Spoil NieR Gestalt/Replicant Part 17 ความจริง
เมื่อเห็นว่าคนที่กำลังรอมาถึง ฝาแฝดสาวก็หยิบคทาของตน ลุกจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ เนียร์ยังไม่ละความพยายามที่จะถามหาเหตุผลจากทั้งสองคน
เดโวลา : เรื่องมันเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อ 1000 ปีที่แล้ว
โปโปลา : มนุษยชาติเผชิญหน้าวิกฤตที่จะสูญพันธ์ พวกเขาเลยดึงไพ่ตายสำหรับกู้สถานการณ์ขึ้นมา มันถูกเรียกว่าโครงการ Gestalt
ไวส์ : Ges… talt…
โปโปลา นี่เจ้ายังจำไม่ได้เหรอ กริมัว ไวส์
เดโวลา : ถ้าอย่างนั้นพวกข้าจะช่วยให้จำได้เอง
ทั้งสองมอบเอกสารจำนวนหนึ่งให้เนียร์และไวส์ มันคือเอกสารของโครงการจากโลกในอดีตที่มีชื่อว่าโครงการ Gestalt เนื้อหาในนั้นกล่าวถึงเรื่องที่มนุษย์กำลังสร้างร่างของพวกตนขึ้นมาใหม่ พวกเขาเรียกสิ่งนี้ว่า Replicant เมื่อได้เห็นเนื้อหาเอกสาร ไวส์ก็จำเรื่องที่เขาลืมเลือนไปได้
ไวส์ : เดโวลา โปโปลา พวกเจ้าไม่ใช่มนุษย์... ที่จริงแล้วพวกเจ้าคือ... ไม่นะ
เดโวลา : บางทีความจริงมันก็ห่วยแตกอย่างนี้เนี่ยแหละ อยากช่วยให้เขาเลิกรู้สึกแย่ไหมโปโปลา
โปโปลา : พวกเราทั้งหมดที่ยืนอยู่ที่นี่เป็นแค่เปลือกว่างเปล่าที่ถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์ที่แท้จริง
เนียร์ : พวกเจ้าโกหก
เดโวลา : ไม่หรอก พวกท่านไม่ใช่มนุษย์ พวกข้าเองก็ไม่ใช่เช่นกัน
เอมิล : ถ้าอย่างนั้นมนุษย์ก็... ผมหมายถึงมนุษย์ที่แท้จริง พวกเขาสูญพันธ์ุไปหมดแล้วเหรอครับ
ไวส์ : ไม่ใช่ พวกเขายังอยู่ พวกเจ้ารู้จักพวกเขาในนามว่า Shade Shade แต่ละตนก็คือเศษเสี้ยวของมนุษย์เมื่อกาลก่อน
ความจริงที่ได้ยิน ทำเอาเนียร์อ้าปากค้าง ถ้าเช่นนั้นก็หมายความว่าที่ผ่านมาเขาเข่นฆ่ามนุษย์ไปมากมาย และเป็นตัวเขาเองที่ไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นโดยสิ่งมีชีวิตที่เขาพรากชีวิตไป
เพื่อให้มีชีวิตรอดจากโรคร้าย มนุษย์ในอดีตละทิ้งร่างกายของตนเองสู่ร่างวิญญาณที่เรียกว่า Gestalt พวกเขาสร้างเปลือกเลียนแบบตัวเอง ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการจำศีล รอเวลาเหมาะสมที่จะได้กลับมาสวมใส่ร่างที่ควรเป็นของพวกตน และมีชีวิตเช่นคนปรกติอีกครั้ง สิ่งที่พวกเขาคิดว่าคือมนุษย์ในตอนนี้ ล้วนคือ Replicant กายหยาบที่เหล่ามนุษย์สร้างขึ้นทั้งหมด
เดโวลา : บ้าดีใช่ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้นมาเข้าเรื่องจริงๆ กันดีกว่า
เนียร์ : ด่ะ เดี๋ยวก่อน
เดโวลา : ขอโทษนะ แต่พวกข้าต้องการร่างของท่าน เจ้าของที่แท้จริงเขารอมานานมากแล้วล่ะ
