Spoil NieR Automata Part 27 Ending E : the End of YoRHa และวิเคราะห์เนื้อเรื่องทั้งหมดตามใจฉัน


หลังจากที่เราจบเกมทั้ง Ending C และ Ending D แล้ว ไม่ว่าจะจบแบบใดก่อน เกมจะตัดฉากเข้าสู้เนื้อเรื่องของ Ending E ในช่วง End Credit ของฉากจบล่าสุดที่เราเล่น ขณะที่รายชื่อผู้พัฒนาเกมกำลังขึ้นตามปรกติ จู่ๆ POD 153 ก็เอ่ยว่าในเมื่อสัญญาณ Black Box ของหน่วยโยร์ฮาทุกคนหายไปแล้ว เป้าหมายในการเฝ้าดูโครงการโยร์ฮาของพวกเธอก็เสร็จสมบูรณ์ เธอจึงเริ่มดำเนินกระบวนการสุดท้ายของโครงการนั่นก็คือการลบข้อมูลทั้งหมดของโครงการโยร์ฮาเพื่อปิดบังความจริงเกี่ยวกับสูญพันธ์ของมนุษยชาติต่อไป แต่ก่อนที่เธอจะทันได้ทำเช่นนั้น หน้าจอก็เริ่มมีสัญญาณรบกวนเข้ามา POD 153 จึงถามเกี่ยวกับความผิดปรกตินี้กับ POD 042 และขอให้เขาช่วยหยุด End Credit ไว้ชั่วคราวเพื่อตรวจหาความผิดพลาดในระบบก่อน

ในตอนนี้เราจะได้รับบทเป็น POD 042 เพื่อให้ฉากจบดำเนินต่อเราจำเป็นต้องทำตามที่ POD 153 ร้องขอ แล้วหน้าจอ End Credit ก็ถูกหยุดลง

"POD 042 ถึง POD 153 ยืนยันข้อมูล ดูเหมือนว่าข้อมูลส่วนตัวของ 9S 2B และ A2 จะรั่วไหลออกมา"

"POD 153 ถึง POD 042 ทำตามกฎระเบียบของโครงการ ลบข้อมูลส่วนตัวทั้งหมด"

"... POD 042 ถึง POD 153 ขอปฏิเสธคำร้องขอลบข้อมูลส่วนตัว"

"POD 153 ถึง POD 042 ไม่สามารถทำความเข้าใจประโยคนั้นได้"

"POD 042 ถึง POD 153 มี... ข้อมูลบางอย่างถูกสร้างขึ้นข้างในตัวของฉันตอนที่ฉันอ้างอิงถึงบันทึก ฉันรับรู้ได้ถึงบางสิ่ง และฉันก็ได้ข้อสรุปว่าฉันไม่อาจยอมรับการตัดสินใจนี้ได้"

"การทำลายหน่วยโยร์ฮาทั้งหมดเป็นส่วนสำคัญในแผนของโครงการ ข้อมูลทั้งหมดต้องถูกกำจัด"

"POD 042 ถึง POD 153 ย้ำอีกครั้ง ขอปฏิเสธคำร้องขอลบข้อมูลส่วนตัว เริ่มต้นกู้ข้อมูล POD 153 ... คุณเองก็หวังให้พวกเขามีชีวิตรอดเหมือนกันไม่ใช่หรือ"

"... พวกเราไม่มีสิทธิ์ที่จะกระทำการเช่นนั้น กฏมีความปลอดภัยอยู่ในระดับต่ำ ไม่อาจยอมรับความเสี่ยงในการกู้ข้อมูลได้ ถึงอย่างนั้นแล้ว คุณยังอยากให้พวกเขามีชีวิตรอดอยู่อีกหรือ"

และเมื่อ POD 042 ตอบว่าเขายังต้องการทำเช่นนั้น End Credit ทั้งหมดก็ถูกย้อนกลับอย่างรวดเร็ว แล้วคำแจ้งชื่อฉากจบเดิมก็ถูกเปลี่ยนใหม่เป็น the End of YoRHa

