Spoil NieR Gestalt/Replicant Part 22 ทำไม 2



จุดที่มีเนื้อเรื่องเพิ่มจากการเล่นรอบแรกจุดที่ 3

เพื่อซึมซับเนื้อเรื่องได้มากขึ้น ลองกลับไปอ่าน Part 12 ความทรงจำ ช่วงก่อนที่จะไปป่าแห่งตำนาน กับ Part 14 ทำไม ก่อนนะคะ

ในอดีต Shade แม่ลูกคู่หนึ่งเข้ามาหลบซ่อนตัวจากการตามล่าของมนุษย์ที่ Junk Heap แต่เหล่ามนุษย์กระหายเลือดก็ยังติดตามทั้งสองอย่างไม่ลดละ Shade แม่กอดลูกชายของเธอไว้แน่น ขณะที่เสียงของผู้ล่าเข้ามาใกล้ขึ้นทุกที

Shade เด็ก : [เรากำลังจะตายเหรอครับแม่]

พอได้ยินคำถามจากลูกชาย หัวใจของคนเป็นแม่ก็เจ็บปวด เธอจับไหล่ของเขาไว้ ยกมือลูบหัว

Shade แม่ : [ลูกแม่ ตอนนี้ลูกโตแล้ว ลูกต้องเข้มแข็งเข้าไว้นะ รีบหนีไปซะ เข้าใจไหม วิ่งไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้]
Shade เด็ก : [แล้วแม่ล่ะครับ]
Shade แม่ : [แม่จะออกไปถ่วงเวลาพวกมันไว้ ลูกจะได้มีเวลาหนีมากขึ้น]

Shade เด็ก : [ไม่ ไม่เอา]
Shade แม่ : [ลูกต้องปลอดภัยแล้วมีชีวิตที่มีความสุขให้ได้นะ สัญญากับแม่นะว่าลูกจะจำแม่ไว้]

Shade แม่มองหน้าลูกชายของเธอเป็นครั้งสุดท้าย แต่ไม่ว่าเขาจะร้องไห้เท่าไร เธอก็ตัดสินใจออกวิ่งไปยังเบื้องหน้า เสียงของการไล่ล่าดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงอาวุธฟาดฟันเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนสิ้นใจ และเสียงร้องไห้ของเด็กชายที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง

วันหนึ่ง ขณะที่ Shade เด็กชายนั่งร้องไห้เพียงลำพัง จู่ๆ ประตูห้องที่เขาหลบซ่อนอยู่ก็ถูกเปิดออก ผู้มาเยือนไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นหุ่นยนต์ตัวใหญ่ตัวหนึ่ง แล้วมันก็ก้าวขาเข้ามาในห้อง

Shade เด็ก : [นั่นใครน่ะ]
หุ่นยนต์ : คุณเป็นใคร
Shade เด็ก : [ผม... ผมชื่อคาลิล นายชื่ออะไรน่ะ]

หุ่นยนต์ : ผมคือหุ่นยนต์ทหารฝ่ายป้องกัน P-33 คุณเป็นผู้บุกรุก คุณจะต้องถูกทำลาย ...เกิดข้อผิดพลาด มีอะไรบางอย่างออกมาจากตาของคุณ
คาลิล : [ผมกำลังร้องไห้อยู่ไง ไอ้หุ่นยนต์งี่เง่า ผมคิดถึงแม่]
P-33 : ร้องไห้คืออะไร แม่คือใคร

คาลิล : [เป็นใครก็ไม่สำคัญแล้วล่ะ เธอตายแล้ว ผมก็จะไม่ได้เจอเธออีกแล้ว]
P-33 : ...ผู้สร้างของผมก็ตายแล้วเหมือนกัน เขาถูกฝังไปเมื่อหลายร้อยปีก่อน
คาลิล : [หลายร้อยปี นายพูดจริงๆ เหรอ]

P-33 : เมื่อ 874 ปี 10 เดือน 14 วัน 4 ชั่วโมง กับอีก 43 นาทีก่อนหน้านี้
คาลิล : [แล้วนายไม่เหงาบ้างเหรอ]
P-33 : ผมไม่สามารถเข้าใจความเหงา ความรู้สึกสูญเสียใครบางคน หรือร้องไห้ได้