โปโปลา : ได้โปรดอย่าโกรธพวกข้าเลย พวกข้าแค่ทำตามหน้าที่เท่านั้น
เดโวลา : ด้วยคำสั่งของมนุษย์ที่แท้จริง พวกข้ามีชีวิตเพื่อจุดประสงค์เดียวคือควบคุมให้ทุกอย่างดำเนินไปตามที่ควร นั่นคือเหตุผลที่ทำให้พวกข้าถูกสร้างขึ้นมา
โปโปลา : ท่านเองก็มีเป้าหมาย มีความปรารถนาเป็นของตัวเอง
เดโวลา : พวกข้าก็มีเช่นกัน เหตุผลก็ง่ายๆ เช่นนี้แหละ
ไวส์ : อย่าพูดจาโ...โงงงง่ โง่ อย่างนั้นนะ
เดโวลา : ขอโทษนะ
สองฝาแฝดเริ่มโจมตีพวกเนียร์
เดโวลา : พวกเราก็เหมือนกัน พวกท่านและพวกข้า ต่างเป็นแค่เครื่องมือของเจ้านาย
เนียร์ : ข้าไม่เหมือนกับพวกเจ้า ไม่มีใครเหมือนทั้งนั้น
ทว่าหลังจากการต่อสู้เป็นเป็นอย่างดุเดือด พวกเนียร์ก็สามารถทำให้เดโวลาล้มลงได้ เมื่อเห็นฝาแฝดของตัวเองเสียท่า โปโปลาก็รีบวิ่งเข้าไปดูอาการอีกฝ่ายอย่างร้อนรน เลือดที่ไหลออกจากร่างของเดโวลาทำให้เธอทำอะไรไม่ถูก น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของหญิงสาว
เดโวลา : นี่ โปโปลา เจ้าร้องไห้อยู่อย่างนั้นเหรอ
โปโปลา : ไม่ เจ้าอย่าตายนะ
เดโวลา : เจ้ารู้ไหม ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้วว่าทำไมพวกเราถึงถูกสร้างให้เป็นฝาแฝด นั่นก็เพราะ... นั่นก็เพราะเราเกิดมาโดยไม่มีวิญญาณ
โปโปลา : เดโวลา ข้าห้ามเลือดให้เจ้าไม่ได้ ไม่นะ เลือดมันไม่ยอมหยุดไหลเลย
เดโวลา : โลกใบนี้ช่างน่าโดดเดี่ยวสำหรับคนที่ไม่มีวิญญาณ มันว่างเปล่ามากเกินไป พวกเราไม่มีวิญญาณก็จริง แต่กลับมีน้ำตาได้ น่าแปลกดีเนอะ
ทั้งสองรู้ดีว่าโลกใบนี้ช่างน่าเจ็บปวดแค่ใด พวกเธอถูกสร้างขึ้นมาเพื่อดูแลโครงการ Gestalt แทนเหล่ามนุษย์ที่ไม่อาจะรักษาร่างกายของพวกตนไว้ได้ Replicant ที่เกิดขึ้นก็ล้วนไม่ต่างจากพวกเธอ ฝาแฝดเฝ้าดูพวกเขาเกิดและดับ ร่วมฝ่าฝันศัตรูจากต่างมิติด้วยกันจนสำเร็จ เห็นพวกเขาสร้างวัฒนธรรมใหม่ที่ไม่เคยมีในโลกอดีต รู้ว่าอนาคตพวกจะกลายเป็นภาชนะให้กับมนุษย์ แต่ชีวิตของพวกเขา สิ่งที่พวกเขาสร้างมาก็เป็นของจริง ถึงพวกเขาจะถูกสร้างจากมนุษย์ แต่ก็ไม่ใช่มนุษย์อยู่ดี ไม่ว่าอย่างไรพวกเธอก็ต้องปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จ ช่วยให้เหล่า Gestalt ได้ใช้ร่างของ Replicant ลบตัวตนของสิ่งที่ถูกสร้างใหม่ไปจากโลกนี้ หากพวกเธอถูกสร้างขึ้นมาเพียงคนเดียว ก็ไม่อาจรู้ได้ว่าตนเองจะทนรับเรื่องพวกนี้ไหวหรือไม่
เดโวลา : ขอโทษนะโปโปลา... ข้ารักเจ้านะ
มือของเดโวลาที่จับใบหน้าของฝาแฝดไว้เลื่อนตกลงบนพื้น โปโปลาเบิกตากว้าง เขย่าตัวของอีกฝ่าย ก่อนจะกอดไว้แน่น
โปโปลา : เดโวลา เดโวลา อย่าตายนะ ไม่ ไม่เอานะ ข้าอยู่คนเดียวไม่ได้ เดโวลา!!