POD 042 เจาะระบบของเกมซึ่งเขียนจุดจบอันแสนเศร้าให้กับเหล่าโยร์ฮา ระบบป้องกันตัวเองในรูปแบบชื่อของผู้พัฒนาเริ่มเข้าโจมตีข้อมูลผู้บุกรุก หาก POD 042 ฝืนต่อกรกับอีกฝ่ายต่อไป เขาอาจต้องสูญเสียตัวตนของตัวเองไปในที่สุด แต่เขาก็ยังเข้าปะทะกับระบบป้องกันอย่างไม่กลัวเกรง

POD ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อดำเนินแผนโครงการโยร์ฮาของแอนดรอยด์ พวกเขาไม่มีสิ่งที่เรียกว่าอารมณ์ความรู้สึกอยู่ในตัว แต่เมื่อได้เชื่อมต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกับ POD เครื่องอื่น และโยร์ฮาทั้ง 3 คนแล้ว เขาก็รับรู้ได้ถึงความเป็นตัวตนของตัวเอง และความรู้สึกต่างๆ ที่ได้ก่อกำเนิดขึ้นภายใน เขารู้แล้วว่าทุกอย่างไม่จำเป็นต้องมีคำตอบเสมอไป และตอนนี้เขาก็ต้องการเปลี่ยนแปลงโชคชะตาที่ถูกเขียนโดยคนอื่น แม้เขาจะไม่มีเหตุผล หรือตรรกะที่เหมาะสมใดๆ รองรับ มีเพียงความรู้สึกแรงกล้าที่อยากช่วยเหลือคนที่เขาผูกผันด้วยเท่านั้น

รายชื่อผู้พัฒนาพากันเข้าโจมตี POD 042 ผู้ริอาจคิดแก้ไขสิ่งที่พวกตนกำหนด กระสุนกระจายเต็มหน้าจอ POD 042 ถูกยิงเสียหาย ถึงเช่นนั้นเขาก็ยังไม่เลิกความพยายาม แต่ด้วยจำนวนกระสุนที่ปล่อยออกมาก็ทำให้ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่สามารถล้มอีกฝ่ายได้ ทว่าหลังจากที่เขาถูกโจมตีอีกหลายครั้ง เขาก็เริ่มได้รับข้อความให้กำลังใจจากใครบางคน

ถึงจะไม่เห็นหนทางจะที่เอาชนะ แต่เขาจะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ แม้ว่าเรื่องที่ทำอยู่จะไร้ประโยชน์ งี่เง่าไร้สาระ ไร้ความหมายแค่ไหน เขาก็จะไม่มีทางถอดใจ

ตอนนั้นเอง POD 042 ก็ได้รับการเสนอให้ความช่วยเหลือ และเมื่อเขาตอบรับมัน ข้อมูลจากผู้เล่นอื่นที่ยอมลบข้อมูลการเล่นของตัวเองเพื่องกลายเป็นข้อมูลให้ความช่วยเหลือผู้เล่นคนอื่นก็ถูกส่งมา แม้ว่ามันจะดูไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะต่อกรกับผู้พัฒนาเกมผู้เป็นดั่งพระเจ้าของโลกนี้ แต่ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวอีกต่อไปแล้ว ถึงจะต่างเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา อยู่กันคนละซีกโลก พวกเขาก็เลือกที่จะหยิบเกมนี้มาเล่น ฟันฝ่าอุปสรรคมาจนได้ฉากจบหลักครบทั้ง 4 แบบ และตอนนี้พวกเขาก็จะร่วมมือกันเพื่อค้นหาอนาคตใหม่

ข้อมูลของผู้เล่นคนอื่นบินเข้ามาประสานกำลังกับ POD 042 เอาตัวป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายสามารถโจมตีเขาได้ แม้ข้อมูลของพวกเขาจะถูกโจมตีจนแตกสลาย แต่ข้อมูลอื่นก็ยังเข้ามาเสริมให้ความช่วยเหลือเรื่อยๆ และเมื่อกระสุนของทุกคนถูกยิงประสานไปพร้อมกันแล้ว การกำจัดฝ่ายตรงข้ามก็ดูง่ายขึ้นในทันที

ในที่สุดสิ่งที่พวกเขาทำก็ไม่เปล่าประโยชน์อีกต่อไป...

