตคิดอะไรโง่ๆ
นัว : พวกเราทั้งหมดเป็นแค่หนังสือที่ถูกสร้างมาเพื่อรับใช้ท่านชาโดวลอร์ด เจ้าอย่าได้คิดที่จะละทิ้งหน้าที่นี้ไป

ไวส์ : ชาโดวลอร์ดอย่างนั้นเหรอ...
นัว : เจ้าจำเป้าหมายสูงสุดของพวกเราได้หรือเปล่า
ไวส์ : เป้าหมายสูงสุดของพวกเรา...

นัว : ขาวและดำจะรวมเป็นหนึ่ง และปลดปล่อยเหล่า Shade สู่โลกใบนี้ยังไงล่ะ
ไวส์ : รวมเป็นหนึ่ง... เราอย่างนั้นเหรอ... ไม่มีทาง ไม่มีวันเป็นไปได้
นัว : ชะตาของเจ้าล้วนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของท่านผู้นั้น ที่เจ้ารวบรวม Sealed Verse มาได้นั่นก็เป็นเพราะว่าท่านชาโดวลอร์ดต้องการให้เป็นเช่นนั้นต่างหาก

ไวส์ : ไม่จริง เจ้าโกหก
นัว : เวลาที่เราจะสร้างโลกใบใหม่ที่สมบูรณ์แบบมาถึงแล้ว พวกเราจะรวมเป็นหนึ่ง เจ้าและข้า...
ไวส์ : รวมเป็นหนึ่ง...

ขณะที่ไวส์ใกล้จะสติหลุดลอย เสียงของคนๆ หนึ่งก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา

ไคเน : ไอ้เฮงซวยไวส์
ไวส์ : ไค... เน...

ไคเน : ตั้งสติหน่อยสิวะ ไอ้หนังสือห่วยแตก ไม่อย่างนั้นเจ้าจะต้องเสียใจแน่ เพราะว่าข้าจะจับเจ้าฉีกออกมาทีละแผ่นๆ แล้วโยนเจ้าเข้าไปเตาไฟโง่ๆ ซะ ไอ้ขี้โอ่ อวดใหญ่ หลงตัวเอง ทำไมโดนชักจูงให้เป็น xหรี่ได้อย่างง่ายๆ อย่างนี้ห่ะ โอ้ ท่านชาโดวลอร์ด ข้ารักท่าน ท่านชาโดวลอร์ดขา ช่วยจูบไวส์ฟอดใหญ่ๆ หน่อยสิคะ ดึงตัวเองกลับมาแล้วมาช่วยพวกเราซะทีไอ้เวรเอ้ย!!

ไวส์ : ข้าเป็นหนึ่งเดียวกับท่าชาโดว... เดี๋ยวก่อนนะ xหรี่อย่างนั้นเหรอ....

คำหยาบคายที่เขาไม่ชอบจากคนที่เขาเหม็นขี้หน้ากลับเรียกสติให้หนังสือสีขาวเริ่มรู้สึกตัว

นัว : พวกเราเหล่ากริมัว เกิดมาเพื่อสร้างโลกใบใหม่ให้กลายเป็นเหมือนสรวงสวรรค์ โลกนี้ต้องการให้เจ้ากับข้ารวมเป็นหนึ่งกันนะ
ไวส์ : สวรรค์เหรอ
นัว : ใช่ แล้วตอนนี้พวกเราก็ใกล้จะทำมันสำเร็จแล้วด้วย

เสียงของใครบางคนก็เข้ามาในหัวของเขาอีก เอมิลพยายามรั้งเขาเอาไว้ เขาบอกว่าหากไวส์จะลืมพวกตนก็ไม่เป็นไร แต่ว่าเขาจะไม่มีวันลืมไวส์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามเขาจะพยายามช่วยไวส์ออกมา ก่อนที่ไคเนจะเสริมว่าพวกเขาต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อไม่ให้นัวดูดกลืนไวส์ไป

