Spoil NieR Gestalt/Replicant Part 27 สรุปเนื้อเรื่องที่ขาดหาย



มีเนื้อเรื่องหลายอย่างที่ในตัวเกมไม่ได้บอกเอาไว้ ทั้งเหตุการณ์ที่เกิดระหว่างปี 2003 จนมาถึงตอนที่เนียร์ คนที่ต่อมากลายเป็นชาโดวลอร์ด เปลี่ยนเป็น Gestalt รวมไปถึงเหตุการณ์หลังจากมนุษย์กลายเป็น Gestalt จนถึงช่วงที่เนียร์ Replicant ดำเนินเรื่อง แต่ทางค่ายเกมได้เขียนเรื่องเหล่านี้ในหนังสือที่มีชื่อว่า กรีมัว เนียร์ ซึ่งออกมาจำหน่ายภายหลังเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น อธิบายเรื่องราวที่ขาดหายไป ทำให้เราเข้าใจความเป็นมาของเนื้อเรื่องในเกมมากขึ้น แถมทำให้ปวดใจมากขึ้นอีกด้วย

การเรียนรู้เนื้อเรื่องที่กระโดดไปมาในเกม ก่อนมาทำความเข้าใจเนื้อเรื่องทั้งหมดจะทำให้เรารู้สึกมีส่วนร่วมมากกว่ารู้เรื่องราวก่อน ใครที่ยังไม่ได้อ่านเนื้อเรื่องก่อนหน้า เลยอยากให้ไปอ่านทั้งหมดก่อนนะคะ

สรุปเนื้อเรื่องตาม Timeline ของ NieR
  • ในปี 2003 ไคม์และมังกรแดง คู่หูของเขาได้ถูกย้ายมิติมายังโตเกียว เขตชินจูกุ พวกเขาปราบเทพธิดา The Queen Beast ตัวร้ายของเกม Drag on Dragoon ลงได้ แต่ทั้งสองก็ถูกเครื่องบินจากกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นยิงเสียชีวิต
  • ศพของเทพธิดาแตกสลายกลายเป็นอนุภาคที่ต่อมาถูกตั้งชื่อว่า MASO มันกระจายไปทั่วชินจูกุ มนุษย์ที่ได้สัมผัสจะโดนคำสาปบังคับให้ทำพันธะสัญญากับเทพ พวกเขาจะสูญเสียตัวตน กลายร่างเป็น Regions ปีศาจร่างกายสีขาว ส่วนมนุษย์ที่ไม่ยอมทำพันธะจะเสียชีวิตโดยถูกเปลี่ยนร่างกายเป็นเกลือ อาการนี้ถูกเรียกว่า White Chlorination Syndrome (WCS)
  • ในฉากเปิดเกมที่ในโตเกียวซึ่งเต็มไปด้วยหิมะ ฉากนี้มี BGM ชื่อว่า Snow in Summer แต่ไม่ใช่เพราะอากาศแปรปรวนจนหิมะตกในฤดูร้อนได้ เพราะหิมะที่เห็นคือมนุษย์ที่ถูก WCS กลายเป็นเกลือ
  • มนุษย์ที่เปลี่ยนเป็น Legions จะมีพฤติกรรมดุร้าย ป่าเถื่อน ออกทำร้ายมนุษย์คนอื่น และมีปีศาจดวงตาสีแดง Red Eyes เป็นหัวหน้า
  • สหประชาชาติกดดันให้รัฐบาลญี่ปุ่นพยายามหาทางรักษา WCS พร้อมกันนั้นก็ปิดข่าวจากสาธารณะชน ศพของมังกรแดงและ Legions ถูกขนย้ายออกไปศึกษานอกประเทศ ส่วนญี่ปุ่นตัดสินใจสร้างกำแพงปิดล้อมชินจูกุเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค
  • แต่แล้วกำแพงก็ถูกทำลายจากข้างใน Legions ออกมาเข่นฆ่าผู้คนที่ได้พบเจอ และ WCS แพร่กระจายเป็นวงกว้างขึ้น โลกจึงตัดสินใจทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ทำลายแหล่งระบาด แต่ความร้อนไม่อาจทำลาย MASO ได้ และกลายเป็นว่าแรงระเบิดทำให้โรคกระจายออกไปยังเขตอื่นๆ ในที่สุด WCS ก็ค่อยๆ ลามไปทั่วโลก
