Spoil NieR Automata Part 10 Ending A : Flower for Machine


ปาสคาลแยกทางกับ 2B ที่หน้าโรงงานร้างเพื่อกลับหมู่บ้านของตัวเอง หลังจากที่เขาบินจากไปได้ไม่นาน แอนดรอยด์สาวก็ได้รับการติดต่อการกลุ่มผู้ต่อต้าน สัญญาณที่ส่งมาไม่ชัดเจนจนเสียงขาดๆ หายๆ กระนั้นก็พอจับใจความว่าอีกฝ่ายต้องกำลังเผชิญหน้ากับศัตรู และต้องการกำลังเสริมเร่งด่วนที่สุด โยร์ฮาสาวจึงรีบกลับไปที่ค่าย ทว่าระหว่างทางเธอกลับพบหุ่นยนต์จำนวนมากถูกยานขนส่งปล่อยลงมาขัดขวาง หลังจากที่ต้องเสียเวลาต่อสู้ และหาทางเลี่ยงพวกมันอยู่นาน 2B ก็มาถึงค่ายกลุ่มต่อต้านจนได้

เพียงมาถึงหน้าทางเข้าค่าย แอนดรอยด์สาวก็พบกับสมาชิกหน่วยต่อต้านที่วิ่งออกมาด้วยความแตกตื่น พวกเขาต่างร้องขอความช่วยเหลือ พลางตะโกนบอกให้เพื่อนร่วมกลุ่มหนีตายออกมา 2B วิ่งสวนอีกฝ่ายเข้าไปในค่ายที่ตอนนี้กำลังโกลาหลราวกลียุค ไฟลุกไหม้เครื่องใช้ต่างๆ พวกหุ่นยนต์ดวงตาสีแดงจับแอนดรอยด์กินต่อหน้าต่อตา เสียงหวีดร้องดังไปทั่ว แม้จะตกใจ และไม่เข้าใจกับเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า โยร์ฮาก็จับอาวุธของตนเข้าโจมตีศัตรูที่กรูเข้ามาหาเธอ


2B บุกเข้าไปในค่ายจนกระทั่งได้พบกับแอนเนโมเน และสมาชิกกลุ่มต่อต้านที่ยังรอดชีวิต ดูเหมือนว่าพวกหุ่นยนต์จะสร้างเกราะป้องกันตนเอง ทำให้ปืนของพวกเธอไม่สามารถทำอะไรพวกมันได้แม้แต่น้อย จึงต้องอาศัยการโจมตีระยะประชิดเท่านั้น ด้วยความที่เป็นแอนดรอยด์รุ่นใหม่กว่าซึ่งถูกสร้างมาเพื่อการต่อสู้รูปแบบเช่นนี้ 2B จึงเสนอตัวเข้าจัดการศัตรู เปิดทางให้หัวหน้ากลุ่มต่อต้านพาสมาชิกกลุ่มหลบหนีออกไป

เมื่อกำจัดหุ่นยนต์ได้ทั้งหมดแล้ว โยร์ฮาก็ออกมาสมทบกับแอนเนโนเนเพื่อสอบถามสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่อีกฝ่ายก็ไม่ทราบถึงเหตุผลที่จู่ๆ พวกศัตรูพากันมาโจมตีเช่นกัน ตอนนั้นเองก็เกิดสั่นดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นนอกค่าย 2B จึงรีบออกตรวจสอบทันที

ที่หน้าค่ายกลุ่มต่อต้าน ปรากฏร่างของหุ่นยนต์ที่มีลักษณะคล้ายกับหุ่นยนต์ที่โยร์ฮาได้ต่อสู้บนลิฟต์ในโรงงานร้าง มันปล่อยไฟฟ้าลงแอ่งน้ำทำให้ไม่สามารถเข้าใกล้ได้ พร้อมกับส่งเสียงร้องประหลาดเป็นระยะเพื่อเรียกให้หุ่นยนต์มารวมตัวกันมากขึ้น 2B เข้าต่อกรกับมัน พร้อมกับต้องคอยป้องกันตนเองจากการโจมตีของหุ่นยนต์อื่นที่เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อใกล้พ่ายแพ้ หุ่นยนต์ทรงกลมก็ใช้แรงอากาศดูดแอยดรอยด์เข้าใกล้ตนเอง แล้วปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าทำใส่จน 2B กระเด็นไปไกล แม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บมาก เธอก็ยังไม่อาจเคลื่อนตัวได้ดีนัก

"2B!"