"สิ่งมีชีวิตล้วนถูกสร้างขึ้นเพื่อตายในวันหนึ่ง พวกเขาต่างติดอยู่ในกับดัก... ที่เรียกว่าการเกิดและดับที่ไม่มีวันจบสิ้น ถึงอย่างนั้นก็ตาม ชีวิตก็คือการต่อสู้ดื้นรน และนั่นคือสิ่งที่พวกเราเชื่อ POD 153 ถึง POD 042 เป็นอย่างไรบ้างแล้ว"

POD 153 เอ่ยถามเพื่อนที่กำลังถูกหื้วโดย POD อีกเครื่องหลังจากที่เขาต้องเผชิญกับการต่อสู้แสนยากลำบากมา ตอนนี้ทั้ง 3 กำลังบินอยู่บนท้องฟ้าโดยมีเป้าหมายคือเมืองร้างข้างหน้า

"รู้สึกอาย"

"อายเรื่องอะไรหรือ"

"ฉันต่อสู้โดยตั้งใจใช้ชีวิตเข้าแลก แต่ตอนนี้ฉันกลับยังมีชีวิตอยู่ ฉันต้องดูโง่มากแน่ๆ"

"อย่ารู้สึกอย่างนั้นเลย พวกเรายังมีชีวิตอยู่ และการมีชีวิตก็เต็มไปด้วยเรื่องน่าอายมากมายอยู่แล้ว"

"แนวความคิดนั้นค่อนข้างเป็นนามธรรมเกินไปสำหรับฉันในตอนนี้ ฉันจะบันทึกมันไว้ในรายการเพื่อวิเคราะห์ในภายหลังก็แล้วกัน"

"ขอสอบถาม POD 042 ข้อมูลที่กู้ขึ้นมาได้คือความทรงจำทั้งหมดของพวกเขาหรือเปล่า"

"ใช่แล้ว"

"และส่วนที่ใช้ซ่อมแซมเป็นรูปแบบเดียวกันกับก่อนหน้าหรือเปล่า"

"ใช่แล้ว"

"ถ้าอย่างนั้น... มันจะไม่นำพวกเราไปสู่บทสรุปเช่นเดิมหรือ"

"ฉันไม่อาจปฏิเสธถึงความเป็นไปได้นั้นได้ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม โอกาสที่อนาคตจะต่างออกไปก็เกิดขึ้นแล้ว อนาคตที่ไม่ได้ถูกใครมอบให้ แต่เป็นอนาคตที่เราเป็นผู้กำหนดมันด้วยตัวเอง"

เหล่า POD มากมายปรากฏตัวขึ้นในเมือง พวกเขาต่างถือชิ้นส่วนจักรกลคุ้นตาไว้คนละชิ้น และกำลังมุ่งหน้าที่ยอดตึกหลังหนึ่ง แล้วที่นั่นเองก็ปรากฏร่างของแอนดรอยด์โยร์ฮาชายหญิงคู่หนึ่งก็กำลังนอนรอคอยการเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง



ขณะเดียวกัน ฝูงนกที่โบยบินบนผืนฟ้าก็ได้พบกับร่างของแอนดรอยด์โยร์ฮาผมยาวคนหนึ่งกำลังนอนอย่างสงบที่ริมหน้าต่าง ด้วยร่างกายที่ได้รับการซ่อมแซมพร้อมใช้ชีวิตอย่างอิสระไม่ต่างจากพวกมัน

หลังจากนี้ POD 153 จะถามว่าเราต้องการจะลบข้อมูลการเล่นทั้งหมดเพื่อเปลี่ยนมันให้กลายเป็นข้อมูลเพื่อช่วยเหลือผู้เล่นคนอื่นเหมือนที่เราได้รับมาหรือไม่ และไม่ว่าคำตอบนั้นจะคืออะไร เราก็คือผู้ที่ตัดสินใจเลือกมัน...



