บทบาททางเพศในอนิเมะและมังงะ เรื่อง Shoujo Kakumei Utena และ Houkago Hokenshitsu Part 2
เจ้าหญิงบนหอคอย
นอกจากตัวอูเทนาและมาชิโระแล้ว ยังมีตัวละครที่สื่อที่สถานะและบทบาททางเพศของผู้หญิงที่ถูกสังคมตั้งอยู่อีก โดยในเรื่องอูเทน่า จะเห็นได้จากตัวแองจี้ เจ้าสาวกุหลาบผู้อยู่เคียงข้างอูเทนาในฐานะคู่หมั้น และเรื่องบทเรียนลับเกมหัวใจคือคุเรฮะ เด็กสาวที่ทำให้มาชิโระสับสน ทั้งสองเป็นตัวละครที่ค่อนข้างต่างกันมาก แองจี้เป็นสาวเรียบร้อย ทำตามสิ่งที่ผู้ชนะการประลองสั่งโดยไม่ขัดข้อง แม้จะถูกทำร้ายร่างกายหรือจิตใจก็ไม่ปริปาก ทำงานบ้านงานเรือนเก่ง แต่ไร้มนุษย์สัมพันธ์กับคนอื่นๆ โดยสิ้นเชิง ส่วนคุเรฮะเป็นสาวน้อยร่าเริง คุยเก่ง มีเพื่อนเพศเดียวกันหลายคน เอาแต่ใจและดื้อในบางมุม ทำงานบ้านไม่เก่ง แต่ก็พยายามฝึกทำอาหารกล่องเพื่อให้มาชิโระได้ทาน คุเรฮะยังเป็นสาวช่างฝัน อยากมีเจ้าชายที่เธอรักจากใจจริง และช่วยเหลือเคียงข้างเธอ
แองจี้ต้องการช่วยเหลือชายที่เธอรักให้ได้พลังปฏิวัติโลก เธอยินยอมทำเพื่อเขาทุกอย่าง ทั้งการเป็นเจ้าสาวกุหลาบที่ต้องทำตามคำสั่งของผู้ชนะการประลองโดยไม่บิดพลิ้ว แม้อีกฝ่ายจะทำร้ายร่างกายหรือจิตใจของเธอมากเพียงใด หักหลังคนสำคัญ มองคนที่รักไปมีความสัมพันธ์กับคนอื่น หรือแม้กระทั่งการถูกดาบนับหมื่นแสนทิ่มแทง หลายคนอาจจะรู้สึกหมั่นไส้เธอที่ดูโง่ ไม่มีหัวคิด แต่หลังจากเรื่องราวดำเนินไปถึงตอนท้าย เราก็จะพบว่าความจริงเธอไม่ได้มีความสุขกับหน้าที่นี้เลย แต่เธอก็ยังสนับสนุนชายที่เธอรักต่อไป โดยหวังว่านั่นจะทำให้เขามีความสุข และเธอก็จะได้ร่วมมีความสุขกับเขาด้วย
ส่วนในเรื่องบทเรียนลับเกมหัวใจ คุเรฮะเติบโตมาในครอบครัวที่พ่อเป็นใหญ่ชอบทำร้ายร่างกายแม่ ส่งผลให้ตัวของเธอค่อนข้างมีอคติกับเพศชายมาตั้งแต่ต้น และวันที่ฝนตกวันหนึ่ง แม่ที่เศร้าเสียใจกับการถูกสามีทำร้ายก็ลืมมารับเธอที่โรงเรียน คุเรฮะในวัยอนุบาลพยายามทำตัวเป็นผู้ใหญ่โดยการบอกคุณครูประจำชั้นว่าจะกลับบ้านเอง เธอส่วมชุดกันฝนสีเหลือง และกางร่มออกเดินไปตามเส้นทางอันคุ้นเคย ทว่าวันนั้นเด็กหญิงกลับถูกคนร้ายจับตัวไปย่ำยีในป่าละเมาะข้างทาง สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองทำให้คุเรฮะไม่ยอมคบเพื่อนต่างเพศแม้แต่คนเดียว แสดงท่าทางรังเกียจผู้ชายอย่างเห็นได้ชัด รู้สึกไม่พอใจเมื่อฟังเพื่อนๆ อยากมีแฟน ทว่าเมื่อเธอได้รู้ความจริงเรื่องร่างกายของมาชิโระ เธอกลับรู้สึกอยากเข้าใกล้ทำความรู้จักจนกลายเป็นรักขึ้นมา