เสียงของ 9S ดังขึ้นมา เมื่อโยร์ฮาสาวมองไปยังต้นเสียงก็พบ Flight Unit เครื่องหนึ่งกำลังพุ่งตัวจากท้องฟ้าลงมาอย่างรวดเร็ว ก่อนปะทะหุ่นยนต์เข้าอย่างจังจนมันระเบิด ร่างของแอนดรอยด์ Scanner ที่สละยานตกกระแทกพื้น ทำให้ 2B รีบเข้าไปดูอาการของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว พร้อมประคองเขาขึ้นมา


"ตายซะ พวกแกทั้งหมดไปตายซะ"

จู่ๆ อีฟก็ปรากฏตัวขึ้นหลังซากของหุ่นยนต์ที่พังเสียหาย ก่อนที่หุ่นยนต์ที่เหลือรอดในบริเวณนั้นจะพากันไปรวมตัวที่เขา กลายเป็นก้อนกลมที่เคลื่อนไหวได้ด้วยพลังงานบางอย่าง แม้ชิ้นส่วนต่างๆ ก็ไม่ได้ถูกเชื่อมติดกันก็ตาม มันเข้าโจมตีแอนดรอยด์อีกครั้งด้วยการเคลื่อนไหวที่บ้าคลั่งราวพายุหมุนที่หอบเอาเครื่องจักรไว้ภายในตัว ทว่าเมื่อโยร์ฮาสามารถกำจัดมันลงได้ หุ่นยนต์รูปแบบเดียวกันที่รวมตัวเป็นเส้นคล้ายหนอนแมลงก็พุ่งตัวออกมาจากด้านหลังอาคารที่เสียหาย ก่อนจากไปโดยไม่สนใจทั้งสอง ตอนนั้นเอง 2B ก็ได้รับการติดต่อขอความช่วยเหลือจากปาสคาล เนื่องจากหมู่บ้านของเขากำลังถูกโจมตี แต่ไม่นานสัญญาณก็ถูกรบกวนจนโดนตัดไป

2B และ 9S รีบวิ่งไปที่หมู่บ้านของหุ่นยนต์ และที่หน้าทางเข้าเมืองนั่นเอง พวกเธอก็พบกับหุ่นยนต์คล้ายหนอนตัวนั้นกำลังทำลายหมู่บ้านอยู่ มันดำลงไปในดิน ก่อนพุ่งตัวขึ้นมายิงเลเซอร์ทำร้ายแอนดรอยด์ แต่ในที่สุดพวกเธอก็จัดการมันได้อีกตัว

ปาสคาลขอบคุณทั้งสอง ก่อนตั้งข้อสันนิษฐานว่าหุ่นยนต์ที่ทำหน้าที่ควบคุมระบบปฏิบัติการน่าจะบ้าคลั่งไปแล้ว จึงสั่งให้หุ่นยนต์ที่ยังเชื่อมต่อกับระบบสูญเสียสติและโจมตีทุกอย่างในสายตา การที่อดัมเป็นผู้ดูแลระบบปฏิบัติการพวกหุ่นยนต์อยู่ครึ่งหนึ่ง ทำให้พวกเขาสามารถคาดเดาได้ทันทีว่าผู้ที่ดูแลระบบส่วนที่เหลือต้องเป็นอีฟ น้องชายของเขาแน่นอน แอนดรอยด์จึงรีบค้นหาตำแหน่งของอีกฝ่าย

"พี่ครับ พี่ พี่ พี่ อ๊าาาาาก"

เสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของอีฟแทรกเข้ามาในสัญญาณติดต่อของโยร์ฮา ดูเหมือนเขาจะส่งสัญญาณแรงขึ้นเพื่อรวบรวมหุ่นยนต์มาให้มากที่สุด หากไม่รีบจัดการก็ไม่อาจคิดได้เลยว่าจะการต่อสู้จะก่อให้เกิดความเสียหายสูญเสียมากเท่าไร ในที่สุด 2B และ 9S ก็พบกับอีกฝ่ายกำลังนั่งบนซากปรักหักพังของอาคารราวกับกำลังรอคอยการมาถึงของทั้งสอง เขาหันหน้ามาพร้อมกับที่ผิวกายค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีดำ ก่อนยันกายลุกขึ้นยืน

"มาแล้วเหรอ พวกเธอก็คงรู้สึกเหมือนกันสินะว่าโลกนี้มันดูไม่มีความหมายเลยสักนิดเดียว ทั้งๆ ที่ตั้งแต่ที่ฉันมีตัวตนขึ้นมาพี่ก็เป็นทุกอย่างของฉัน เพราะฉะนั้นทุกอย่างมันต้องตายให้หมด!"

อีฟกล่าวด้วยความเกรี้ยวกราด ทุกคนล้วนต้องการต่อสู้เพื่ออะไรบางอย่าง แต่ในเมื่อสิ่งนั้นถูกทำลายไป เขาก็ไม่เห็นว่าสิ่งใดในโลกนี้ที่ควรคงอยู่เช่นกัน เขาใช้พลังควบคุมโลหะจากร่างไร้ชีวิตของหุ่นยนต์รอบๆ มาสร้างเป็นแขนขนาดใหญ่ พร้อมกันนั้นก็ก่อแรงลมพัดฝุ่นขึ้นกระจายเต็มอากาศจนวิสัยทัศน์ย่ำแย่มองอะไรแทบไม่เห็น

"ทำไมพวกแกต้องฆ่าพี่ฉันด้วย"

อีกฝ่ายอาละวาดทำลายทุกอย่างที่อยู่รอบตัว แต่หลังจากที่ถูกโยร์ฮาเข้าประชิดจนเสียหาย เขาก็หาทางทิ้งระยะห่างจากทั้งสองเพื่อโจมตีจากระยะไกลแทน

"คำเตือน ตรวจพบสัญญาณของพลังงานจำนวนมาก ดูเหมือนว่าพลังงานจะถูกส่งมาจากหุ่นยนต์ที่ยังเชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการ"

เสียงของ POD 042 ที่รายงานขึ้นมา ทำให้แอนดรอยด์รู้ว่าอีฟกำลังดึงพลังงานจากหุ่นยนต์ในระบบมาเป็นพลังงานของตัว ร่างกายของเขาค่อยๆ ฟื้นฟูจนราวกับการต่อสู้ที่ผ่านมาไม่ได้สร้างความเสียหายให้เขาเลยแม้แต่น้อย หากปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไปพวกเธอคงไม่มีวันเอาชนะอีกฝ่ายได้แน่

9S เสนอว่าเขาจะเจาะระบบของอีฟเพื่อตัดการเชื่อมต่อของอีกฝ่ายจากระบบ แต่การจะทำเช่นนั้นได้เขาจะต้องตั้งสมาธิจนอาจไม่สามารถปกป้องตัวจากการโจมตีของศัตรู แอนดรอยด์ Scanner จึงขอให้ 2B ช่วยตรึงกำลังของศัตรูในระหว่างนี้ แต่แม้เธอจะเห็นด้วย POD 042 กลับวิเคราะห์ว่าไม่ควรทำตามแผนการนั้นเนื่องจากมีโอกาสสำเร็จต่ำมาก

เมื่อได้ยินเช่นนั้นแอนดรอยด์สาวก็หัวเสียขึ้นมาทันที เธอเชื่อมั่นในตัว 9S ว่าเขามีความสามารถมากพอ และเขาก็จะทำตามที่พูดเสมอ หลังจากที่ต้องต่อสู้โดยไร้การสนับสนุนจากคู่หูเช่นที่ผ่านมา ในที่สุดอีฟก็ถูกตัดการเชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการ เมื่อเห็นว่าตนถูกอีกฝ่ายแทรกแซงระบบสำเร็จ อีฟก็ระเบิดพลังใส่ 2B ก่อนเงื้อหมัดใส่อย่างรวดเร็ว แต่คู่หูของเธอมาช่วยรับการโจมตีไว้ได้ทัน ทำให้อีกฝ่ายเสียจังหวะจนแอนดรอยด์สาวสามารถฟันแขนขวาของเขาขาดได้

