Spoil Drag on Dragoon 3 Special Part 2.1 : Utahime Five


Drag on Dragoon 3 : Utahime Five เป็นมังงะที่มีเนื้อเรื่องก่อนเหตุการณ์ในเกมหลัก และมีวันเป็นตัวเอกของเรื่องราว หลังจากที่พวกเธอถูกแบ่งออกมาจากร่างของซีโร และอีกฝ่ายหมายมั่นที่จะสังหารพวกเธอทั้งหมด วันจึงนำน้องสาวอีก 4 คนหนีจากการตามล่าของพี่สาวคนโตมา

ในตอนแรกวัน ทู ทรี โฟร์ และไฟว์ ต่างมีร่างเป็นเพียงเด็กหญิงวัยแรกรุ่น ระหว่างที่ทั้ง 5 ออกเดินทางเพื่อไปยังเมืองมหาวิหาร พวกเธอก็ได้ยินเรื่องราวความชั่วร้ายของลอร์ดทั้ง 4 คนผู้ปกครองโลกใบนี้ ทั้งยังได้เห็นความทุกข์ยากลำบากของผู้คนตลอดเส้นทาง ด้วยจิตใจที่ดีพวกเธอจึงอาสาที่จะใช้พลังของเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงกำจัดเหล่าผู้ปกครองสามานย์เพื่อช่วยเหลือผู้คน และสถานที่ที่พวกเธอไปก็คือปราสาทของดินแดนแห่งทราย

ดินแดนแห่งทรายในเวลานั้นถูกปกครองโดยบาส จอมเวทย์ผู้ชั่วช้าโหดเหี้ยม เขามักสั่งให้ทหารลักพาตัวเด็กๆ เข้าไปในปราสาทเพื่อสังหาร แล้วนำร่างไร้ชีวิตของพวกเขามาสร้างสรรค์เป็นผลงานศิลปะประดับตกแต่ง และหากมีประชาชนคนใดคิดต่อต้านไม่พอใจ เขาก็จะสั่งให้ทหารฆ่าอีกฝ่าย แล้วนำศพแขวนประจานวางเรียงรายหน้ากำแพงปราสาท เมื่อบาสได้เห็นผู้บุกรุกทั้ง 5 เขาก็ต้องการร่างกายของพวกเด็กหญิงเพื่อนำมาสนองงานอดิเรกวิปริตของตนทันที บาสจึงบังคับโกเลมออกไปสู้กับเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงทั้ง 5 ด้วยตัวเอง

Credit : Nier2.com

แม้จะมีจำนวนมากกว่า แต่ด้วยความด้อยประสบการณ์ทำให้เหล่าเด็กหญิงถูกบาสโจมตีหลายครั้ง กระนั้นพวกเธอก็ใช้พลังแห่งเสียงค่อยๆ เพิ่มพลังให้ตนเอง และสิ่งนี้ก็อยู่ภายใต้สายตาของพาร์ทิชั่น ลูกน้องคนสนิทของบาส ผู้หลงใหลในศาสตร์เวทมนต์แห่งการทำลาย ด้วยความที่ไม่อยากสูญเสียโอกาสในการเรียนรู้เวทมนต์ใหม่ๆ ไป ชายหนุ่มจึงรีบรุดไปยังห้องที่เจ้านายสู้กับเหล่าเด็กหญิงอยู่ แต่เมื่อไปถึงเขาก็พบว่าวันสามารถเอาชนะบาสได้แล้ว และแม้ชายสูงวัยจะร้องขอให้อีกฝ่ายไว้ชีวิตตน เด็กหญิงผมทองก็ยังตัดศีรษะของเขาอย่างไร้ปราณี เมื่อเห็นดังนั้นพาร์ทิชั่นจึงแสร้งเล่นละครอ้างว่าตนถูกบาสบังคับข่มขู่ให้มาทำงานรับใช้ และในเมื่อพวกเธอช่วยปลดปล่อยเขาให้เป็นอิสระ ชายหนุ่มจึงอยากติดตามพวกเธอไปด้วย