ในสติที่เลือนร่าง เงาร่างของคน 3 คนปรากฏขึ้นในหัว ผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กคนหนึ่ง สหายร่วมทางของเขา ขณะที่นัวยังคงยุยงหนังสือสีขาวให้ร่วมมือกับตนไม่หยุด ไวส์ก็เปล่งพลังออกมาซัดใส่หนังสือสีดำ

ไวส์ : ขอเตือนครั้งสุดท้าย ข้ามีนามว่ากริมัว ไวส์ อย่ามาถือวิสาสะย่อชื่อให้นะ แล้วก็ดีใจที่ได้พบเจ้าอีกครั้งไคเน ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะถูกคนเรียกว่าเป็น xหรี่ ส่วนเจ้า ข้านึกว่าจะไม่ได้พบหน้าเจ้าแล้วเสียอีก

ไวส์ลอยกลับมาอยู่เบื้องหน้าเหล่าสหายของเขาที่ยังไม่มีใครเรียกเขาด้วยชื่อเต็มๆ สักคน เนียร์ที่พอลุกขึ้นมาไหวรีบถามไถ่อาการของคู่หู ไวส์จึงถามอีกฝ่ายกลับด้วยคำถามเดียวกัน อีกด้านหนึ่งนัวก็โกรธมากที่หนังสือสีขาวปฏิเสธที่จะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเขา แต่ไวส์ก็ตอกกลับไปว่าเขาเกลียดนัว ไม่อยากร่วมทำสิ่งใดด้วยทั้งนั้น ถึงแม้เพื่อนของเขาจะอ่อนแอ พอไม่มีเขาก็งอแงทำอะไรไม่ได้ เอาแต่สร้างปัญหามากมาย แต่ทั้งสามก็คือพวกพ้องคนสำคัญที่เขาอยากจะร่วมสู้ด้วยไปตลอด

เนียร์และไวส์เตรียมตัวเข้าสู่การต่อสู้อีกครั้ง ทว่าไวส์กลับพบว่าตนถูกดูดพลังไปหมดแล้ว นัวออกหน้ามาเป็นคู่ต่อสู้ให้พวกเขา พร้อมกับ Shade ตนอื่นๆ เนียร์จึงต้องใช้ความสามารถทางกายภาพเข้าต่อกรเพียงอย่างเดียว ท่ามกลางเสียงก่นด่ากันไปมาของหนังสือสองเล่ม เมื่อเขาโจมตีนัวไปเรื่อยๆ พลังของไวส์ก็เริ่มกลับมา และในที่สุดนัวก็เข้าตาจน มันปล่อยพลังครั้งสุดท้ายออกมา ก้อนสีดำปรากฏขึ้นก่อนกลายเป็นหอกแหลมพุ่งเข้าใส่หนังสือสีขาวหมายปลิดชีพ โดยไม่รอช้า เนียร์พุ่งตัวเข้าไปปกป้องคู่หูจนได้อีกแผล เขาล้มลงทันที

“สักวันเจ้าจะต้องเข้าใจ”

นัวเอ่ย ขณะที่เนียร์พยายามคลานเข้าไปหาชาโดวลอร์ดที่จับโยนาห์ไว้อยู่

“เอาลูก/น้องสาว ข้าคืนมา”

ชาโดวลอร์ดมองเขาด้วยสายตาเฉยชา ก่อนที่มันจะพาเด็กหญิงบินไปกับมัน ข้างกายมีหนังสือสีดำติดตามไม่ห่าง ก่อนที่นัวจะกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า

“ถึงจะยากเย็นแค่ไหน ที่สุดแล้วทุกอย่างจะต้องกลับมาเป็นของพวกเรา ทุกๆ อย่างเลย!!!”

