NieR Automata Stage Play : YoRHa
NieR Automata Stage Play เป็นละครเวทีที่ใช้โปรโมทเกม NieR Automata ก่อนที่เกมจะวางจำหน่าย มีเนื้อหาก่อนเริ่มเนื้อเรื่องในตัวเกม ซึ่งตัวละครหลักคือ A2 ที่จะทำให้เราได้รู้ถึงภารกิจ และสิ่งที่เธอได้เจอ ก่อนที่พวก 2B จะถูกส่งตัวลงมาปฏิบัติหน้าที่ จึงมีเนื้อหาบางส่วนที่ Spoil เรื่องราวในเกมอยู่
หมายเลข 2 และเพื่อนร่วมหน่วยโยร์ฮา 16 คนกำลังตื่นเต้นเพราะจะได้เห็นโลกเป็นครั้งแรกหลังจากที่ได้เห็นเพียงแค่ระบบซิมูเลเตอร์มาตลอด แต่พวกเธอไม่ได้ตระหนักเลยว่าจะต้องได้เจอกับสิ่งที่ไม่เหมือนตอนซ้อมอีกอย่าง นั่นคือความตายของเพื่อนๆ ในสนามรบ
หน่วยโยร์ฮาได้รับภารกิจเข้าต่อสู้เพื่อชิงพื้นที่โลกคืนจากมนุษย์ต่างดาว ที่สร้างหุ่นยนต์เข้าโจมตีโลกเมื่อหลายพันปีก่อน จนมนุษย์ต้องหนีไปอยู่บนดวงจันทร์ โดยสงครามในครั้งนี้นับเป็นสงครามครั้งที่ 14 แล้วที่แอนดรอยด์ถูกส่งลงมา พวกเธอถูกหุ่นยนต์โจมตีขณะที่กำลังร่อนลงสู่พื้น สมาชิกหน่วยถูกยิงจมสู่ก้นทะเลไปทีละคนๆ สุดท้ายหน่วยโยร์ฮาก็สามารถลงถึงพื้นโลกที่อ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์เพียง 4 คน นั้นคือ หมายเลข 2 กับ หมายเลข 4 แอนดรอยด์ต่อสู้ระยะปะชิด หมายเลข 16 มือสไนเปอร์ และ หมายเลข 21 มือแฮกระบบ
พวกหมายเลข 2 ถูกเหล่าหุ่นยนต์เข้าล้อม ไม่เห็นทางรอดแม้แต่น้อย ทั้งเมื่อส่งสัญญาณขอกำลังเสริม พวกเธอกลับได้รับการปฏิเสธและถูกสั่งให้สู้ต่อไปด้วยสมาชิกเพียง 4 คน สมาชิกหน่วยโยร์ฮาต่างระเบิดอารมณ์ออกมาทั้งๆ ที่พวกเธอได้รับคำสั่งให้ปิดกั้นความรู้สึก หมายเลข 16 ดึงผ้าปิดตาของเธอออก วิจารณ์การแต่งตัวของหมายเลข 4 ซึ่งโต้กลับว่าที่เธอแต่งตัวเช่นนี้ก็เพราะเธออยากดูน่ารัก และในความสิ้นหวังนั่นเอง พวกเธอก็ได้รับการช่วยเหลือจากแอนดรอยด์กลุ่มต่อต้านที่มีแผนเข้าโจมตีหุ่นยนต์บริเวณนี้พอดี
แอนดรอยด์กลุ่มต่อต้านเกิดจากการรวมตัวของแอนดรอยด์ที่ถูกส่งมาปฏิบัติภารกิจตั้งแต่สงครามครั้งที่ 8 แต่พวกเขากลับถูกฐานทอดทิ้งตัดขาดการติดต่อนานถึง 200 ปี จนต้องดื้นรนหาทางเอาชีวิตรอดกันเอง ทำให้พวกเขาค่อนข้างแค้นเหล่ามนุษย์และแอนดรอยด์ที่บังเกอร์ ไม่คิดจะกลับไปรวมกลุ่มด้วย สมาชิกของกลุ่มต่อต้านต่างพากันทิ้งชื่อที่เป็นรหัสของพวกตน ตั้งชื่อใหม่ที่เป็นของมนุษย์กันตามความต้องการ ถอดผ้าปิดตาออกมองสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าเป็นอิสระจากการถูกกำหนดเส้นทางโดยผู้อื่น อาศัยด้วยกันราวครอบครัว ปฏิสัมพันธ์กันอย่างพี่สาวกับน้องสาว ไม่ใช่เพื่อนร่วมงาน
เมื่อได้รู้ว่าทางฐานส่งหน่วยใหม่ลงมาปฏิบัติภารกิจโดยไม่ติดต่อพวกตนแม้แต่น้อย ทำให้แอนเนโมเน สมาชิกหน่วยต่อต้านโกรธจนทั้งสองกลุ่มมีปากเสียงและลงไม้ลงมือกัน แต่โรสผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มซึ่งใจเย็นกว่า ก็พยายามมองตามความเป็นจริงว่าเป็นเรื่องปรกติที่ทางฐานจะหาทางสร้างแอนดรอยด์ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าพวกเธอมาจัดการเหล่าหุ่นยนต์ที่มีวิวัฒนการเช่นกัน และการที่พวกเธอไม่สามารถติดต่อกับฐานบังเกอร์ได้ ทางกองทัพก็ย่อมไม่รู้ว่าพวกเธอยังรอดชีวิตอยู่ เธอและหมายเลข 2 จึงช่วยห้ามทัพสมาชิกของกลุ่มตัวเอง
ณ อีกสถานที่หนึ่ง ปรากฏร่างของเด็กหญิงในชุดสีแดงสองคนที่เหมือนกำลังมองสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างหน่วยโยร์ฮาและกลุ่มต่อต้าน พวกเธอมีท่าทีผิดหวังที่ทั้งสองกลุ่มไม่ลงมือฆ่ากันมาก
"ถ้าพวกเธอแค่ลงมือฆ่ากัน ถ้าพวกเธอแค่ระเบิดตัวเอง ถ้าพวกเธอแค่หยุดที่จะมีชีวิตต่อ ถ้าพวกเธอแค่จบชีวิตตัวเองซะล่ะก็..."