ตอนแรกวัน และน้องสาวทั้ง 4 คนต่างไม่เชื่อใจชายตรงหน้า พาร์ทิชั่นจึงใช้เวทมนต์ช่วยรักษาบาดแผลจากการต่อสู้ให้กับวัน แม้เด็กหญิงที่อายุมากที่สุดจะยังไม่อยากวางใจ แต่พอเห็นพวกน้องสาวต่างยอมรับอีกฝ่ายอย่างยินดีเธอจึงไม่ขัดอะไร จากนั้นทั้ง 6 จึงนำเรือของบาสออกเดินทางไปยังเมืองมหาวิหาร

ระหว่างการเดินทางกลางทะเล วันก็สังเกตเห็นว่าทรีแอบนำตุ๊กตาที่สร้างจากศพเด็กของบาสติดตัวมาด้วย เธอพยายามสั่งให้ผู้เป็นน้องทิ้งมันไป ทว่าเด็กหญิงผู้ชื่นชอบในตุ๊กตากลับวิ่งหนีไปที่หัวเรือ และในตอนนั้นเองปีศาจปลาหมึกก็โผล่ขึ้นมาจากผืนน้ำ วันจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยเหลือน้องสาว ส่งผลให้เธอถูกปีศาจปลาหมึกลากลงทะเลไปแทน

วันสามารถเอาตัวรอดมาถึงชายฝั่ง และได้ต่อสู้กับปีศาจปลาหมึกจนมันแน่นิ่งไป แต่ขณะที่เด็กหญิงชะลาใจคิดว่ามันตายแล้ว ปีศาจปลาหมึกก็ตวัดหนวดของมันขึ้นพร้อมปลิดชีพมนุษย์ตรงหน้า ทันใดนั้นมังกรตัวหนึ่งก็เข้ามาโจมตีหัวของปีศาจทำให้มันเสียชีวิตในที่สุด วันเอ่ยถามเหตุผลที่อีกฝ่ายช่วยชีวิตของตนไว้ มังกรสาวจึงบอกว่านั่นเป็นเพราะเธอสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่างที่ไม่ใช่ของมนุษย์ธรรมดาจากร่างของเด็กหญิง แต่เมื่อวันอธิบายว่าตนคือเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงซึ่งสามารถใช้เวทมนต์แห่งเสียงเพื่อใช้มันนำความสงบสุขมาสู่โลกใบนี้ อีกฝ่ายก็แย้งว่าก่อนหน้านี้ตนได้พบกับปีศาจที่มีพลังแบบเดียวกับเด็กหญิง ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่มีท่าทีจะปกป้องโลกใบนี้เลยแม้แต่น้อย คำพูดนั้นทำให้วันหน้าซีด รู้โดยทันทีว่าปีศาจตนนั้นหมายถึงเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงผู้ทรยศต่อหน้าที่ ซีโร พี่สาวคนโตของเธอ

เด็กหญิงปฏิเสธว่าตนไม่ได้เป็นพวกเดียวกับซีโร และแม้ตอนนี้เธอจะมีความสามารถไม่มากพอที่จะเอาชนะอีกฝ่าย แต่เธอก็จะแข็งแกร่งขึ้นเพื่อปกป้องโลกใบนี้ให้ได้ คำพูดแน่วแน่ของมนุษย์ตรงหน้าทำให้มังกรสาวรู้สึกแปลกใจ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะกล่าวอะไร จู่ๆ ทั้งสองก็ถูกโจมตีโดยปีศาจหมูในชุดเกราะกลุ่มหนึ่ง และหลังจากที่พวกมันถูกมังกรกำจัดไปได้อย่างรวดเร็ว เด็กหญิงกับมังกรได้พบกับชายวัยฉกรรจ์ผู้มีแขนซ้ายเป็นจักรกล ซึ่งปรากฏตัวออกมาพร้อมกับแฟร์รี่ตนหนึ่ง