ภาพลักษณ์ภายนอกของคุเรฮะถูกออกแบบมาให้ความรู้สึกของเพศหญิงกว่าตัวละครอื่นในเรื่อง ทั้งเรื่องที่เธอทำผมทรงทวินเทล และเป็นคนเดียวในเรื่องที่ใส่กระโปรงมีลูกไม้ เมื่อเทียบกับแองจี้แล้วเธอมีความเป็นนางเอกยุคใหม่มากกว่า ไม่ทำตามที่อีกฝ่ายต้องการทุกอย่าง หากได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดีด้วยก็แสดงออกถึงความไม่พอใจตรงๆ แต่กลับน่าแปลกใจว่าทั้งๆ ที่เธอเกลียดผู้ชาย และสาเหตุหลักที่ทำให้เธอเปิดใจให้มาชิโระจะเป็นเพราะเขามีร่างกายท่อนล่างเป็นหญิง ซึ่งไม่อาจใช้อำนาจของเพศตรงข้ามล่วงเกินเธอได้ คุเรฮะกลับพูดย้ำกับมาชิโระที่สับสนเสมอว่าเขาเป็นผู้ชาย และจะเป็นคนที่ช่วยฉุดเธอขึ้นจากอดีตที่เลวร้าย ปฏิบัติต่อเธออย่างเท่าเทียม และทำให้เธอมีความสุขเช่นเด็กสาวทั่วไป
บทบาทของตัวละครทั้งสองชวนให้กลับมาคิดจริงจังถึงสถานะทางเพศของผู้หญิงที่ถูกสังคมหล่อหลอมมา ไม่ว่าจะเงียบ เรียบร้อยแบบสมัยก่อน หรือจะเป็นผู้หญิงสมัยใหม่ที่มีความเป็นตัวเอง กล้าเรียกร้องเพื่อตัวเองมากขึ้น กระนั้นความสุขหรือทุกข์ของพวกเธอก็ต่างถูกกำหนดโดยเพศชาย ทำให้เขามีความสุขเธอจะได้สุขด้วย หรือเพราะถูกผู้ชายทำร้าย เลยต้องการให้ผู้ชายที่ดีกว่ามาช่วยเหลือ การกระทำของพวกเธอไม่ต่างกับเจ้าหญิงที่ได้แต่รอเจ้าชายบนหอคอย โดยไม่มีความคิดว่าจะพยายามต่อสู้เพื่อตัวเองแม้แต่น้อย สิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขคือการเป็นคนอ่อนแอตามภาพลักษณ์ของผู้หญิงที่สังคมบอก
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ผู้หญิงมีความสุขอย่างแท้จริง ตัวละครทั้งสองคนผิวเผินเหมือนจะมีความสุขดี แต่แองจี้กลับเคยคิดฆ่าตัวตาย ส่วนคุเรฮะในฝันยังเป็นเด็กสาวในชุดกันฝนดูน่ากลัว และยังกลายเป็นต้นไม้แห้งเหี่ยวเคลื่อนไหวไม่ได้เมื่อพบว่ามาชิโระอาจไม่ได้รักเธอ ทว่าสุดท้ายแองจี้ก็ปล่อยผมที่เคยรวบตึงออก เธอบอกลาอาคิโอะผู้เป็นอดีตเจ้าชายที่เธอฝันถึง เดินออกจากโรงเรียนไปด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมด้วยความหวัง ทางด้านคุเรฮะก็เริ่มคบหาเพื่อนต่างเพศ เธอยิ้มอวยพรให้รักใหม่มาชิโระได้จากใจจริง ในฝันเธอก็เปลี่ยนไปอยู่ในชุดเกราะสีเงิน กล้าตัดสินใจทำอะไรเพื่อตัวเองโดยไม่เรียกร้องให้ใครช่วยเหลือ ทั้งสองคนเปลี่ยนไปไม่ใช่เป็นเพราะใครที่ไหน แต่เป็นเพราะพวกเธอต่างตัดสินใจที่จะมีความสุขด้วยตัวเอง
แองจี้เห็นแล้วว่าคนที่เธอต้องการอยู่เคียงข้างมากที่สุด อาจไม่ใช่เจ้าชายที่ใฝ่ฝัน คนที่รักห่วงใยเธอมากที่สุดอาจไม่ใช่คนที่เธอยอมทำทุกอย่างให้มาโดยตลอด และคนๆ นั้นอาจไม่ได้มีเพศตรงข้ามกับเธอตามที่สังคมบอกให้เป็น แม้สิ่งที่เธอยอมทำเพื่อเจ้าชายของเธอจะสูญเปล่า แต่เวลาที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าคนที่เธอควรเลือกคือใคร และคนที่จะเลือกรับความสุขนั่นหรือจมอยู่ในความฝันที่ไม่รู้ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ก็มีเพียงตัวของเธอเอง