ภาพที่เห็นสร้างความเจ็บปวดให้เนียร์ไม่ต่าง ไม่ว่าพวกเธอจะโกหกเขามาตลอด แต่เรื่องที่พวกเธอเคยช่วยเหลือเขาไว้มากมายก็เป็นความจริงเช่นกัน เขาลดอาวุธในมือลง พยายามเกลี้ยกล่อมอีกฝ่ายที่วางร่างของฝาแฝดของตนลงบนพื้น
เนียร์ : โปโปลา เราหยุดกันแค่นี้ดีกว่า
โปโปลา : หยุด หยุดอย่างนั้นเหรอ ท่านต้องการให้ข้าหยุดอย่างนั้นเหรอ ท่านคิดว่าข้าใจกว้างถึงขนาดที่จะยอมหยุดอย่างนั้นเหรอ ท่านฆ่าเดโวลาราวเป็นแค่สัตว์ป่าเดรัจฉาน แล้วยังมีหน้ามาบอกให้ข้าหยุดอีกอย่างนั้นเหรอ
เอมิล : เดี๋ยวก่อน ท่านโปโปลา เราไม่จำเป็นต้อง...
โปโปลา : ไม่มีใครหยุดทั้งนั้น มันสายเกินกว่าจะหยุดแล้ว ไม่มีใครหน้าไหนหยุดทั้งนั้นนน!!!!!
สิ้นเสียงกรีดร้องด้วยใจที่แหลกสลายของโปโปลา เธอก็เข้าโจมตีพวกเนียร์อีกครั้ง
เนียร์ : โปโปลา พวกเราเป็นเพื่อนกันมานานนะ... มันไม่มีความหมายอะไรกับเจ้าเลยอย่างนั้นเหรอ
ไวส์ : สองคนนั้นมองโลกใบนี้มานานมากแล้ว ความเจ็บปวดของพวกนางยากที่จะจินตนาการมาก
เนียร์ : แต่ข้าไม่อยากทำอย่างนี้ ข้าไม่อยากสู้กับโปโปลา
กระนั้นพวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเข้าต่อกรกับนักปราชญ์สาวที่ตอนนี้บ้าคลั่งไปแล้ว เมื่อพวกเขาโจมตีจนอีกฝ่ายหมดแรง เธอก็รวบรวมพลังทั้งหมดระเบิดสะพานทิ้งหมายไม่ให้พวกเขาหนี ตั้งใจจะระเบิดทุกอย่างไปพร้อมกับตัวเอง
โปโปลา : ไม่หยุด ไม่มีทางหยุดหรอก อา!!!