แรงปะทะทำให้โยร์ฮาตัวลอยไปกระแทกกับพื้น ผ้าปิดตาหลุดออกจากใบหน้าขณะพยายามลุกขึ้นยืน อีฟรวมพลังฮึดสุดท้ายโจมตีใส่ทั้งสองอย่างไร้ความปรานี ลมแรงขึ้นเรื่อยๆ จนมองอะไรแทบไม่เห็น

"ตายซะ ตายซะ ตายซะ"

หุ่นยนต์ระเบิดพลังโจมตีแอนดรอยด์จนเสียหาย ระบบควบคุมการต่อสู้ระยะปะชิดไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ 2B และ 9S จึงได้แต่เดินกะเผลกหลบการโจมตี และให้ POD ช่วยยิงกระสุนใส่อีกฝ่าย สุดท้ายระบบการโจมตีระยะไกลก็เกิดความเสียหายตาม จนพวกเธอไม่สามารถต่อสู้ได้อีก แต่โชคดีที่ดูเหมือนว่าการยิงครั้งสุดท้ายจะทำให้อีฟไม่สามารถขยับร่างกายได้แล้วเช่นกัน

2B หยิบดาบที่หักของตนเข้าไปหาหุ่นยนต์ที่นั่งคุกเข่าก้มหน้าราวยอมรับชะตากรรม เขาหลับตาลงขณะที่แอนดรอยด์สาวเงื้อดาบในมือขึ้น

"พี่..."

อีฟพึมพำออกมา ภาพของหุ่นยนต์ที่ไม่สมควรมีความรู้สึกใดๆ แต่กลับแสดงความเศร้าคำนึงถึงผู้ที่จากไปได้ ทำให้ 2B ลังเล เพราะมันเป็นความรู้สึกที่เธอต้องเผชิญมาตลอดเช่นกัน แต่สุดท้ายแอนดรอยด์สาวก็สูดลมหายใจลึก ออกแรงแทงดาบทะลุศีรษะของอีกฝ่าย


เมื่อดึงอาวุธของตัวเองออกมา ร่างของอีฟก็ล้มลงแน่นิ่งกับพื้น 2B ปล่อยให้ดาบหล่นจากมืออย่างหมดเรี่ยวแรง เธอหลับตาลงก่อนเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า

"ในที่สุด... ก็จบสักที"

เธอเอ่ยออกมาด้วยความโล่งอก ตอนนั้นเอง 9S ซึ่งนั่งอยู่ไม่ห่างไปมากนักกลับส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด เขาข่มตาแน่น พยายามควบคุมบางอย่างภายในร่างกาย แต่เมื่อเขาเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตาสีฟ้ากลับปรากฏแสงสีแดงฉายออกมา ดูเหมือนว่าเขาจะติดไวรัสของพวกหุ่นยนต์มาจากตอนที่เจาะระบบของอีฟ เศษเหล็กค่อยๆ ขยับเข้าหาเขาเหมือนตอนที่หุ่นยนต์รวมร่างแล้วทำลายทุกสิ่งอย่างบ้าคลั่ง 2B รีบเข้าไปดูอาการของอีกฝ่าย ก่อนที่แอนดรอยด์ Scanner จะกล่าวกับคู่หูด้วยคำคล้ายกำลังปลอบโยนไม่ให้เธอต้องหวาดกลัว ทั้งๆ ที่เป็นเขาเองที่กำลังย่ำแย่

"ไม่เป็นไรหรอกครับ ยังไงก็โหลดข้อมูลสำรองของผมจากบังเกอร์มาใหม่ได้ตลอด"

"แต่ว่าอย่างนั้นนายก็จะไม่ใช่ตัวนายอีกแล้วน่ะสิ นายจะสูญเสียตัวตนตอนนี้ของนายไปนะ"

2B แย้งด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ได้เพียงแต่มองคู่หูของเธอโดยไม่อาจช่วยเหลืออะไร

"ก็คงต้องให้เป็นอย่างนั้นแหละครับ ยังไงซะเราก็โหลดข้อมูลที่เสียหายไปแล้วขึ้นไปบนบังเกอร์ไม่ได้อยู่ดี เพราะฉะนั้น..."