หมายเลข 2 อธิบายแผนการบุกยึดภูเขาคาอาลาที่ได้รับคำสั่งมาให้แก่หน่วยต่อต้าน พวกเธอทราบว่ามีประตูลับเชื่อมไปถึงลิฟท์ที่จะพาพวกเธอไปถึงที่นั่นได้ และเซิร์ฟเวอร์ที่คอยควบคุมหุ่นยนต์ทุกตัวก็อยู่ใต้ภูเขานั่นเอง แต่จะจัดการเซิร์ฟเวอร์นั้นได้อย่างไรนั้น ผู้บัญชาการบอกเพียงแค่ว่าเมื่อพวกเธอไปถึงที่นั่นได้ จึงจะได้รับคำสั่งต่อไป
เมื่อได้รับทราบแผนการของโยร์ฮา สมาชิกกลุ่มต่อต้านก็เริ่มอยากเข้าร่วมภารกิจนี้ด้วย หลังจากที่พวกเธอต้องต่อสู้โดยไม่เห็นชัยชนะ สิ่งนี้คือความหวังที่จะได้ใช้ชีวิตบนโลกอย่างสงบสุข โดยไม่ได้รู้เลยว่าสิ่งที่โยร์ฮาบอกพวกเธอไปล้วนคือคำลวงเพื่อยืมมือพวกเธอมาช่วยทำภารกิจของพวกตนให้สำเร็จตามคำสั่งที่ได้รับจากบังเกอร์
โรสพาพวกโยร์ฮามาพักที่ค่าย เมื่อสถานการณ์สงบ จู่ๆ หมายเลข 21 ก็ถอดผ้าปิดตาของเธอออก สร้างความหวาดกลัวให้ลิลี่ หนึ่งในสมาชิกกลุ่มต่อต้านมาก แต่แม้หมายเลข 21 จะอธิบายให้อีกฝ่ายว่าเธอเอาผ้าผิดตาออกเพียงเพราะตอนนี้ไม่ได้ปฏิบัติงาน ลิลี่ก็ยังไม่หายตื่นตระหนก เธอเป็นคนขี้กลัวและมักฝันร้ายว่ามีปีศาจมาฆ่า ความรู้สึกมากมายที่เธอเผชิญมันช่างสมจริงราวกับว่าเธอไม่ใช่สิ่งที่ถูกสร้าง แต่เป็นมนุษย์คนหนึ่ง แต่การได้พูดคุยกับคนใจเย็นอย่างหมายเลข 21 และการให้กำลังใจจากเอริก้า เพื่อนของเธอ ในที่สุดเธอก็สงบลงได้
หมายเลข 2 สอบถามสภาพความเป็นอยู่ของกลุ่มต่อต้านจากโรสที่เริ่มเหมือนมนุษย์มากขึ้นทุกวัน ไม่ใช่ด้วยร่างกาย แต่เป็นสิ่งที่เธอเป็น สิ่งที่เธอทำ แอนดรอยด์สาวละทิ้งหน้าที่ของตนที่ต้องทำงานเพื่อมนุษย์ เปลี่ยนมาต่อสู้เพื่อปกป้องพวกพ้องของตนเอง ใช้วิธีการทำงานแลกผลประโยชน์เช่นที่เธอตัดสินใจช่วยโยร์ฮา ส่วนหนึ่งก็เพราะเธอต้องการอาวุธของดวงจันทร์มาใช้ในค่าย และโรสยังรู้สึกได้ว่าหมายเลข 2 ก็น่าจะเป็นห่วงเพื่อนร่วมกลุ่มของเธอด้วยเช่นกัน ซึ่งหมายเลข 2 ก็อธิบายว่าเพราะคนๆ หนึ่งเคยสอนเธอไว้ว่าหากพวกเธอร่วมมือกันแล้ว ย่อมสามารถทำได้ทุกอย่าง โรสถูกใจหัวหน้ากลุ่มโยร์ฮามาก ถึงขนาดเสนอจะตั้งชื่อใหม่ที่ไม่ใช่รหัสให้อีกฝ่ายและเพื่อนของเธอ ทว่าหมายเลข 2 ก็ปฏิเสธไปและบอกว่าขอให้ภารกิจจบก่อน
ตอนนั้นเองลิลี่ก็มีอาการแปลกๆ เธอติดไวรัสจากศัตรูในการต่อสู้ครั้งล่าสุด และพวกโรสก็รู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับแอนดรอยด์ที่ติดไวรัส ข้อมูลของแอนดรอยด์คนนั้นจะถูกเขียนใหม่ ได้รับพลังของพวกหุ่นยนต์ และสูญเสียตัวตนทำร้ายคนอื่น โชคดีที่หมายเลข 21 ช่วยแฮกข้อมูลของลิลี่ ทำลายไวรัสในตัวของเธอได้ หน่วยต่อต้านจึงไม่จำเป็นต้องฆ่าพวกพ้องของตนเอง ส่วนลิลี่ก็ได้พลังควบคุมแรงดึงดูดของพวกหุ่นยนต์มาใช้ด้วย ความสำเร็จในการต่อต้านการเข้าครอบงำของศัตรูทำให้แอนดรอยด์ฮึกเหิม พวกเธอมองหน้ากันแล้วก็เปล่งเสียงหัวเราะออกมา โดยไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนกำลังจับตามองอยู่
เสียงหัวเราะของโยร์ฮาและสมาชิกกลุ่มต่อต้านสร้างความแปลกใจให้กับเด็กสาวในชุดสีแดง 2 คน ว่าเหตุใดพวกเธอจึงสามารถหัวเราะได้ในสถานการณ์เช่นนี้ แต่เมื่อได้ทบทวนดูแล้วพวกเธอก็พบว่ามนุษย์เองก็หัวเราะในสถานการณ์ต่างๆ เช่นกัน เพราะฉะนั้นการที่แอนดรอยด์หัวเราะทั้งที่ไม่ใช่มนุษย์จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับพวกเธอมาก แล้วทั้งสองก็ลองเปล่งเสียงหัวเราะด้วยกัน
ระหว่างทางขึ้นไปยังเขาคาอาลา พวกสาวๆ เริ่มพูดคุยถึงการมีตัวตนของพวกเธอ ความทรงจำที่พวกเธอมีอยู่ล้วนเป็นความทรงจำปลอมที่ได้รับจากมนุษย์ที่เคยมีชีวิต ทว่าแอนเนโมเนกลับอ้างว่าเธอจำมันไม่ได้ เมื่อถูกจี้ แอนดรอยด์สาวจึงหลุดออกมาว่านั่นคือสิ่งที่เธออยากจะลืม เพราะนั่นไม่ได้ใช่ตัวของเธอแม้แต่น้อย ทว่าหมายเลข 4 ได้แย้งขึ้นมาว่าการที่พวกเธอได้รับความทรงจำมา ทำให้พวกเธอมีความหวังที่จะสู้ต่อไป
หมายเลข 21 เริ่มคิดว่าหน้าที่ของเธอใกล้จะจบลงแล้ว เพราะแอนดรอยด์แฮกระบบแทบจะไม่มีประโยชน์ในการต่อสู้ระยะปะชิด เมื่อได้ยินดังนั้น แอนเนโมเนที่ใช้ชีวิตที่ผ่านมาโดยค่อยๆ สูญเสียเพื่อนไปทีละคนก็บอกให้อีกฝ่ายมีความหวังที่จะมีชีวิตต่อไป และหากคิดว่าการเป็นคนที่เหลือรอดอยู่เป็นความผิดล่ะก็ เธอจะเป็นคนช่วยจบชีวิตหมายเลข 21 เอง เพราะฉะนั้นอย่าถามเรื่องความหมายของการมีชีวิตอยู่ เพราะเมื่อถึงเวลาหมายเลข 21 จะเข้าใจมัน
การเดินทางพร้อมกับฝ่าฝันเหล่าหุ่นยนต์ยังคงดำเนินต่อไป ระหว่างนั้นหมายเลข 2 ก็นึกถึงเรื่องในอดีต
ตอนที่เธอยังฝึกซ้อมการรบอยู่บนดวงจันทร์ เธอได้พบกับแอนดรอยด์ตกรุ่นที่ชื่อว่าซีด (Seed) ซึ่งเป็นแอนดรอยด์ทดสอบอาวุธ อีกทั้งเธอยังมีชีวิตมาตั้งแต่สมัยที่มนุษย์ยังคงอยู่บนโลก แม้ซีดจะเข้มงวด แต่ทั้งคู่ก็สนิทสนมกัน และชอบที่จะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดผิดจากคำสั่งปิดกั้นอารมณ์ที่พวกเธอได้รับมา
ณ ฐานบังเกอร์บนดวงจันทร์ แอนดรอยด์กำลังตื่นเต้นว่าหากหน่วยโยร์ฮาสามารถทำลายเซิร์ฟเวอร์ใต้ภูเขาคาอาลาได้ พวกตนจะถือไพ่เหนือกว่าพวกหุ่นยนต์มาเพียงใด และความหวังที่จะช่วยให้มนุษย์กลับสู่บ้านเกิดคงไม่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป ทว่าผู้บัญชาการกลับมองมอนิเตอร์นิ่ง ก่อนกล่าวว่าหน่วยโยร์ฮาไม่มีวันปฏิบัติภารกิจนี้ได้สำเร็จ เพราะสิ่งนี้ล้วนแต่เป็นบทที่ถูกเขียนมาก่อนแล้ว และสิ่งที่โยร์ฮาได้ต่อสู้มาตลอดก็ไร้ความหมายใดๆ ต่อพวกเธอ
ขณะเดียวกันหุ่นยนต์กลุ่มใหญ่ก็เข้าปะชิดหน่วยโยร์ฮาและกลุ่มต่อต้านที่บุกขึ้นมายังเขาคาอาลา