คาลิล : [ผมร้องไห้เพราะว่าผมยังไม่อยากตาย]
P-33 : คุณ... กำลังจะตายหรือ
คาลิล : [ถ้าพวกมนุษย์หาตัวผมเจอล่ะก็ พวกเขาต้องฆ่าผมแน่ๆ]

P-33 : ทำไม... พวกเขาต้องฆ่าคุณด้วย

คำถามของอีกฝ่ายทำให้เด็กชายเริ่มร้องไห้อีกครั้ง เพราะเขาเองก็ไม่รู้คำตอบเช่นกัน

P-33 : ...ผมจะไม่อนุญาตให้มนุษย์ฆ่าคาลิล
คาลิล : [ห่ะ!? ]
P-33 : หุ่นยนต์ทหารฝ่ายป้องกัน P-33 จะปกป้องคุณเอง

คาลิล : [นายจะช่วยปกป้องผมจริงๆ เหรอ]
P-33 : P-33 ถูกตั้งคำสั่งให้ปกป้อง P-33 จะปกป้องคาลิล
คาลิล : [เย้ จริงๆ นะ ขอบใจมาก ในเมื่อเราสองคนเป็นเพื่อนกันแล้ว ต่อไปผมจะเรียกนายว่าบิ๊บปี้นะ]

วันหนึ่งเด็กชายสองพี่น้องสองเดินทางเข้าไปใน Junk Heap สิ่งก่อสร้างจากอารยะธรรมโบราณเพื่อเก็บรวบรวมอุปกรณ์สำหรับทำอาวุธสำหรับหาเลี้ยงตัว เด็กชายคนน้องวิ่งสำรวจไปรอบบริเวณด้วยความตื่นเต้น โดยมีพี่ชายตะโกนไล่หลังบอกให้ระวังตัว พร้อมกันนั้นก็มีเสียงฝีเท้าหนักๆ ดังขึ้นที่เบื้องหลังของทั้งสอง แต่พวกเขากลับไม่รู้สึกตัว

เด็กชายที่อายุน้อยกว่ากระโดดผ่านแท่งเหล็กเข้าไปด้านใน ทว่าเหล็กที่เขาไปชนทำให้สิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงอยู่แล้วถล่มลง พี่ชายรีบวิ่งไปผลักน้องชายของเขาให้พ้นจากอันตรายทันที เมื่อเด็กชายลุกขึ้นมา เขาก็เห็นพี่ชายของตนโดนแผ่นคอนกรีตขนาดใหญ่ทับตัว ไร้การเคลื่อนไหวใดๆ จากอีกฝ่าย เขารีบเข้าไปดึงแขนหมายช่วยเหลือให้พี่ชายหลุดออกมาจากซากปรักหักพัง ทว่าสิ่งที่ติดมือของเขามากลับมีเพียงแขนซ้ายเพียงข้างเดียวเท่านั้น

เด็กชายมองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ เขาผงะถอยไปด้านหลังกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว ไม่อาจยอมรับความจริงว่าความประมาทของตนจะทำให้พี่ชายเสียชีวิต เหตุการณ์นี้รุนแรงเกินกว่าที่เด็กอย่างเขาจะรับไหว เขาคิดหาเหตุผลข้ออ้างเพื่อทำให้ตนไม่เสียสติ และเมื่อเขามองไปยังด้านหลังร่างของพี่ชาย ภาพของหุ่นยนต์ขนาดใหญ่ตัวหนึ่งก็ปรากฏต่อสายตา มันยืนมองเขานิ่งเงียบ เด็กชายค่อยๆ ทำความเข้าใจสถานการณ์ สร้างเหตุผลลวงให้ตนพ้นผิด เขาย้ำความคิดนั้นลงในหัวก่อนจะเชื่อมันอย่างสนิทใจในเวลาต่อมา พร้อมกับความแค้นที่พรั่งพรูขึ้นในหัวใจ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คาลิลใจหาย เขาไม่คิดว่าเด็กชายทั้งสองเข้ามาที่นี่เพื่อทำร้ายเขา จึงอดแสดงความเห็นใจกับการสูญเสียของอีกฝ่ายเงียบๆ ข้างเพื่อนของเขาไม่ได้