9S พยายามต่อต้านข้อมูลที่เริ่มกระจายความเสียหายด้วยสีหน้าทรมาน ผิวกายกร่อนจนเห็นส่วนประกอบจักรกลภายใน แล้วเขาก็รวบรวมกำลังเอ่ยออกมาเป็นครั้งสุดท้าย

"ขอร้องล่ะ 2B ผมอยากให้คุณ... ช่วยทำเรื่องหนึ่ง...ให้ผม"

เมื่อได้ยินเช่นนั้นคนที่ฟังอยู่ก็นิ่งไปพักหนึ่งด้วยรู้ดีว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร 2B กำหมัดแน่น ค่อยๆ เดินเข้าไปคู่หูอย่างยากลำบาก ไม่ใช่เพราะร่างกายที่บาดเจ็บ แต่เป็นใจที่เหมือนถูกบีบ เธอคุกเข่าลงนั่ง เอื้อมมือประคองใบหน้าของเขาเอาไว้ ทั้งสองมองหน้าคนตรงหน้า ซึมซับความทรงจำที่มีร่วมกันมา ก่อนที่แอนดรอยด์สาวจะเลื่อนมือลงมายังลำคอพลางดันอีกฝ่ายให้นอนราบลงกับพื้น มือของ 9S ยกขึ้นตามสัญชาตญาณที่ต้องการยื้อชีวิต แต่สุดท้ายมันก็หล่นลงข้างตัว พร้อมกับเสียงร่างกายพยายามหายใจเฮือกสุดท้าย



น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาสีฟ้าของแอนดรอยด์สาว หยดลงบนใบหน้าของผู้ที่จากไป 2B ส่งเสียงสะอื้นไห้ ใช้มือลูบใบหน้าของอีกฝ่าย ก่อนประคองศีรษะของเขาขึ้นมา

"ทำไมมันถึงต้องลงเอยอย่างนี้ทุกครั้งด้วยนะ"

เธอดึงร่างของ 9S เข้าสวมกอด แต่ตอนนั้นเองเสียงสัญญาณบางอย่างก็ดังขึ้นใกล้ตัว แสงสีเขียวกระพริบจากดวงตาของซากหุ่นยนต์ทีอยู่ไม่ห่างไปนัก เมื่อเห็นดังนั้น 2B ก็รีบลุกขึ้นหยิบดาบซึ่งหักแล้วของตนขึ้นมาหมายสังหารอีกฝ่ายที่เป็นเผ่าพันธ์เดียวกับผู้ที่ฆ่าคนสำคัญของเธอ ตอนนั้นเองแสงก็ฉายออกมาจากศีรษะของหุ่นยนต์ทุกตัว เสียงสังเคราะห์ดังจากทุกทีราวกับพวกมันกำลังส่งสัญญาณข้อมูลหากัน ในที่สุดแสงสีเขียวก็ก็พริบจากทั่วบริเวณ แอนดรอยด์สาวมองรอบตัวอย่างไม่เข้าใจ แต่แล้วหุ่นยนต์ตัวใหญ่ก็ค่อยๆ ขยับกายขึ้นมา ส่งเสียงร้องมึนงงคล้ายคนเพิ่งตื่นนอน 2B รีบยกอาวุธในมือขึ้นพร้อมเข้าโจมตีจักรกลตรงหน้า

"ด่ะ เดี๋ยวก่อนครับ 2B"

จู่ๆ เสียงที่คล้ายกับ 9S ก็ดังออกมาจากหุ่นยนต์ พร้อมกับที่มันยกมือเป็นเชิงห้ามไม่ให้คนตรงหน้าทำร้ายตน ก่อนที่จะเอ่ยรัวเร็วออกมาเพื่อพยายามอธิบายเหตุการณ์ให้เธอฟัง