รุ่งเช้าสถานการณ์ของโยร์ฮาและกลุ่มต่อต้านเข้าขั้นวิกฤต แม้หมายเลข 2 จะติดต่อขอแผนการรับมือจากผู้บัญชาการ เธอก็พบว่าหัวหน้าไม่ยอมพูดกับเธอโดยตรงและให้โอเปเรเตอร์มาประสานงานแทน แต่ไม่ว่าจะขอร้องอย่างไร ทางฐานก็ปฏิเสธการส่งกำลังเข้ามาช่วยเหลือพวกเธอ ทั้งยังเสนอให้สมาชิกหน่วยต่อต้านช่วยอยู่เป็นโล่กันพวกหุ่นยนต์ให้โยร์ฮาขณะเข้าไปทำลายเซิร์ฟเวอร์
แม้อีกฝ่ายจะพูดจาเห็นแก่ตัว และการทำตามคำสั่งนั้นจะเป็นการกระทำที่บ้าบิ่นราวเอาชีวิตไปทิ้ง แต่สมาชิกกลุ่มต่อต้านส่วนหนึ่งก็ยอมอยู่ที่นี่เพื่อปกป้องครอบครัวของพวกเธอ โดยมีหมายเลข 16 ที่ตัดสินใจต่อสู้ตรงนี้ด้วยเช่นกัน กลุ่มจึงถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือคนที่อยู่ต้านพวกหุ่นยนต์ที่นี่ และกลุ่มที่มุ่งหน้าไปทำลายเซิร์ฟเวอร์
หมายเลข 2 หมายเลข 4 หมายเลข 21 โรส แอนเนโมเน และสมาชิกกลุ่มต่อต้านอีก 4 คน เดินทางมาถึงลิฟท์มุ่งสู่ใต้ดิน ทว่าแม้หมายเลข 21 จะช่วยแฮกระบบให้มันทำงานได้ เธอก็จำเป็นต้องอยู่ที่นี่เพื่อป้องกันไม่ให้หุ่นยนต์เข้ามาวุ่นวายกับลิฟท์จนทำให้พวกหมายเลข 2 เดินทางไปไม่ถึงห้องเซิร์ฟเวอร์ และขณะที่หุ่นยนต์เริ่มใกล้เข้ามานั่นเอง แอนเนโมเนก็ตัดสินใจที่จะอยู่ปกป้องหมายเลข 21 เพื่อไม่ให้การตัดสินใจของทั้งคู่ต้องสูญเปล่า สมาชิกที่เหลือจึงรีบลงลิฟท์สู่ชั้นใต้ดิน
เมื่ออยู่กันเพียงลำพัง แอนเนโมเนค่อยๆ เดินเข้าไปหาหมายเลข 21 เธอรู้ว่าที่หมายเลข 21 ตั้งใจอยู่ที่นี่ไม่ใช่เพียงเพราะตามคำที่เธออ้าง แต่โยร์ฮาสาวได้ติดไวรัสชนิดเดียวกับลิลี่ และครั้งนี้ไวรัสก็ได้พัฒนาตัวเองจนเกินกว่าที่เธอจะสามารถกำจัดมันได้ ข้อมูลของเธอกำลังจะถูกเปลี่ยน และเธอก็ดีใจที่แอนเนโมเนอยู่ที่นี่เพื่อช่วยจบชีวิตของเธอ
หมายเลข 2 นึกถึงเวลาก่อนที่เธอจะได้ลงมาปฏิบัติภารกิจบนโลก ผู้บัญชาการได้มอบข้อความสุดท้ายที่ซีดได้ทิ้งไว้ให้กับเธอ แอนดรอยด์ทดสอบอาวุธได้เสียชีวิตในหน้าที่ระหว่างการทดสอบอาวุธชิ้นใหม่ให้แก่เหล่าโยร์ฮา
ถึงแม้แอนดรอยด์จะไม่มีวิญญาณ แต่การที่เธอทิ้งสิ่งนี้ให้แก่หมายเลข 2 นั่นอาจทำให้เธอสร้างวิญญาณของตัวเองขึ้นผ่านข้อความนี้ได้ ถึงแม้พวกเธอจะมีชีวิตเพื่อต่อสู้ให้กับมนุษย์ แต่ซีดก็ไม่อยากหมายเลข 2 ใช้ชีวิตเช่นเธอ เธอหวังว่าหมายเลข 2 จะสามารถหาเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป เหตุผลของตัวเธอเองที่ไม่ได้ถูกกำหนดโดยใครที่ไหน และขอบคุณที่พูดคุยกับเธอ
หมายเลข 16 และสมาชิกกลุ่มต่อต้านได้เผชิญกับหุ่นยนต์ยักษ์ที่แม้ลิลี่จะใช้พลังแรงดึงดูดที่ได้รับมาใหม่ก็ไม่สามารถหยุดมันได้ พวกเธอจึงปลดที่เก็บพลังงานของตนส่งไปเป็นแหล่งพลังงานให้ปืนของหมายเลข 16 แรงระเบิดทำให้พื้นดินสั่นไหวจนกลุ่มของหมายเลข 2 ที่อยู่ในลิฟท์รับรู้ได้ และเข้าใจทันทีว่าคงไม่ได้พบกับพวกเธออีกแล้ว