  • การศึกษาศพของมังกรแดงทำให้สหประชาชาติค้นพบวิธีนำพลังงานจากต่างมิติมาใช้ผ่าน MASO ของมังกร ซึ่งก็คือเวทมนต์นั่นเอง แต่ศพของมังกรแดงก็ถูกกองกำลังไม่ทราบฝ่ายขโมยไป และสาบสูญไปในเวลาต่อมา
  • เพื่อหนีจากโรคร้าย โครงการ Gestalt ถูกเริ่มต้นขึ้นในเดือนมีนาคม ปี 2014 โดยใช้ MASO ของมังกรแดงในการแยกวิญญาณออกจากกายหยาบ
  • มีการประกาศข้อมูลโครงการ Gestalt ต่อสาธารณะชนเป็นครั้งแรกในปี 2015 แต่ก็ถูกต่อต้านอย่างหนัก เพราะผู้คนไม่มั่นใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับวิญญาณหลังจากที่สูญเสียร่างกายไป
  • ปี 2016 มนุษยชาติได้คิดค้นยา Luciferase ซึ่งสามารถต้าน WCS ในระดับหนึ่งได้ จึงรีบใช้ยาตัวนี้กับทหาร จัดทัพไปรบกับ Regions สงครามนี้ถูกเรียกว่าสงครามครูเสดครั้งที่ 1 แต่พวกเขาก็ได้รับความพ่ายแพ้กลับมาทุกครั้ง
  • การศึกษาต่อมาทำให้ทราบว่า Luciferase ได้ผลดีในกลุ่มผู้ทดลองที่เป็นเด็ก จึงมีการนำเด็กที่มีร่างกายแข็งแรงมารับยาและฝึกฝนให้เป็นทหารสำหรับต่อสู้กับ Legions องค์กรที่ทำหน้าที่นี้มีชื่อว่าฮาเมลิน เด็กๆ ที่ถูกฝึกได้เข้าร่วมสงครามครั้งแรกในสงครามครูเสดครั้งที่ 5
  • มีเด็กบางคนที่สมัครใจเข้าร่วมองค์กรฮาเมลินก็จริง แต่ส่วนมากแล้วเป็นเด็กกำพร้า หรือไม่ก็ถูกองค์กรลักพาตัวมา
  • ในปี 2018 มีการจัดตั้งหน่วยทดลองอาวุธแห่งสหประชาชาติขึ้น เพื่อทดลองนำ MASO จากมังกรแดงมาดัดแปลงมนุษย์ให้กลายเป็นอาวุธที่สามารถใช้เวทมนต์ได้ เอมิลกับฮาลัวก็เป็นหนึ่งในกลุ่มเด็กๆ ที่ถูกนำตัวมาทดลองในหน่วยงานนี้
  • สงครามที่ยาวนานระหว่าง Legions และองค์กรฮาเมลินทำให้เศรษฐกิจของโลกเข้าขั้นวิกฤต เกิดช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจนขึ้นทุกย่อมหญ้า สลัมผุดเป็นดอกเห็ด ความเป็นอยู่ของประชาชนส่วนใหญ่แย่ลงมาก
  • ยูระ มาซาโยชิ เป็นหนึ่งในหัวหน้าหน่วยทหารขององค์กรฮาเมลิน เขาเป็นคนโหดเหี้ยม ชอบการฆ่าฟัน ใช้ความหวาดกลัวคุมทหารในสังกัด เขานำทหารหน่วยของตนไปรับงานส่วนตัวหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ซึ่งผู้ว่าจ้างคือคาลิ ย่าของไคเน หน่วยของยูระต้องช่วยคุ้มครองเธอฝ่าเหล่า Legions กลับบ้าน ทำให้ทหารหน่วยของเขาเสียชีวิตทั้งหมด นอกจากนั้นยูระยังได้เอาหมายเลข 7 อาวุธที่อยู่ภายใต้การดูแลขององค์กรมาใช้ ด้วยเหตุนี้ทำให้เขาต้องหลบหนีความผิดจากองค์กรและเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็นไทเรนน์