วิเคราะห์เนื้อเรื่องทั้งหมดตามใจฉัน

ช่างเป็นการแปล และวิเคราะห์ที่ยาวนานจนคนอื่นเล่นจบกันไปกี่รอบแล้วไม่รู้ (ฮา) สุดท้ายก็ต้องขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านมาจนถึงตอนนี้นะคะ หลังจากนี้จะแปล Drag on Dragoon 3 ให้จบ กับแปลเควสของเอมิล ส่วนของนิยายที่แถมกับเกมรุ่น Limited อาจมีบทความอื่นๆ แทรก หรือแปลเกมอื่นๆ ที่ชอบเพื่อหาแนวร่วมติ่งไปด้วยกันเหมือนเคย ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวต่อไปด้วยนะคะ

สำหรับความเห็นส่วนตัวต่อฉากจบ E นี้ สิ่งนี้ที่เราคิดขึ้นมาได้ก็คือตัวละครที่เป็นตัวแทนของผู้เล่นจริงๆ ตลอดทั้งเกม ไม่ใช่ทั้ง 2B 9S หรือ A2 แต่เป็น POD นี่แหละ เพราะ POD มีหน้าที่แนะนำ สนับสนุน บอกทางทำเควสให้ตัวละครตลอด อาจเปรียบเสมือนตัวคนเล่นที่กำกับให้แอนดรอยด์ทั้ง 3 ทำสิ่งที่เราต้องการก็เป็นไปได้

ที่สำคัญ POD ยังมีเรื่องหลายอย่างที่ไม่มีเหตุผลรองรับเท่าไร POD 042 เคยพูดกับ POD 153 ถึงผู้สร้างของพวกตนราวกับว่าผู้ที่สร้างพวกเขาขึ้นมาไม่ใช่ทั้งแอนดรอยด์หรือมนุษย์ พวกเขาเชื่อมต่อกับแอนดรอยด์ที่สนับสนุนตลอดเวลา แม้แต่ตอนที่เป็นข้อมูลภายในร่างกายของแอนดรอยด์ตอนเวลาที่เจาะระบบ นอกจากนี้ถึงบังเกอร์จะถูกทำลายไปแล้ว แต่เครือข่ายของพวกเขาก็ยังสามารถทำงานได้อย่างปรกติ POD เป็นตัวละครที่อยู่เหนือตรรกะต่างๆ ภายในเกมมาก แล้วพอคิดว่าผู้สร้างพวกเขาคือผู้พัฒนาเกมเองที่สร้างตัวตนของผู้เล่นไว้ให้ในเกม ก็ดูจะเข้ากันแปลกๆ ส่วนเครือข่าย POD แท้จริงแล้วก็คืออินเตอร์เน็ทของผู้เล่นนั่นเอง ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อกับผู้เล่นอื่นที่เป็น POD เหมือนกัน และผู้เล่นอื่นก็สามารถส่งกำลังมาช่วย POD 042 ในฉากจบนี้ได้ แถมการที่ POD เกิดสงสัยว่าพวกตนจำเป็นต้องทำตามสิ่งที่ผู้สร้างบอกหรือไม่ ก็ดูจะเป็นคำตอบว่าเหตุใดฉากจบ E เราจึงได้สู้กับรายชื่อผู้พัฒนาเกม

ในตอนแรก POD ไม่มีความรู้สึกเป็นของตัวเอง คิดว่านั่นเป็นเพราะผู้เล่นที่เพิ่งเล่นย่อมไม่มีความผูกผันกับตัวละครแต่แรก ทำหน้าที่แค่เฝ้ามองเหตุการณ์ในเกม เหมือนหน้าที่ที่ POD ได้รับให้เฝ้าดูโครงการโยร์ฮา ไม่ว่าเราจะมาเล่นเกมนี้เพราะก้นของ 2B หลอกล่อมา (ฮา) หรืออะไรก็ตาม เมื่อเราเล่นเกมไปเรื่อยๆ ก็ย่อมเกิดความผูกผันกับตัวละครจนก่อให้เกิดเป็นความรู้สึกเห็นใจ และอยากช่วยเหลือพวกเขาขึ้นมาเหมือนที่ POD เป็น ดังนั้นฉากจบ E จึงเป็นฉากจบสำหรับตัวผู้เล่นเอง ต่างจากฉากจบอื่นๆ ที่เป็นฉากจบสำหรับตัวละครภายในเกม