สมาชิกกลุ่มต่อต้านอธิบายว่าพวกเธอรู้ว่าหมายเลข 21 ติดไวรัสและคงจะตายในอีกไม่นาน เมื่อได้ยินดังนั้นหมายเลข 2 ก็ขอร้องให้กลับขึ้นไปช่วยอีกฝ่าย โรสเตือนสติของเธอที่อยู่ในฐานะหัวหน้าเอาไว้ว่าหมายเลข 2 เป็นคนตัดสินใจยอมทิ้งทั้งสองอยู่เบื้องหลังเอง และเธอจะต้องรับผิดชอบเรื่องนี้โดยการไม่ทำให้การเสียสละของทั้งคู่และสมาชิกกลุ่มต่อต้านต้องไร้ประโยชน์
ตอนนั้นเองที่สมาชิกในกลุ่มเริ่มตั้งคำถาม
ทำไมพวกเธอถึงต้องต่อสู้
ทำไมพวกเธอถึงได้ถูกสร้างให้มีความรู้สึก
ทำไมพวกเธอถึงถูกสร้างให้เหมือนมนุษย์
ทำไมพวกมนุษย์ถึงไม่ต่อสู้เอง
และทำไมพวกเธอถึงได้รับความทรงจำปลอมจากพวกเขา
โรสที่มีความทรงจำของเด็กชายที่มีพ่อเป็นทหาร ความรู้สึกตอนที่พ่อลูบหัวของเธอด้วยมือหนาใหญ่นั้นแจ่มชัดยิ่งกว่าควาทรงจำจริงๆ ของเธอเองเสียอีก
หมายเลข 4 ผู้มีความทรงจำของเด็กนักเรียนสาวในชุดเครื่องแบบกะลาสีที่เที่ยวเล่นอย่างมีความสุขกับเพื่อน
ลิลี่ที่มีความทรงจำเลวร้ายจนทำให้เธอฝันร้ายบ่อยๆ
หมายเลข 2 ผู้มีความทรงจำของเด็กหญิงคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตเงียบสงบกับคุณย่าในฟาร์มของที่บ้าน
แต่พวกเธอก็ยังสามารถสร้างความทรงจำใหม่ๆ ขึ้นมาได้ เวลาที่พวกเธอได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันคือความทรงจำที่แท้จริง นั่นทำให้พวกเธอยังคงมีความหวัง หุ่นยนต์ไม่รู้จักกลัวเพราะพวกมันไม่มีความรู้สึก แต่การวิวัฒนการก็อาจทำให้พวกมันได้ความรู้สึกมาในวันหนึ่ง และนั่นคงจะทำให้มันยิ่งอันตรายยิ่งขึ้น ก่อนจะถึงวันนั้นพวกเธอต้องจัดการมันให้ได้
สมาชิกกลุ่มต่อต้านที่เหลือรอดบนเขาสองคนไม่ต้องการพรากจากกัน พร้อมใจระเบิดตนไปพร้อมศัตรู
แอนเนโมเนจบชีวิตให้หมายเลข 21 ซึ่งเอ่ยขอบคุณที่อีกฝ่ายอยู่กับเธอ สร้างความทรงจำใหม่ที่ทำให้เธอได้รู้ว่ามันเป็นความทรงจำที่แท้จริง ไม่ใช่ความทรงจำปลอมๆ ที่ถูกใส่มา
แต่แม้จะไม่ใช่ของจริง มันก็ยังสำคัญกับพวกเธอ ความทรงจำของสัมผัสจากผ้าถักที่ย่าทำให้ ความหนาวเย็นตอนที่ยืนกลางสายฝน ความเงียบเหงาของหิมะ ความอบอุ่นของฤดูใบไม้ผลิ ความทรงจำที่ได้กินของอร่อยกับเพื่อนๆ ตอนเล่นแต่งตัวด้วยกัน หรือตอนที่เล่นเกมด้วยกัน
แม้การทำการเกษตรจะยากลำบาก แต่พอได้เพื่อนบ้านร่วมใจกันช่วยเหลือ พวกเธอก็สามารถผ่านมันไปได้
แม้ว่าข้อสอบจะยากแค่ไหน พอเพื่อนๆ ช่วยติวให้ เธอก็สามารถผ่านมันมาได้
และพวกเธอจะนำไปมันติดตัวไปจนถึงนาทีสุดท้าย
ณ ฐานบังเกอร์บนดวงจันทร์ โอเปเรเตอร์กำลังรายงานการระเบิด และสัญญาณที่ขาดหายไปของหมายเลข 16 และหมายเลข 21 ผู้บัญชาการหลับตาลง พลางนึกถึงความหลังตอนที่ทดสอบเรื่องการทนต่อความกดดันในการเผชิญกับความเครียดของหน่วยโยร์ฮา โดยผู้ที่ทดสอบระบบนี้คือซีด