  • ปี 2025 มีการสร้าง Replicant ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยอาศัยข้อมูลจากร่าง Gestalt ของคนๆ นั้น ขจัดปัญหาว่าหากสละกายหยาบแล้ว Gestalt จะไปอยู่ที่ใดได้ในที่สุด
  • ปี 2026 หมายเลข 6 อาวุธที่เกิดจากการดัดแปลงฮาลัว เกิดคลุ้มคลั่งไม่สามารถควบคุมได้ ทางหน่วยงานจึงต้องนำหมายเลข 7 หรือก็คือเอมิลน้องชายของเธอ ใช้คำสาปทำให้เป็นหินปิดผนึกหมายเลข 6 เอาไว้
  • เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หน่วยงานทดลองอาวุธแห่งสหประชาชาติถูกยุบ ยุติการนำ MASO มาทดลองกับมนุษย์เพราะผลที่ได้อันตรายเกินไปและไม่สามารถควบคุมได้
  • ปี 2030 หัวหน้าหน่วยของนักรบครูเสดแห่งองค์กรฮาเมลิน สามารถปราบปีศาจ Red Eyes ได้ในสงครามครั้งที่ 14 ณ เมืองเยรูซาเล็ม พอหัวหน้าถูกจำกัด เหล่า Legion ก็แตกกระจายและอ่อนแอลง ทว่า WCS ก็ยังคงแพร่กระจายต่อไป
  • โครงการ Gestalt ประกาศเรื่องความสำเร็จในการสร้าง Replicant ต่อสาธารณะชนอีกครั้ง คราวนี้ประชาชนเริ่มคล้อยตาม และกลุ่มคนรวยก็เป็นกลุ่มแรกที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้
  • ประชากรโลกหาทางเก็บเงินเพื่อเข้าสู่โครงการ Gestalt ร่าง Replicant ถูกสร้างขึ้นมามากขึ้น โดยในเวลานั้น Replicant ยังมีความฉลาดไม่มากนัก 
  • Gestalt จะได้เข้าสู่กระบวนการจำศีล รอเวลาที่หายนะหายไปจากโลก จึงจะถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง
  • ไทเรนน์ เข้าร่วมโครงการนี้ แต่ถูกสืบเจอประวัติก่อน หน่วยงานจึงยุติและทำลาย Replicant ของเขา ไทเรนน์เลยไม่มี Replicant เป็นของตัวเอง ต้องเป็น Gestalt สัมภเวสี เที่ยวสิง Replicant ของคนอื่นมาตลอด 1300 ปี
  • เนื่องจากโครงการมีแนวโน้มที่ต้องใช้เวลานานมากกว่าจะสำเร็จ พวกเขาจึงสร้างแอนดรอยด์ขึ้นเพื่อคอยดำเนินงานต่อ ในยามที่ Gestalt จำศีลทั้งหมดแล้ว นอกจากนี้ยังใช้เป็นผู้นำให้กับเหล่า Replicant และคอยเก็บข้อมูลปรับปรุงระบบให้สร้างร่างที่เหมาะสมกับการเป็นภาชนะให้ Gestalt มากที่สุด โปโปลาและเดโวลาเป็นแอนดรอยด์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อการนี้
  • Replicant ถูกปรับปรุงให้สามารถต้าน WCS ได้ พวกเขาถูกฝังความคิดให้เชื่อฟังคำสั่งง่ายๆ ของแอนดรอยด์ ร่างไร้วิญญาณยังมีหน้าที่ตามรวบรวม MASO ที่เกิดจากศพเทพธิดา นำกลับมาให้แอนดรอยด์ใช้พลังส่งมันกลับไปยังโลกเดิมที่ควรจะเป็น
  • ปี 2033 โครงการกริมัวได้เริ่มต้นขึ้น เพื่อทำให้ Gestalt สามารถกลับเข้าร่าง Replicant ได้อย่างราบรื่นทุกคน พวกเขาต้องการแหล่งพลังงานที่มากพอ หนังสือเวทมนต์จึงต้องถูกสร้างขึ้นจากวิญญาณของมนุษย์