ขณะนั้นเองเอมิลก็ใช้พลังสร้างพลังเกราะลูกกลมครอบพวกเขาทั้งหมดไว้ บังคับให้มันลอยพร้อมจะหนีออกไป ทว่าโปโปลากลับใช้พลังของเธอดึงพวกเขาไว้ ลากเข้าหาตนเอง พร้อมหัวเราะราวกับเสียสติไปแล้ว
ไวส์ : ข้าเกรงว่าพวกเราจะจบกันที่นี่แล้วล่ะ
เอมิลมองลงไปยังจุดที่โปโปลาอยู่ราวกับกำลังชั่งใจอะไรบางอย่าง ก่อนที่เด็กชายจะเอ่ยขึ้นมา สร้างความตกใจให้ไคเนที่รีบมาสังเกตสีหน้าของเขา
เอมิล : ไม่เป็นไรหรอกครับ พวกท่านรู้ไหม ตอนที่ผมยังเด็ก ผม... ผมเกลียดตาของผมมาก แล้วพอตอนนี้ที่ผมอายุมากขึ้นผมก็เกลียดร่างกายตัวเองที่กลายเป็นแบบนี้ แต่มันมีบางอย่าง... น่าจะเป็นความภูมิใจล่ะมั้ง ผมหมายถึง ถ้าไม่มีทั้งหมดนี่ผมอาจจะไม่ได้มาเป็นเพื่อนกับพวกท่าน ลาก่อนครับ เพื่อนของผม ขอบคุณสำหรับทุกอย่างมากครับ
เอมิลเงยหน้ามองเนียร์ ไวส์และไคเน เนียร์ที่เริ่มคิดออกว่าอีกฝ่ายตั้งใจจะทำอะไรรีบจะเข้าไปห้าม แต่เด็กชายก็ยกคทาในมือตนเองขึ้นกันไว้
เอมิล : นานแล้ว ที่ผมทำได้เพียงทำลาย แต่ตอนนี้ผมมีโอกาสที่จะได้ปกป้องอะไรบางอย่างแล้ว
เอมิลสร้างพลังทรงกลมขึ้นอีกอันอย่างรวดเร็ว แล้วดันให้เพื่อนของเขาเข้าไปอยู่ในนั้น ส่วนเขายังคงอยู่ในก้อนพลังที่กำลังโดนโปโปลาดึงเข้าไปหา
เอมิล : ไปต่อเถอะครับ ไม่ต้องเป็นห่วง ผมไม่เป็นอะไรหรอก
เนียร์ : เอมิล เอมิล!!
ไคเน : เอมิล ไอ้เด็กเวร กลับมาเดี๋ยวนี้นะ เอมิล!!
เอมิลมองเพื่อนของเขาค่อยๆ ห่างออกไป ขณะที่ตนเองกำลังถูกกลืนเข้าไปในก้อนพลังสีดำของโปโปลา พลางหวังว่าเมื่อไม่มีเขาแล้วไคเนและไวส์จะเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยกันโดยไม่ทะเลาะกันเสียที เด็กชายก้มตัวลงนั่งกอดเข่า เริ่มปลดปล่อยพลังที่ตนเองได้รับมาจากพี่สาว
เอมิล : ท่านเนียร์ ผม ผมอยากเจอท่านอีกครั้ง... อยากเจอหน้าทุกคนอีกครั้ง... อีกแค่ครั้งเดียวก็ได้... ผม...กลัว.... ผมยังไม่อยาก... ตาย...
พลังทำลายล้างจากสุดยอดอาวุธระเบิดขึ้นเป็นวงกว้าง ทำลายสิ่งรอบข้างและโปโปลาหายไปทั้งหมด เหลือเพียงคทาของเอมิลร่วงหล่นลงกระทบพื้นเท่านั้น
ณ อีกสถานที่หนึ่งไม่ห่างไปนัก ชาโดวลอร์ดกำลังมองร่างของเด็กสาวที่นอนอยู่บนเตียงอย่างสงบ โยนาห์เติบโตขึ้นจากแต่ก่อนมาก แล้วเขาก็กล่าวอะไรบางอย่างที่ฟังไม่ออกกับอีกฝ่าย
การเสียสละของเอมิลสร้างความเจ็บปวดให้พวกเนียร์ ไคเนที่ไม่อาจทนไหว ระบายความโกรธด้วยการเข้าไปทำร้ายร่างกายเนียร์ที่ไม่ตอบโต้ใดๆ ทว่าความรุนแรงไม่อาจทำให้อะไรดีขึ้นได้ เมื่อเธอมองหน้าอีกฝ่ายความผูกพันธ์ก็รื้นขึ้นในหัวใจ แต่ก่อนที่จะปล่อยตัวแสดงความอ่อนโยนต่ออีกฝ่าย เธอก็ตัดสินใจผละออก พร้อมกล่าวให้เขาเตรียมตัวกับศึกครั้งสุดท้ายกับชาโดวลอร์ด เพื่อช่วยเหลือโยนาห์กลับมา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น