คลื่นไฟฟ้าที่ส่งไปกดดันระบบของซีดเพิ่มขึ้นเรือยๆ พร้อมกับความเจ็บปวดที่เธอได้รับ คลื่นไฟฟ้า 120% 150% 180% แต่เธอก็ยังต้องการดำเนินการทดลองต่อ ทั้งหมดนี้เธอทำเพื่อความปลอดภัยของเหล่าโยร์ฮา 200% 210% 220%
การทดลองจบลงที่คลื่นไฟฟ้า 228% และการจากไปของแอนดรอยด์ทดสอบอาวุธ
ในที่สุดพวกหมายเลข 2 ก็ลงมาถึงห้องเซิร์ฟเวอร์ ที่นั่นพวกเธอก็ได้พบกับเด็กหญิงในชุดสีแดง 2 คน ที่เคลื่อนไหวราวตุ๊กตา พวกเธอกล่าวว่าตัวเองคือระบบควบคุมการทำงานของเหล่าหุ่นยนต์ และถูกสร้างรูปลักษณ์เลียนแบบแอนดรอยด์ เมื่อได้ยินดังนั้นหมายเลข 2 จึงพยายามติดต่อหาผู้บัญชาการ ทว่าเด็กหญิงกลับส่งสัญญาณรบกวนทำให้ไม่อาจติดต่อฐานได้
เด็กหญิง B : พวกเราก็แค่อยากจะพูดคุยกับพวกเธอ
เด็กหญิง A : พวกเรารอพวกเธอมานานแล้ว
เด็กหญิง B : พวกเราเฝ้ามองพวกเธอมาตลอด
เด็กหญิง A : ทำไมพวกเธอต้องพยายามขนาดนั้นล่ะ
เด็กหญิง B : ทำไมถึงอยากตายกันขนาดนั้นล่ะ
โรส : พูดจาอะไรไร้สาระ ก็เป็นเพราะพวกหุ่นยนต์อย่างแกขโมยโลกใบนี้ไปจากมนุษย์ยังไงล่ะ
เด็กหญิง A : ทั้งที่พวกมนุษย์เป็นฝ่ายทอดทิ้งพวกเธอน่ะเหรอ
เด็กหญิง B : ทั้งที่พวกเธอมีชีวิตเพียงเพื่อตายเท่านั้นน่ะเหรอ
หมายเลข 2 : ไม่ใช่ พวกเรามาที่นี่เพื่อสู้ก็จริง แต่พวกเราจะไม่ยอมตายง่ายๆ หรอก
หมายเลข 4 เริ่มเข้าโจมตีเด็กหญิงทั้งสอง แต่พวกเธอกลับหลบได้
เด็กหญิง A : ตอนที่พวกเราแฮกระบบของพวกเธอ พวกเราได้เจอเรื่องน่าสนใจด้วยล่ะ
เด็กหญิง B : แล้วมันก็เป็นเรื่องสำคัญมากเลย เพราะฉะนั้นตั้งใจฟังให้ดีๆ นะ
เด็กหญิง A : การที่หน่วยโยร์ฮาถูกสร้างขึ้น ก็เป็นแค่หนึ่งในการทดลองการสร้างอาวุธเท่านั้น
เด็กหญิง B : ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นแผนของผู้บัญชาการของพวกเธอ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ที่ไม่ได้อยู่ในแผน หรือสิ่งที่พวกเธอได้เจอทั้งหมด
เด็กหญิง A : แล้วถึงพวกเธอจะจัดการกับเซิร์ฟเวอร์ที่นี่ได้ พวกหุ่นยนต์ก็แทบไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย
เด็กหญิง B : พวกมนุษย์แค่ต้องการข้อมูลประสบการณ์ของพวกเธอ เพื่อเอาไปสร้างแอยดรอยด์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเท่านั้น
เด็กหญิง A : การร่วมมือกับกลุ่มต่อต้านก็เป็นเรื่องที่ถูกเตรียมไว้อยู่แล้ว
เด็กหญิง B : ตามแผนการของผู้บัญชาการของพวกเธอ พวกกลุ่มต่อต้านจะถูกจำกัดไปทั้งหมดตอนที่ช่วยให้พวกเธอมาถึงที่นี่
หมายเลข 2 : หมายความว่า พวกเขาตั้งใจให้เรื่องทั้งหมดเป็นอย่างนี้อย่างนั้นเหรอ
เด็กหญฺิง A : ใช่แล้ว แล้วพวกเธอยังอยากต่อสู้อยู่หรือเปล่า
เด็กหญฺิง B : ใช่แล้ว แล้วพวกเธออยากต่อต้านหรือเปล่า