  • นักรบครูเสดขององค์กรฮาเมลิน 13 คน ถูกหลอกว่าหากทำภารกิจพิเศษจะได้ปลดประจำการจากหน่วย พวกเขาถูกวางยาสลบแล้วนำไปขังในห้องปิดตาย โดยมีหนังสือข้างกายคนละเล่ม และถูกบังคับให้ใช้เวทมนต์ฆ่ากันจนกว่าจะเหลือ 2 คน
  • เด็กหนุ่มคนหนึ่งตั้งใจจะร่วมมือกับเด็กสาวที่เขาเคยช่วยเหลือเธอในการออกรบครั้งแรก ทว่าคราวนี้เป็นเขาเองที่เป็นฝ่ายถูกช่วยเหลือ ร่างไร้ชีวิตของเด็กสาวถูกดูดเข้าไปในหนังสือของเธอ จากหนังสือที่เคยวางเปล่า ก็ปรากฏหน้าตาประหลาดบนปก กระดาษกลายเป็นสีแดง เธอกลายเป็นกริมัว รูบรัม หนังสือสีแดง ที่ภายหลังอยู่ห้องใต้ดินคฤหาสน์ของเอมิล
  • เด็กหนุ่มพยายามป้องกันตัวเอง จนในที่สุดก็เหลือเขากับชายหนุ่มอีกคน แม้จะบอกว่าให้สู้จนกว่าจะเหลือ 2 คน แต่ก็ไม่มีผู้ใดบอกว่าจะไว้ชีวิตพวกเขา ทั้งสองถูกดึงเข้าไปหนังสือ กลายเป็นหนังสือสีขาว กริมิว ไวส์ และหนังสือสีดำ กริมัว นัว
  • ทว่าการต้องเป็นวิญญาณไร้ร่างอยู่นาน ทำให้ Gestalt บางคนสูญเสียความเป็นตัวเอง นิสัยป่าเถื่อน ทำร้ายมนุษย์และ Repliclant ไม่ต่างจาก Regions ซึ่ง Gestalt ที่เข้าสู่สภาวะนี้จะถูกเรียกว่า Relapse และสุดท้ายพวกเขาก็จะเสียชีวิต
  • เพื่อป้องกันไม่ให้ Gestalt ที่เหลือต้อง Relapse หน่วยงานรีบออกตามหาคนที่สามารถเชื่อมต่อกับกริมัว และเข้าสู่กระบวนการ Gestalt ได้โดยไม่สูญเสียความเป็นตัวเองไป เพื่อให้คนๆ นั้นเป็นแหล่งพลังงานให้แก่ Gestalt คนอื่น
  • กริมัว นัว ที่มีความสามารถในการแยกวิญญาณจากกายหยาบ ถูกเลือกจากบรรดาหนังสือทั้งหมด มันถูกทำสำเนาหลายเล่มและส่งออกไปหาประชาชนที่หน่วยงานหลอกให้เข้ามาในเขตชินจูกุ โดยอ้างว่าจะมอบอาหารและยาให้ ซึ่งเนียร์ก็เดินทางมาเพราะต้องการยารักษาโยนาห์
  • นัวหว่านล้อมให้ประชาชนทำพันธะกับตนเอง ส่งผลให้พวกเขากลายเป็น Gestalt และ Relapse เมื่อเห็นดังนั้นเนียร์จึงรู้ว่าตนโดนหลอก แต่ก็หนีไม่ทัน เขาและโยนาห์ตกอยู่ในวงล้อมของเหล่า Gestalt ที่ Relapse และฉากนี้คือตอนเริ่มต้นของเกม
  • พอรู้ความหมายที่แท้จริงของหนังสือสีดำ เนียร์จึงแสดงท่าทางรังเกียจมันมาก และย้ำไม่ให้โยนาห์เข้าใกล้ แต่สุดท้ายเพื่อช่วยเหลือเธอ ทำให้เขายอมทำพันธะกับนัว การที่เขาสามารถคงความเป็นตัวของตัวเองไว้ได้ ก็ทำให้หน่วยงานรู้ว่าเขาคือบุคคลที่กำลังตามหา (สังเกตได้ว่าแม้กลายเป็น Gestalt เขาก็ยังมีรูปร่างหน้าตาคล้ายตอนเป็นมนุษย์ธรรมดา)
  • แต่ในเวลานั้นโยนาห์ที่อยากได้พลัง เพื่อจะได้ไม่เป็นตัวถ่วงให้เนียร์ ก็ทำพันธะกับนัวเช่นกัน เธอกลายเป็น Gestalt และกำลังเข้าสู่ช่วง Relapse อย่างรวดเร็ว