ทางด้านคุเรฮะเองก็คิดได้ว่า เธอไม่จำเป็นต้องรอเจ้าชายที่ไหนมาช่วย ไม่ต้องพยายามรักกับผู้ชายคนไหนเพื่อตอกย้ำว่าเธอสามารถหลุดพ้นจากความจำเลวร้าย แม้เรื่องราวที่ผ่านมาจะเจ็บปวดเพียงใด วิธีเดียวที่เธอจะเอาชนะมันและมีความสุขได้ มีเพียงแค่ความกล้าที่จะทิ้งเรื่องราวเล่านั้นให้เป็นอดีต และก้าวขาไปสู่อนาคตด้วยตัวเอง เพราะคุณค่าของเธอไม่ต้องรอมาให้ใครเป็นคนกำหนดแม้แต่น้อย
แต่สิ่งที่ทั้งคู่เหมือนกันคือเป็นผู้ถูกกระทำโดยเพศชาย แต่ก็ยังต้องการการช่วยเหลือจากเพศชายอยู่ดี
แองจี้ต้องการช่วยเหลือชายที่เธอรักให้ได้พลังปฏิวัติโลก เธอยินยอมทำเพื่อเขาทุกอย่าง ทั้งการเป็นเจ้าสาวกุหลาบที่ต้องทำตามคำสั่งของผู้ชนะการประลองโดยไม่บิดพลิ้ว แม้อีกฝ่ายจะทำร้ายร่างกายหรือจิตใจของเธอมากเพียงใด หักหลังคนสำคัญ มองคนที่รักไปมีความสัมพันธ์กับคนอื่น หรือแม้กระทั่งการถูกดาบนับหมื่นแสนทิ่มแทง หลายคนอาจจะรู้สึกหมั่นไส้เธอที่ดูโง่ ไม่มีหัวคิด แต่หลังจากเรื่องราวดำเนินไปถึงตอนท้าย เราก็จะพบว่าความจริงเธอไม่ได้มีความสุขกับหน้าที่นี้เลย แต่เธอก็ยังสนับสนุนชายที่เธอรักต่อไป โดยหวังว่านั่นจะทำให้เขามีความสุข และเธอก็จะได้ร่วมมีความสุขกับเขาด้วย
ส่วนในเรื่องบทเรียนลับเกมหัวใจ คุเรฮะเติบโตมาในครอบครัวที่พ่อเป็นใหญ่ชอบทำร้ายร่างกายแม่ ส่งผลให้ตัวของเธอค่อนข้างมีอคติกับเพศชายมาตั้งแต่ต้น และวันที่ฝนตกวันหนึ่ง แม่ที่เศร้าเสียใจกับการถูกสามีทำร้ายก็ลืมมารับเธอที่โรงเรียน คุเรฮะในวัยอนุบาลพยายามทำตัวเป็นผู้ใหญ่โดยการบอกคุณครูประจำชั้นว่าจะกลับบ้านเอง เธอส่วมชุดกันฝนสีเหลือง และกางร่มออกเดินไปตามเส้นทางอันคุ้นเคย ทว่าวันนั้นเด็กหญิงกลับถูกคนร้ายจับตัวไปย่ำยีในป่าละเมาะข้างทาง สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองทำให้คุเรฮะไม่ยอมคบเพื่อนต่างเพศแม้แต่คนเดียว แสดงท่าทางรังเกียจผู้ชายอย่างเห็นได้ชัด รู้สึกไม่พอใจเมื่อฟังเพื่อนๆ อยากมีแฟน ทว่าเมื่อเธอได้รู้ความจริงเรื่องร่างกายของมาชิโระ เธอกลับรู้สึกอยากเข้าใกล้ทำความรู้จักจนกลายเป็นรักขึ้นมา
ภาพลักษณ์ภายนอกของคุเรฮะถูกออกแบบมาให้ความรู้สึกของเพศหญิงกว่าตัวละครอื่นในเรื่อง ทั้งเรื่องที่เธอทำผมทรงทวินเทล และเป็นคนเดียวในเรื่องที่ใส่กระโปรงมีลูกไม้ เมื่อเทียบกับแองจี้แล้วเธอมีความเป็นนางเอกยุคใหม่มากกว่า ไม่ทำตามที่อีกฝ่ายต้องการทุกอย่าง หากได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดีด้วยก็แสดงออกถึงความไม่พอใจตรงๆ แต่กลับน่าแปลกใจว่าทั้งๆ ที่เธอเกลียดผู้ชาย และสาเหตุหลักที่ทำให้เธอเปิดใจให้มาชิโระจะเป็นเพราะเขามีร่างกายท่อนล่างเป็นหญิง ซึ่งไม่อาจใช้อำนาจของเพศตรงข้ามล่วงเกินเธอได้ คุเรฮะกลับพูดย้ำกับมาชิโระที่สับสนเสมอว่าเขาเป็นผู้ชาย และจะเป็นคนที่ช่วยฉุดเธอขึ้นจากอดีตที่เลวร้าย ปฏิบัติต่อเธออย่างเท่าเทียม และทำให้เธอมีความสุขเช่นเด็กสาวทั่วไป