เนียร์รู้สึกเหมือนใจสลาย ไร้เรี่ยวแรงจะทำสิ่งใดต่อ จนเอมิลต้องมาช่วยประคองเขาไว้ แล้วไคเนก็เอ่ยขึ้นมาว่าพวกเราแพ้แล้ว โดยเฉพาะตัวเธอเอง อะไรบางอย่างในคำของหญิงสาวทำให้เอมิลเริ่มร้องไห้ พร้อมกับที่เสียง Shade ยักษ์กระแทกประตูห้องใต้ดินดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง


ไคเน : หยุดร้องไห้ซะ เอาล่ะ ก่อนที่ข้าจะไม่อยู่ พวกเราต้องหาทางจัดการกับเจ้านี้กันก่อน เอมิล ข้าอยากให้เจ้า... ข้าอยากให้เจ้าทำให้ข้าเป็นหินจะได้ขังเจ้านี่เอาไว้ได้
เอมิล : ไม่เอา ผมทำไม่ได้!
เนียร์ : ไคเน... อย่า...

เอมิล : เขาพูดถูกแล้ว นี่มันฆ่าตัวตายชัดๆ ผมไม่ให้ท่านทำอย่างนั้นหรอก
ไคเน : เจ้ามีพลังเพื่อใช้ปกป้องคนอื่นใช่ไหม เจ้าต้องทำได้สิ เอมิล
เอมิล : แต่ว่า

ไคเน : เจ้านี่มันจะแหกประตูออกแล้วนะเว้ย
เอมิล : แต่ะ แต่ว่าผมไม่รู้...

ดูเหมือนว่าเอมิลจะสับสนหวาดกลัวเสียจนทำอะไรไม่ถูก แต่สุดท้ายก็ไร้ทางเลือกอื่น พวกเขาจึงต้องทำตามข้อเสนอของไคเน เอมิลแกะผ้าปิดตาของตนเองออก ค่อยๆ ลืมตาของตนขึ้นมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า ไคเนมองดวงตาของอีกฝ่ายกลับ ก่อนเริ่มเอ่ยเป็นครั้งสุดท้าย

ไคเน : อย่าร้องไห้อีกนะ โอเคไหม
เอมิล : ได้ครับ
ไคเน : จงเข้มแข็งเข้าไว้ อย่าหมดความหวังนะ

ร่างของไคเนเริ่มกลายเป็นหิน ผสานตนเข้าไปกับประตูเบื้องหลัง

ไคเน : ไวส์
ไวส์ : เก็บคำบอกลาของเจ้าไว้เถอะยัยคนหยาบโล้น ทั้งๆ ที่ข้าคิดไว้ว่าคงฆ่าเจ้าได้ไม่ง่ายอย่างนี้แท้ๆ
ไคเน : ฮาๆ ข้าก็ว่าอย่างนั้นเหมือนกัน

สิ้นเสียงร่างของหญิงสาวก็กลายเป็นหินทั้งหมด ปิดกั้นประตูห้องใต้ดินเอาไว้ เนียร์ได้แต่เอ่ยด้วยความเคียดแค้น สาบานตนบอกให้ทั้งสองคนรอเขาก่อน สักวันเขาจะต้องหาทางช่วยทั้งโยนาห์และไคเนได้อย่างแน่นอน



และแล้วเวลาก็ผ่านไปอีก 5 ปี เหล่า Shade ปรากฏตัวขึ้นอย่างมากมาย พร้อมพัฒนาตัวใส่ชุดเกราะและเพิ่มความแข็งแกร่งให้อาวุธของตน เช่นเดียวกับเนียร์ที่เติบใหญ่และแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก เพื่อหาทางช่วยเหลือคนที่เขารัก

จบเนื้อเรื่องช่วงแรกอันสดใสของ NieR ฮับ เนื้อเรื่องตอนนี้เหนื่อยมาก เพราะมีประเด็นสำคัญเยอะ

ทำไมแอบคิดว่าบทพูดของไวส์กับนัวมันแอบชวนจิ้นได้เนี่ย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ผ้าปิดตาของ YoRHa

รีวิว Nier Automata Novella ฉบับยาว ภาษาไทย แบบกาวๆ