  • หน่วยงาน Gestalt มีข้อแลกเปลี่ยนให้เนียร์ หากเขายอมเป็นแหล่งพลังให้เหล่า Gestalt พวกเขาจะยอมนำโยนาห์เข้าสู่กระบวนการจำศีลโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และจะทำ Replicant ให้ทั้งสองคนด้วย เนียร์จึงยอมรับข้อตกลง และนี่ก็เป็นเหตุที่บรรดา Gestalt ต่างให้ความเคารพ ยกย่องเขาเป็นชาโดวลอร์ด 
  • โครงการ Gestalt ได้มอบนัวเล่มจริงให้แก่เนียร์ ส่วนไวส์ถูกนำไปปิดผนึกรอคอยเวลาที่จะรวมกับนัวเพื่อให้เหล่า Gestalt ได้เข้าสู่ร่าง Replicant
  • เวลาผ่านไป มนุษย์ที่แท้จริงที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ Gestalt หากไม่เสียชีวิต ก็กลายเป็น Legions ไปจนหมดสิ้น ทำให้โลกเหลือเพียงแอนดรอย์ และ Replicant พวกเขายังคงรวบรวม MASO ของเทพธิดา แต่ขณะเดียวกันก็เริ่มวิวัฒนาการจนมีความรู้ ระบบความคิดไม่ต่างจากมนุษย์ต้นแบบ ก่อร่างอารยธรรมใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน
  • Replicant คนหนึ่งได้ยินข่าวลือเรื่องดินแดนที่สาปสูญว่าหากไปขอพร ณ ที่แห่งนี้ความปรารถนาจะเป็นจริง ซึ่งที่แห่งนี้ความจริงคือเยรูซาเล็ม สถานที่ Red Eyes ถูกจำกัดไป
  • Replicant คนนั้นได้พาศพของคนรักเข้าไปในเมือง หวังให้เธอกลับมามีชีวิตดังเดิม แต่ร่างของเธอกลับผสานเข้ากับหมอก กลายร่างเป็น Red Eyes ฉีกร่างของชายหนุ่มทันที
  • ยุคของกาารต่อสู้กับเหล่า Regions เริ่มขึ้นอีกครั้ง และตำนานอัศวินที่ต่อสู้กับ Red Eyes ที่ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เล่าก็น่าจะเป็นเหตุการณ์ในช่วงนี้เอง
  • สุดท้ายแอนดรอยด์ และ Replicant 4 คน ได้ผนึกกำลังกัน เข้าต่อกรกับ Red Eyes จนปราบมันและเหล่า Legions ได้ MASO อันสุดท้ายถูกส่งกลับมิติของมัน และ WCS ก็ได้สูญสิ้นไปจากโลก
  • เมื่อ WCS หมดไปจากโลก ก็เป็นเวลาอันดีที่เหล่า Gestalt จะได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง Gestalt จึงเริ่มตื่นจากการจำศีลเพื่อเข้าสู่ระยะต่อไปของโครงการ นั่นคือการกลับเข้าสู่กายเนื้อ
  • แต่เวลาที่ผ่านมาเนิ่นนาน ทำให้ไม่มีใครจำได้ว่าสิ่งมีชีวิตนี้คือสิ่งที่เคยเป็นมนุษย์มาก่อน อีกทั้งด้วยภาษาที่ต่างกัน พอ Replicant เห็น Gestalt ก็นึกว่าเป็นปีศาจ เข้าไปทำร้ายฆ่าฟัน กลายเป็นสงครามระหว่างร่างวิญญาณและกายหยาบ และ Gestalt ก็ถูกเรียกว่า Shade แทน
  • Gestalt ส่วนหนึ่งที่ตื่นขึ้นมา เกิดอาการ Relapse แทบจะทันที เพราะว่า Replicant ที่ควรจะเป็นร่างของตน เริ่มเกิดสำนึกเป็นของตัวเอง ทำให้วิญญาณกับร่างกายที่ควรจะเข้าคู่กันเกิดการต่อต้าน ทางด้าน Replicant เมื่อคู่ Gestalt ของตนเกิดอาการ Relapse ร่างกายของพวกเขาก็เกิดความผิดปรกติเช่นกัน สิ่งนั้นคือ Black Scrawl