Credit : imgur.com

แฟร์รี่บอกว่าตน และชายที่เขาเรียกว่าบาร์ทัสต้องการจับตัววันกลับไปที่ดินแดนแห่งภูเขา เพราะพวกเขารู้ถึงสิ่งที่เธอ และน้องสาวทั้ง 4 ได้ทำกับบาส ผู้ปกครองดินแดนแห่งทราย เมื่อวันแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง แฟร์รี่ก็หยิบดวงตาออกมาข้างหนึ่ง ก่อนใช้พลังเวทมนต์ฉายภาพที่ดวงตาข้างนี้เคยเห็นก่อนที่เจ้าของของมันจะถูกสังหาร และมันก็ทำให้เด็กหญิงรู้ว่ามันคือดวงตาของหญิงสาวที่พวกเธอเคยช่วยเหลือที่หน้าปราสาทของบาส เจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงจึงเข้าโจมตีชายตรงหน้า และแฟร์รี่ตนนั้นทันที อีกทั้งแสงจากพลังแห่งเสียงก็ยังทำให้น้องสาวทั้ง 4 ทราบตำแหน่งของเธออีกด้วย

เมื่อได้เห็นพลังของเด็กหญิงตรงหน้า บาร์ทัสก็เผยรอยยิ้มออกมาหลังจากที่ยืนนิ่งเงียบมานาน เขาใช้มือซ้ายเพียงข้างเดียวรับการโจมตีของวัน ทั้งยังต่อยจนเด็กหญิงกระเด็นไปไกล และแม้วันจะกลับมาชกหน้าเขาเข้าเต็มๆ บาร์ทัสกลับไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย และยังสวนกลับเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงอย่างง่ายดายจนแฟร์รี่ต้องมาปรามไม่ให้ชายซึ่งชื่นชอบการได้ต่อสู้กับผู้มีความสามารถทำร้ายเด็กหญิงจนตายเสียก่อน ทว่าบาร์ทัสก็แสดงออกชัดเจนว่าเขาไม่ต้องการทำเรื่องน่าเบื่อเช่นนั้น จนมังกรสาวที่ทนเห็นเด็กถูกทำร้ายไม่ได้ต้องเข้ามาขัดขวางโดยการใช้กงเล็บตะปบร่างของอีกฝ่าย

แต่แล้วมังกรสาวก็ต้องเบิกตากว้างเพราะชายตรงหน้ากลับไม่มีท่าทีเจ็บปวดแม้แต่น้อย ที่สำคัญเขายังสามารถรักษาบาดแผลตัวเองได้อย่างรวดเร็ว และแม้เธอจะโจมตีใส่บาร์ทัสที่ยิ้มอย่างพอใจมากเท่าใด อีกฝ่ายก็ไม่สะทกสะท้าน ทั้งยังสามารถจับขาของเธอหวดกับพื้นได้ด้วยมือซ้ายข้างเดียว ฝีมือของมนุษย์ตรงหน้าทำให้มังกรสาวนึกสงสัยไม่ได้ว่าเขาเป็นใครกันแน่ แต่ในตอนที่ทั้งคู่ไม่ทันสังเกตนั่นเอง วันก็เกิดคลั่งไร้สติใช้พลังแห่งเสียงเพิ่มความสามารถให้ตนเอง และคราวนี้มันก็ทำให้เด็กหญิงสามารถต่อสู้ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อขึ้น กระนั้นไม่ว่าเธอจะฟาดฟันอีกฝ่ายจนแขนขาขาดกี่ครั้ง ชายตรงหน้าก็สามารถสร้างอวัยวะใหม่ออกมาได้อย่างรวดเร็ว วันจึงหยิบเขี้ยวของมังกรซึ่งหักจากการต่อสู้มาแทงร่างกายของอีกฝ่ายที่ดูเหมือนจู่ๆ จะไม่อาจฟื้นตัวได้จนไม่เหลือซาก ก่อนที่เธอจะได้สติกลับมาโดยจำสิ่งที่เพิ่งทำลงไปไม่ได้เลย