ตอนนั้นเอหมายเลข 4 ก็ช่วยเรียกสติของหมายเลข 2 ที่กำลังสับสนว่าเรื่องที่เด็กหญิงทั้งสองพูดอาจเป็นเรื่องโกหก พวกเธอเตรียมตัวเข้าต่อสู้อีกครั้ง เด็กหญิงเรียกเหล่าหุ่นยนต์ออกมา ก่อนที่สมาชิกกลุ่มต่อต้าน 3 คน จะติดไวรัสและเข้าโจมตีพวกเธอ โรสเอาตัวป้องกันสมาชิกกลุ่มที่เธอเหมือนน้องสาวจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่สุดท้ายสมาชิกกลุ่มที่เธอปกป้องก็ถูกโจมตีเสียชีวิตเช่นกัน เมื่อเห็นภาพนั้นเด็กหญิงชุดสีแดงก็ถามขึ้นมาอีก
เด็กหญิง A : ทำไมพวกเธอถึงต้องสู้ล่ะ
เด็กหญิง B : ทำไมพวกเธอถึงอยากตายกันล่ะ
เด็กหญิง A : ยังจะมีความหวังอะไรอยู่อีกอย่างนั้นเหรอ
เด็กหญิง B : พวกเธอคิดว่าจะจัดการพวกเราได้อย่างนั้นเหรอ
หมายเลข 4 : ฉันไม่รู้หรอกว่าจะจัดการพวกเธอได้ไหม แต่ฉันต้องสู้
เด็กหญิง A : ทำไมถึงต้องพยายามทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างนั้นล่ะ
เด็กหญิง B : พวกเธอยังมีความหวังอยู่อีกหรือ
สมาชิกกลุ่มต่อต้านที่ถูกควบคุมเข้าโจมตีหมายเลข 4 จนเธอล้มไปหมายเลข 2 จึงรีบเข้าไปดูสมาชิกหน่วยคนสุดท้ายของเธอ
หมายเลข 4 : ขอโทษนะ... ฉันทำหน้าที่ได้ไม่ดีใช่ไหม
หมายเลข 2 : ไม่จริง เธอทำงานได้ดีมาก เป็นความผิดของฉันเอง... ที่พาพวกเธอทั้งหมดมาที่นี่
หมายเลข 4 : ไม่ใช่หรอก หมายเลข 2 พวกเราเป็นคนตัดสินใจที่จะมาที่นี่เอง ขอบคุณนะ... ที่ช่วยให้เหตุผลในการมีชีวิตกับพวกเรา...
เด็กหญิง A : นี่คือความสวยงามของการเสียสละตัวเองอย่างนั้นเหรอ
เด็กหญิง B : นี่คือความโศกเศร้าของการเสียสละตัวเองอย่างนั้นเหรอ
เด็กหญิง A : น่าสนุกมากเลย ฮาๆๆๆๆ
เด็กหญิง B : น่าสนใจมากเลย ฮาๆๆๆๆ
หมายเลข 4 ฝืนตัวเองขึ้นเข้าโจมตีเด็กหญิงทั้งสองอีกครั้ง ขณะเดียวกันหมายเลข 2 ก็สามารถจัดการสมาชิกกลุ่มต่อต้านทั้ง 3 คน ที่ติดไวรัสจนสูญเสียตัวตนไป เธอเอ่ยขอโทษพวกเขา ก่อนจะเข้าไปช่วย หมายเลข 4 โจมตีเด็กหญิงทั้งสอง แต่การโจมตีของพวกเธอกลับไปส่งผลใดๆ กับทั้งคู่เลยแม้แต่น้อย
เด็กหญิง A : พวกเธอฆ่าพวกเราไม่ได้หรอก
เด็กหญิง B : พวกเธอทำลายพวกเราไม่ได้หรอก
หมายเลข 2 : ทำไมกัน...
เด็กหญิง A : ฉันมีชื่อว่าเทอม อัลฟา
เด็กหญิง B : ฉันมีชื่อว่าเทอม เบต้า
เด็กหญิง A : พวกเราเป็นระบบควบคุม ไม่มากหรือน้อยไปกว่านั้น
เด็กหญิง B : พวกเราเป็นคนที่ควบคุมให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้นมาไงล่ะ
เด็กหญิงทั้งสองอธิบายว่าหากต้องการระเบิดที่นี่จะต้องให้พลังงานระดับเดียวกับระเบิดนิวเคลียร์ ก่อนจะบอกให้โยร์ฮาทั้งสองลองสังเกตแกนกลางควบคุมของพวกเธอเอง เมื่อหมายเลข 2 ยกมือขึ้นจับหน้าอก เธอก็พบว่ามันมีระเบิดอยู่ในนั้น หน่วยโยร์ฮาทุกคนถูกฝังระเบิดทำลายตัวเองที่จะเริ่มทำงานหลังเผชิญความกดดันระดับสูง เช่นเดียวกับที่ใช้ทดลองกับซีด พวกเธอถูกบังคับให้ยอมเสียสละตนทำลายที่แห่งนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
หมายเลข 2 : ม่ะ ไม่จริง ท่านผู้บัญชาการไม่มีทาง...