มาพูดถึงเนื้อเรื่องโดยรวมกันบ้าง จากฉากจบทั้งหมดนอกจากการบอกให้เราตัดสินใจเลือกเส้นทางด้วยตนเอง โดยอย่าให้คนอื่นกำหนด หรือยอมให้อำนาจที่มากกว่าควบคุมชีวิตของเรา อย่างที่หุ่นยนต์ถูกครอบความคิดจากเอเลี่ยนว่าให้กำจัดศัตรู หรือแอนดรอยด์ที่ต้องทำทุกอย่างเพื่อปกป้องมนุษย์ จนสร้างคำโกหกพากันเรือหายกันไปหมด ธีมอีกอย่างของเกมนี้คือการอยู่ร่วมกันโดยที่เราแตกต่างกันค่ะ นักปรัชญาหลายคนที่ถูกอ้างอิงส่วนมากจะเป็นคนที่ไม่เสรีนิยมสุดโต่ง (ซ้ายจัด) ก็เป็นอนุรักษ์นิยมสุดขั้ว (ขวาจัด) และยิ่งเห็นได้ชัดตอนที่ระบบเครือข่ายของหุ่นยนต์ทั้งสองคนขัดแย้งกันเอง เพราะคนหนึ่งเห็นว่าควรทำลายแอนดรอยด์ทั้งหมด และเริ่มชีวิตใหม่ (เสรีนิยม) ส่วนอีกคนเห็นว่าการที่หุ่นยนต์กับแอนดรอยด์สู้กับไปเรื่อยๆ เช่นนี้ก็ดีอยู่แล้ว (อนุรักษ์นิยม) ตัวของ A2 และ 9S ก็มีความเป็นขั้วตรงข้ามกัน อดัม และอีฟ คนหนึ่งก็เป็นสายใช้สมอง อีกคนเป็นฝ่ายใช้แต่ความรู้สึก การใช้สีระหว่าง POD ทั้งสองเป็นดำ และขาว แต่คนสุดท้ายที่เหลืออยู่กลับเป็นปาสคาล กับกลุ่มต่อต้าน ที่ทั้งสองเรียนรู้กันและกันจนสามารถอยู่ด้วยกันอย่างปรองดองแม้พวกเขาจะต้องสูญเสียไปมากก็ตาม นอกจากนี้ผู้เล่นอื่นที่มาช่วยเราก็ต่างกับเราทั้งเชื้อชาติ วัฒนธรรมที่หล่อหลอม ทัศนคติ และภาษา แต่พอเราร่วมมือกันก็ทำให้ฟันฝ่าอุปสรรคที่ดูราวไม่มีวันเอาชนะได้ และนี่ก็น่าจะเป็นเหตุผลให้เพลงธีมของเกมอย่าง Weight of the World ถูกทำออกมาหลายภาษา ก่อนที่สุดท้ายทุกเสียงจะประสานเป็นหนึ่ง