เมื่อเห็นบาร์ทัสร่างกายแหลกเหลวต่อหน้าต่อตา แฟร์รี่ก็แสดงท่าทีหวาดกลัวก่อนรีบใช้เวทมนต์หนีไป ไม่ใช่เพราะว่าศัตรูตรงหน้าแข็งแกร่ง แต่เป็นเพราะเขารู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ แล้วตอนนั้นเองกลุ่มพลังก็ระเบิดออกมาจากซากร่างบนพื้น ก่อนที่เด็กชายคนหนึ่งซึ่งมีแขนซ้ายเป็นจักรกลจะเผยตัวออกมาจากกองเลือดเนื้อของบาร์ทัส พร้อมกันนั้นอีกด้านหนึ่งสตรีผมสีเงินก็กำลังเตรียมพร้อมออกเดินทางเพื่อฆ่าน้องสาวของตน

Credit : Nier2.com

ณ เมืองมหาวิหาร ลอร์ดที่เหลืออีก 3 คน ได้แก่ คาเอรูลา เกรย์ และชาซอร์ ได้มารวมตัวกันเพื่อไปยังประตูเมอร์คิวเรียส ประตูที่กุมความลับของพลังเวทมนต์จากโลกเก่าเอาไว้ ในฐานะจอมเวทย์ทำให้ทั้ง 3 ต่างต้องการนำพลังนั้นมาครอบครองเป็นของตัว คาเอรูลาอธิบายให้อีกสองคนฟังว่าประตูเมอร์คิวเรียสมีประตูป้องกันอยู่ 3 ชั้น ในตอนที่เธอมาที่นี่เป็นครั้งแรก ประตูชั้นที่ 1 ก็ถูกทำลายอยู่ก่อนแล้ว ส่วนประตูชั้นที่ 2 เธอเป็นคนทำลายมันเอง ทว่าหญิงสาวกลับไม่สามารถหาทางเปิดประตูชั้นที่ 3 ได้

ในที่สุดทั้ง 3 คนก็มาถึงประตูป้องกันชั้นสุดท้าย ทว่าตอนนี้มันกลับถูกทำลายไปแล้วเรียบร้อย ท่ามกลางความตกใจของเกรย์ หัวหน้าสาวของเหล่าลอร์ดจึงเล่าต่อว่าก่อนหน้านี้ไม่นานมีใครบางคนได้ทำลายประตูชั้นที่ 3 ลง แต่เธอกลับไม่พบร่องรอยของใครคนนั้นเลย แม้ลอร์ดแห่งดินแดนแห่งภูเขาจะเอะใจได้ว่าอีกฝ่ายอาจเป็นเด็กหญิง 5 คนที่สังหารบาสตามที่ได้รับแจ้งข่าว แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่าที่ว่าพวกเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงเหล่านั้นริอาจหาญกล้างัดอำนาจกับลอร์ดทั้ง 4 อย่างพวกตน เหล่าลอร์ดจะไม่มีวันปล่อยคนโง่เขลาให้มีชีวิตรอดต่อไป และตอนนี้ก็ได้เวลาอันดีที่พวกตนจะได้นำพลังจากประตูเมอร์คิวเรียสไปใช้จัดการกับอีกฝ่าย

คาเอรูลาหันไปถามถึงบาร์ทัสจากเกรย์ซึ่งกล่าวว่าเขาได้ส่งคนไปตามอีกฝ่ายให้มาที่นี่แล้ว ไม่ทันขาดคำดีร่างของเด็กชาย และแฟร์รี่ก็พุ่งเข้ามายังบริเวณที่ทั้ง 3 คนยืนอยู่ แม้เกรย์จะตกใจกับสภาพร่างกายที่เปลี่ยนไปของตนตรงหน้า แต่คาเอรูลาที่ใจเย็นกว่าก็เรียกให้เด็กชายเข้าไปที่หน้าประตู บาร์ทัสทำตามคำสั่งของหญิงสาวอย่างว่าง่าย และเมื่อเขาวางมือลงบนกล่องซึ่งติดอยู่บนกำแพงข้างประตู แสงสว่างพุ่งออกมาจากจุดที่เขาสัมผัสทันที

Credit : Nier2.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Spoil NieR Automata Part 27 Ending E : the End of YoRHa และวิเคราะห์เนื้อเรื่องทั้งหมดตามใจฉัน

ผ้าปิดตาของ YoRHa