เด็กหญิง A : พวกเธอทุกคนต้องถูกทำลาย แต่ว่า...
เด็กหญิง B : แต่ว่าพวกเธอก็ยังไม่ได้เป็นผู้ชนะอยู่ดี
เด็กหญิง A : แต่ถึงสถานการณ์จะเป็นแบบนี้ แอนดรอยด์ก็ยังหัวเราะได้ใช่ไหม
เด็กหญิง B : ก็เรื่องนี้มันบีบคั้นอารมณ์สุดๆ เลยนี่ เธอก็จะหัวเราะใช่ไหม
เด็กหญิง : ฮาๆๆๆๆ
จู่ๆ หมายเลข 4 ก็หันมามองหน้าหัวหน้าหน่วยของเธอ เธอกล่าวลาเพียงคำสั้นๆ ก่อนพุ่งตัวไปหาเด็กหญิงทั้งสองคน แล้วเสียงระเบิดก็ดังกึกก้อง
ฐานบังเกอร์ เจ้าหน้าที่ฝ่านต่างๆ กำลังเก็บข้อมูลภารกิจของโยร์ฮา เซิร์ฟเวอร์ในเขาคาอาลาถูกทำลายลงแล้ว หุ่นยนต์ที่อยู่รอบๆ รัศมี 250 กม. หยุดการทำงาน ข้อมูลการต่อสู้ของหน่วยโยร์ฮาถูกส่งกลับมายังฐานเพื่อนำไปปรับปรุงสร้างแอนดรอยด์โยร์ฮารุ่นใหม่ การเสียสละตนของโยร์ฮารุ่นแรกจะไม่สูญเปล่า และพวกเขาก็ประกาศเสร็จสิ้นภารกิจบุกโจมตีเขาคาอาลา
เพื่อความรุ่งเรืองของมนุษยชาติ
เด็กหญิง : แอนดรอยด์นี่น่าประหลาดจังเลยนะ
เด็กหญิง A : พวกเขาพยายามวางแผนต่อสู้กับพวกเราในสถานที่แบบนี้เหรอเนี่ย
เด็กหญิง B : ถึงจะรู้ว่าไม่มีวันทำลายหุ่นยนต์อย่างพวกเราได้อย่างนั้นเหรอ
เด็กหญิงในชุดสีแดงที่แฮกระบบเข้ามายังบังเกอร์สำรวจสถานที่ของศัตรูอย่างตื่นเต้น ทันใดนั้นภายในห้องบัญชาการที่ไร้ผู้ใด หน้าจอมอนิเตอร์ก็เปิดขึ้นและส่งเสียงบางอย่างออกมา
ตรวจพบสัญญาณ Black Box จากหน่วยโยร์ฮา ยืนยันหมายเลข 2 หัวหน้าหน่วยโยร์ฮาคนปัจจุบันรอดชีวิต โปรดตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับหมายเลข 2 ย้ำอีกครั้ง โปรดตัดสินใจว่า...
เด็กหญิงยกมือสัมผัสหน้าจอมอนิเตอร์ก่อนที่มันจะดับไป
เด็กหญิง : แอนดรอยด์นี่น่าสนใจจังเลยนะ
เด็กหญิง A : พวกเราจะยังเล่นบนโลกนี้ต่ออีกหน่อยใช่ไหม
เด็กหญิง B : นั่นสิ ก็โลกนี้มันน่าสนใจดีเนอะ
เด็กหญิงทั้งสองหัวเราะด้วยเสียงที่ไม่ต่างจากมนุษย์ ขณะเดียวกันบนพื้นโลกหมายเลข 2 ที่รอดชีวิตมากำลังยืนอยู่ใจกลางซากหุ่นยนต์ที่จัดการไป แล้วเธอก็ตัดสินใจถอดผ้าปิดตาของตนเองออก
ตรวจพบสัญญาณ Black Box จากหน่วยโยร์ฮา ยืนยันหมายเลข 2 หัวหน้าหน่วยโยร์ฮาคนปัจจุบันรอดชีวิต
หมายเลข 2 ยกดาบของตนชี้ขึ้นบนฟ้าราวกับจะท้าทายเหล่าผู้คนที่อยู่บนนั้น เธอค้นหาเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่ของตนเองได้แล้ว
และนี่จะเป็นการแก้แค้นของเธอ
เครดิทบท Stage Play ภาษาอังกฤษ คลิ๊ก
ทางนี้ก็ต้องขอบคุณมากค่ะที่ให้ความสนใจบทความ ^^
ตอบลบDark มากสมชื่อ Yoko Taro จริงๆ
ตอบลบYoko Taro ไม่เคยปล่อยให้ตัวละครเหลือรอดเกิน 40% ของเรื่องจริงๆ ค่ะ 555
ลบขอบคุณสำหรับบทความดีๆมากเลยครับ กำลังเล่น Nier Automata บนps4 อยู่ ประกอบกับอ่านข้อมูลที่คุณ ปลาดาวพ้นน้ำ เขียนอินมากๆเลยครับ ^^
ตอบลบ