คาลิลและ P-33 อาศัยอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข เด็กชายสอนคำศัพท์ใหม่ๆ และเล่าเรื่องโลกภายนอกให้อีกฝ่ายฟัง และ P-33 ก็มีความยินดีที่ได้เรียนรู้เรื่องราวใหม่ๆ จาก Shade น้อย

คาลิล : [ผมเองก็ยังมีเรื่องที่ไม่รู้อีกเยอะแยะไปหมด สักวันหนึ่งพวกเราออกไปจากที่นี่กันนะ ไปสำรวจโลกนี้กันเถอะ]
P-33 : เพราะว่าเรา... เป็นเพื่อนกัน
คาลิล : [ใช่แล้วล่ะ ถ้าได้ออกไปด้วยกันคงสนุกมากเลยเนอะ]

พวกเนียร์เดินทางลงไปในชั้นที่ลึกขึ้นของ Junk Heap ด้วยโค้ดสำหรับเปิดใช้งานลิฟท์ซึ่งกีเดียนมอบให้ ด้านล่างของที่นี่มีหุ่นยนต์ขนาดใหญ่อยู่มากมาย แต่พวกเขาก็ยังไม่เห็นหุ่นยนต์ตัวใดที่มี Shade ตัวเล็กอยู่ด้วยสักที กระนั้นในที่สุดพวกเขาก็ได้พบกับมัน ด้านในสุดของ Junk Heap Shade ตัวเล็กตัวหนึ่งเกาะอยู่บนศีรษะของหุ่นยนต์ป้องกันฐานทัพรหัส P-33 พอเห็นพวกเนียร์ มันก็ส่งสัญญาณให้หุ่นยนต์เริ่มโจมตีใส่ผู้บุกรุก

P-33 : ค้นพบผู้บุกรุก ตรวจสอบ... ตรวจสอบ... ต้องทำลาย
คาลิล : [เอาเลยบิ๊บปี้ จัดการพวกเขาเลย]

เสียงสังเคราะห์ของหุ่นยนต์ดังขึ้น แม้ไม่รู้ว่า Shade บังคับหุ่นยนต์ได้อย่างไร พวกเนียร์ก็เข้าโจมตีใส่มันอย่างสุดความสามารถ

P-33 : ต้องทำลาย ลาย ลาย ลาย ลาย

เสียงของหุ่นยนต์เริ่มแปลกไป มันเริ่มเสียหายจนระบบการพูดมีปัญหา

คาลิล : [บิ๊บปี้ หยุดเถอะ พอได้แล้ว ถ้านายยังสู้ต่อไป นายต้องถูกทำลายแน่]
P-33 : ต้อง... ปกป้อง... ภารกิจ... ของผม
คาลิล : [ไม่เอา ผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีนาย ผมไม่อยากอยู่คนเดียวอีกแล้ว]

ไคเน : ไม่ บ้าเอ้ย นั่นมัน Shade นะ มันคือ Shade!!

จู่ๆ ไคเนก็เอ่ยขึ้นมา ราวกับกำลังพยายามบอกตัวเองว่ามีเหตุผลที่ควรจัดการศัตรูตรงหน้า หุ่นยนต์ยักษ์เริ่มดูดเศษเหล็กรอบตัวขึ้นมาประกอบเป็นปีก มันทะยานขึ้นไปบนอากาศ ส่วนศีรษะปักเข้ากับเพดานห้อง ทำให้แผ่นเหล็กส่วนโครงสร้างของอาคารหล่นลงมา จนพวกเนียร์ต้องหลบกันวุ่นวาย

คาลิล : [บิ๊บปี้ ทำอะไรของนายน่ะ]
P-33 : หนี หนี หนี หนี... ไป... ดูโลก ก ก ก ก...
คาลิล : [เดี๋ยว ไม่เอา พอแค่นี้เถอะ]

P-33 : ต้องปกป้อง... ต้องต่อสู้...