สรุปว่าทั้งแองจี้ และคุเรฮะจะมีความสุขหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับเพศชาย
บทบาทของตัวละครทั้งสองชวนให้กลับมาคิดจริงจังถึงสถานะทางเพศของผู้หญิงที่ถูกสังคมหล่อหลอมมา ไม่ว่าจะเงียบ เรียบร้อยแบบสมัยก่อน หรือจะเป็นผู้หญิงสมัยใหม่ที่มีความเป็นตัวเอง กล้าเรียกร้องเพื่อตัวเองมากขึ้น กระนั้นความสุขหรือทุกข์ของพวกเธอก็ต่างถูกกำหนดโดยเพศชาย ทำให้เขามีความสุขเธอจะได้สุขด้วย หรือเพราะถูกผู้ชายทำร้าย เลยต้องการให้ผู้ชายที่ดีกว่ามาช่วยเหลือ การกระทำของพวกเธอไม่ต่างกับเจ้าหญิงที่ได้แต่รอเจ้าชายบนหอคอย โดยไม่มีความคิดว่าจะพยายามต่อสู้เพื่อตัวเองแม้แต่น้อย สิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขคือการเป็นคนอ่อนแอตามภาพลักษณ์ของผู้หญิงที่สังคมบอก
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ผู้หญิงมีความสุขอย่างแท้จริง ตัวละครทั้งสองคนผิวเผินเหมือนจะมีความสุขดี แต่แองจี้กลับเคยคิดฆ่าตัวตาย ส่วนคุเรฮะในฝันยังเป็นเด็กสาวในชุดกันฝนดูน่ากลัว และยังกลายเป็นต้นไม้แห้งเหี่ยวเคลื่อนไหวไม่ได้เมื่อพบว่ามาชิโระอาจไม่ได้รักเธอ ทว่าสุดท้ายแองจี้ก็ปล่อยผมที่เคยรวบตึงออก เธอบอกลาอาคิโอะผู้เป็นอดีตเจ้าชายที่เธอฝันถึง เดินออกจากโรงเรียนไปด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมด้วยความหวัง ทางด้านคุเรฮะก็เริ่มคบหาเพื่อนต่างเพศ เธอยิ้มอวยพรให้รักใหม่มาชิโระได้จากใจจริง ในฝันเธอก็เปลี่ยนไปอยู่ในชุดเกราะสีเงิน กล้าตัดสินใจทำอะไรเพื่อตัวเองโดยไม่เรียกร้องให้ใครช่วยเหลือ ทั้งสองคนเปลี่ยนไปไม่ใช่เป็นเพราะใครที่ไหน แต่เป็นเพราะพวกเธอต่างตัดสินใจที่จะมีความสุขด้วยตัวเอง
แองจี้เห็นแล้วว่าคนที่เธอต้องการอยู่เคียงข้างมากที่สุด อาจไม่ใช่เจ้าชายที่ใฝ่ฝัน คนที่รักห่วงใยเธอมากที่สุดอาจไม่ใช่คนที่เธอยอมทำทุกอย่างให้มาโดยตลอด และคนๆ นั้นอาจไม่ได้มีเพศตรงข้ามกับเธอตามที่สังคมบอกให้เป็น แม้สิ่งที่เธอยอมทำเพื่อเจ้าชายของเธอจะสูญเปล่า แต่เวลาที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่าคนที่เธอควรเลือกคือใคร และคนที่จะเลือกรับความสุขนั่นหรือจมอยู่ในความฝันที่ไม่รู้ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ก็มีเพียงตัวของเธอเอง
ทางด้านคุเรฮะเองก็คิดได้ว่า เธอไม่จำเป็นต้องรอเจ้าชายที่ไหนมาช่วย ไม่ต้องพยายามรักกับผู้ชายคนไหนเพื่อตอกย้ำว่าเธอสามารถหลุดพ้นจากความจำเลวร้าย แม้เรื่องราวที่ผ่านมาจะเจ็บปวดเพียงใด วิธีเดียวที่เธอจะเอาชนะมันและมีความสุขได้ มีเพียงแค่ความกล้าที่จะทิ้งเรื่องราวเล่านั้นให้เป็นอดีต และก้าวขาไปสู่อนาคตด้วยตัวเอง เพราะคุณค่าของเธอไม่ต้องรอมาให้ใครเป็นคนกำหนดแม้แต่น้อย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น