เราคิดว่าอดัมเองก็เป็นตัวแทนของคนที่ตั้งใจทำความเข้าใจกับคนที่เป็นขั้วตรงข้ามกับตัวเองอย่างแอนดรอยด์ ตอนที่เขาเกิดขึ้นมาเขาก็ถามว่าทำไมพวกเขาต้องต่อสู้กันด้วย แม้สุดท้ายเขาจะเข้าใจผิด ไปหมกมุ่นกับเรื่องความโกรธแทน แต่ก็คิดว่ามันเหมือนการทดลองที่ใช่ว่าเราจะได้ผลสรุปแต่แรก แต่เราจำเป็นต้องเรียนรู้จากความผิดพลาด ลองผิดลองถูกหลายครั้งกว่าจะได้คำตอบที่ถูกต้อง การที่เขาถาม 9S ว่าต้องการไปหาโลกใบใหม่กับพวกตนไหม ก็เหมือนกับการที่เขาได้เรียนรู้ความผิดพลาดนั้น และแม้สุดท้ายเขาจะไม่ได้เป็นเหมือนมนุษย์ตามที่พยายามทำมาตลอด เขาไม่เหมือนกับแอนดรอยด์ แต่พวกเขาก็สามารถอยู่ด้วยกัน และมุ่งหน้าไปสู่อนาคดด้วยกันได้ อีกทั้งทฤษฎีวิวัฒนาการยังบอกไว้ว่าโลกจะเข้าสู่ยุคอวกาศได้ก็ต่อเมื่อพวกเราต้องเป็นหนึ่งเดียวกันเสียก่อน (นึกถึงเกม Spore ที่เราต้องทำให้ทุกเมืองบนดาวกลายเป็นพันธมิตรของเรา เราถึงก้าวสู่ยุคอวกาศได้) การที่พวกเขาสามารถออกเดินทางไปหาโลกใบใหม่ จึงน่าจะเปรียบกับการที่หุ่นยนต์ และแอนดรอยด์สามารถทำความเข้าใจกัน และอยู่รวมกันได้ในที่สุดค่ะ

คุยกันนิดหน่อย
  • หลังจากรู้เนื้อเรื่องทั้งหมดแล้ว ก็ขอสรุปว่ายังไงก็ชอบภาคแรกมากว่า (ฮา) อาจด้วยชอบธีมแฟนตาซี แต่หลักๆ แล้วคิดว่าตัวละครของภาคแรกมีเสน่ห์มากกว่าในแง่ของนิสัย ใจคอ ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร และรู้สึกเข้าถึงเนื้อเรื่องที่ดูใกล้ตัวมากกว่า ภาคนี้ส่วนตัวคิดว่าเนื้อเรื่องช่วงหลังเร่งไปหน่อย และยังกระจายบทให้อินกับตัวละครไม่มากพอ ที่สำคัญแอบรู้สึกว่านิสัยตัวละครแกว่งเยอะ แต่ถึงอย่างน้้น Automata ก็มีแง่มุมให้คิดกับระบบเกมดีกว่า และถือว่าอยู่ในระดับประทับใจค่ะ
  • มีการวิเคราะห์ว่า A2 อาจจะมีรับความทรงจำของไคเน เพราะแอนดรอยด์ทุกคนจะได้ความทรงจำของมนุษย์ติดตัวมา ซึ่งของ A2 คือความทรงจำของเด็กหญิงที่อาศัยอยู่กับคุณย่าอย่างมีความสุขในไร่ ฟังดูคล้ายกับไคเนที่อาศัยอยู่กับย่า ทั้งยังปากร้ายเหมือนกัน แต่ส่วนตัวคิดว่าน่าจะไม่ใช่ เนื่องจากเนื้อเรื่องในดรามาซีดีของภาคแรก นอกจากจะอยู่กับคุณย่าแล้ว ในบ้านของไคเนก็ยังมีคุณปู่อยู่ด้วย ทั้งคู่เป็นนักรบครูเสดปลดเกษียณขององค์กรฮาเมลิน และคาลิ ย่าของไคเนคือคนที่ฆ่า Red Eyes ได้

    นอกจากนี้คุณย่าของเจ้าของความทรงจำของไคเน ยังดูเป็นคนอัธยาสัยดีต่อเพื่อนบ้าน เพราะสอนให้หลานสาวช่วยเหลือเกื้อกูลกับคนอื่น ขณะที่คาลิสอนให้สู้ด้วยคนเดียวให้ได้ เธอยังมีอาการโรค PTSD หลังสงคราม ทำให้เมื่อมีอาการเธอก็มักพูดจาทำร้ายหลานสาว จนคุณปู่ต้องมาให้ความช่วยเหลือด้วย

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ผ้าปิดตาของ YoRHa