  • โยนาห์ Replicant จึงมีอาการนี้ เพราะ Gestalt ของเธอใกล้ Relapse แล้ว ไม่ใช่เพราะว่าเป็นโรคแต่อย่างใด
  • Gestalt ที่เข้าสู่การ Relapse จะไม่ได้รับการสร้าง Replicant ขึ้นอีก เพราะ Replicant อาศัยข้อมูลการสร้างจาก Gestalt ที่เป็นวิญญาณ ไม่ใช่กายเนื้อที่เคยมีของคนๆ นั้น เพราะฉะนั้นหากวิญญาณมีปัญหา Replicant ก็ไม่อาจหนีจากปัญหานี้ได้เช่นกัน
  • เหตุการณ์ในเกมจึงเป็นโอกาสสุดท้ายที่โยนาห์ Gestalt จะมีชีวิตอีกครั้ง แต่การเข้าครอบครองร่าง นั่นก็หมายความว่าโยนาห์ Replicant ต้องหายไป ส่วนโยนาห์ Replicant เอง ถ้าต้องการหายจาก Black Scrawl ก็ต้องยอมให้อีกฝ่ายยึดร่างตัวเอง หรือไม่ก็ทำลายวิญญาณของเธอเท่านั้น
  • หากชาโดวลอร์ดเสียชีวิต จะไม่มีแหล่งพลังงานใดที่คงสภาพไม่ให้ Gestalt คนอื่น Relapse ได้ เพราะฉะนั้นในฉากจบ เมื่อชาโดวลอร์ดตาย Gestalt ทุกคนก็จะเริ่ม Relapse และเสียชีวิตตามไป
  • ซึ่งชาโดวลอร์ดเอง ส่วนหนึ่งอาจด้วยต้องการอยู่กับโยนาห์ หลังจากนำ Replicant มาให้เธอได้แล้ว เขาก็ควรรีบกลับเข้ากายเนื้อเช่นกัน และในอีกแง่ พลังของเขาอาจจะเริ่มหมดแล้ว เพราะต้องเป็นแหล่งพลังให้ Gestalt คนอื่นมานับ 1000 ปี 
  • เหล่า Gestalt จึงต้องแข่งกับเวลา หาวิธีกลับเข้าร่างให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นพวกเขาอาจจะ Relapse เสียก่อน
  • โปโปลาและเดโวลา คือคนที่จัดฉากให้เนียร์ไปพบกับไวส์ เพื่อให้ทั้งสองรวบรวมพลังสำหรับเตรียมใช้ให้ Gestalt และ Replicant รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน 
  • และเนื่องด้วย Replicant ไม่อาจมีทายาทได้เอง เมื่อโครงการ Gestalt ไม่สามารถทำได้สำเร็จ นั่นหมายความว่า Replicant รุ่นนี้จะเป็นรุ่นสุดท้ายในโลกใบนี้แล้ว
  • กระนั้นในภาค Automata มนุษย์กลับยังคงอยู่ นั่นหมายความว่าน่าจะมี Gestalt ส่วนหนึ่งที่หาวิธีครอบครองร่างได้สำเร็จ (อย่างน้อยถึงไม่มีไวส์กับนัวแล้ว ก็ยังเหลือหนังสือกริมัวเล่มอื่นๆ ที่ไม่ได้ถูกกล่าวถึงในเกมอีก 10 เล่ม) หรือไม่ Replicant ก็ค้นพบวิธีที่การดำรงเผ่าพันธ์ได้ต่อไป
  • จากข้อมูลตามนี้ถ้าดูจากเผ่าพันธุ์ตั้งต้นไม่นับว่าถูกดัดแปลง เอมิลจะเป็นมนุษย์จริงๆ คนสุดท้ายในโลกของ NieR ที่ไม่กลายเป็น Gestalt
  • เอมิล โปโปลา และเดโวลา จะมีบทบาทในภาค Automata 

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ผ้าปิดตาของ YoRHa

รีวิว Nier Automata Novella ฉบับยาว ภาษาไทย แบบกาวๆ