หุ่นยนต์บินกลับลงมาต่อสู้กลับพวกเนียร์ ทว่ามันก็ยังพุ่งขึ้นไปชนเพดานอีกหลายครั้ง

คาลิล : [บิ๊บปี้ หยุดเดี๋ยวนี้นะ นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผมใช่ไหม เพราะฉะนั้นหยุดสักที]
P-33 : เกิดข้อผิดพลาดดดดดด

ในที่สุดปีกของหุ่นยนต์ก็ถูกทำลาย มันตกลงบนพื้นพร้อมกับที่ Shade ตัวเล็กหล่นมาจากศีรษะของมัน Shade แยกตัวเองออกไปหลาย 10 ตัว เข้าต่อสู้กับพวกเนียร์ แต่พวกเขาก็ปราบมันลงได้ เขาใช้เวทมนต์ดำโจมตีเจ้าหุ่นยนต์เป็นครั้งสุดท้ายเพื่อปิดฉาก มันล้มลงแน่นิ่งไม่สามารถขยับได้อีกต่อไป

P-33 : ต้อง... ปกป้อง... ภารกิจ... ของผม ของผม ผม ผม ผม

คาลิลกำลังนอนหายใจรวยรินอยู่ข้างเพื่อนรักของเขาที่มีควันขึ้นเต็มไปหมด พูดกับอีกฝ่ายด้วยเสียงอ่อนแรง

คาลิล : [บิ๊บปี้… ผมขอโทษนะ... ขอโทษที่ผมไม่แข็งแกร่งพอ... ผม... ผมอยาก... จะอยู่กับนาย... ตลอดไป]
P-33 : อยู่ด้วยกัน... คาลิล... บิ๊บปี้อยู่คนเดียว... บิ๊บปี้... ร้องไห้?

ภาพที่ Shade น้อยเห็นเป็นภาพสุดท้าย คือภาพของเด็กชายที่เคยเข้ามาที่ Junk Heap เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งบัดนี้โตเป็นหนุ่มแล้ว เขาพุ่งเข้ามาหา P-33 เอาแขนข้างขวาระดมทุบมันไม่ยั้ง

กีเดียน : เจ้า ไอ้หุ่นยนต์ปัญญาอ่อน เจ้าฆ่าครอบครัวของข้า เจ้าเอาทุกอย่างไปจากข้า ทำไมเจ้าถึงต้องมาอยู่ที่นี่ ทำไม ทำไมต้องที่นี่ ทำไมกันหา!!!
ไทเรนน์ : [ฮ่ะๆๆๆๆ ภาพนี้มันช่างสวยงามจริงๆ แสดงตัวอย่างความเป็นมนุษย์ออกมาได้สุดยอดไปเลย]
เนียร์ : ถึงทุบเจ้านี่ไปพี่ชายของเจ้าก็ไม่กลับมาหรอกนะ

กีเดียน : แต่เขาตายแล้ว แล้วมันก็เป็นความผิดของไอ้เวรนี่ทั้งหมด อย่างน้อยทุบมันก็ช่วยให้ข้าสะใจไงล่ะ รอก่อนเถอะ เจ้าตัวประหลาด ไอ้ปีศาจเวร ข้าจะระเบิดภูเขานี่ให้หมด ข้าจะสร้างอาวุธสำหรับไล่ฆ่าพวกหุ่นยนต์ ไม่มีใครหน้าไหนหยุดข้าได้ทั้งนั้น อะ ฮ่าๆๆๆ

ความคิดเห็น

  1. ไม่ระบุชื่อ15 มีนาคม 2560 เวลา 01:47

    ไอ้เด็กเปรต...

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. จริงๆ ลึกๆ แล้วกีเดียนพอจะรู้ว่าเป็นความผิดตัวเองนะคะ แต่เพราะว่ายังเด็กเลยหาทางปัดความผิดให้อย่างอื่น เพื่อให้ตัวเองไม่รู้สึกแย่ ปัจจุบันแขนข้างซ้ายของกีเดียนเป็นแขนกล เพราะว่าเขาจิตๆ ทำร้ายแขนตัวเองเพราะภาพติดตาที่ดึงมือพี่ชายแขน จนแขนซ้ายจริงๆ ของเขาใช้การไม่ได้แล้วค่ะ

      ลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Spoil NieR Automata Part 27 Ending E : the End of YoRHa และวิเคราะห์เนื้อเรื่องทั้งหมดตามใจฉัน

ผ้าปิดตาของ YoRHa