"ดูเหมือนว่าผมจะไปทิ้งข้อมูลของตัวเองในระบบของพวกหุ่นยนต์เข้าน่ะครับ พอรู้ตัวอีกทีตัวผมก็ถูกสร้างขึ้นใหม่ในระบบปฏิบัติการแถวนี้แล้ว ได้ถูกสร้างขึ้นจากการเอาข้อมูลหลายๆ ที่มารวมกันอย่างนี้เนี่ยเป็นประสบการณ์ที่หายากจริงๆ ผมอยากจะบันทึกข้อมูลมาก แต่ก็หาที่เก็บข้อมูลไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นผมก็เลยรวบรวมหน่วยความจำของศัตรูที่อยู่ใกล้ๆ จนได้เข้าใช้ร่างของผมในตอนนี้ แล้วผมก็..."

9S ที่ได้ร่างใหม่มาพูดไม่หยุดด้วยความตื่นเต้นกับประสบการณ์แปลกใหม่ที่ได้เจอ ทว่า 2B กลับไม่สนใจเรื่องที่เขากำลังเล่าเลย แอนดรอยด์สาวค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้อีกฝ่ายด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ ความรู้สึกบางอย่างรื้นขึ้นในใจ จนไม่สนใจอาวุธที่เผลอปล่อยหล่นลงพื้น เธอเอามือแตะอีกฝ่าย ไม่ว่าเหตุผลที่ทำให้เขายังมีชีวิตอยู่จะคืออะไรก็ตาม มันก็ไม่สำคัญเท่ากับการที่เธอยังคงมีเขาอยู่เคียงข้าง

"9S ดีจริงๆ ทีนายไม่เป็นอะไร"

2B ก้มหน้าลงคล้ายกับกำลังจะร้องไห้ แต่แล้วเธอก็เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย เผยรอยยิ้มจากแอนดรอยด์ผู้เคยบอกว่าความรู้สึกเป็นสิ่งไม่จำเป็น และมักมีใบหน้านิ่งเฉยตลอดเวลา

แม้ตอนนี้จะไม่มีริมฝีปาก แต่ก็ดูราวกับ 9S กำลังยิ้มตอบรับให้เธอ เขายกมือของร่างกายชั่วคราวขึ้นมา ให้ 2B ซึ่งบาดเจ็บจนเคลื่อนไหวลำบากขึ้นมาเพื่อออกเดินทางด้วยกันอีกครั้ง เช่นเดียวกับตอนที่เธอเคยอุ้มอีกฝ่ายกลับค่ายกลุ่มต่อต้าน แอนดรอยด์สาวมองใบหน้าของคู่หูของเธออย่างเปี่ยมสุข พลางเอ่ยบางอย่างกับตนเองในใจ

อะไรคือสิ่งที่แยกหุ่นยนต์กับแอนดรอยด์อย่างพวกเธอให้แตกต่างกัน ทั้งๆ ที่พวกหุ่นยนต์เองต่างก็มีความรู้สึก มีความฉลาดเหมือนกัน เสียงกรีดร้องสุดท้ายยามที่ต้องเผชิญกับความตายของพวกมัน ตอนนี้ก็ยังก้องอยู่ภายในตัวของเธอ...

เกร็ดความรู้
  • หุ่นยนต์ที่ถูก 9S ใช้ Flight Unit ชน มีชื่อว่า Boku-Shi ซึ่งเป็นการอ่านแบบภาษาญี่ปุ่นของชื่อม่อจื๊อ นักปรัชญาชาวจีนผู้ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำตรรกศาสตร์มาใช้เป็นคนแรกของประเทศ แนวคิดของเขาไม่ได้เป็นเชิงการคิดค้นสิ่งใหม่ๆ แต่เป็นการนำสิ่งที่มีอยู่มาพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น เขามีความเชื่อว่ามนุษย์ควรมีความรักความเห็นใจให้แก่กัน ไม่ควรถูกแบ่งแยกด้วยเชื้อชาติ ฐานะ หรือวรรณะ การมอบตำแหน่งงานใดๆ ควรดูที่ความสามารถมากกว่าการสืบตำแหน่งด้วยสายเลือด นอกจากนี้เขายังต่อต้านการทำสงครามด้วย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ผ้าปิดตาของ YoRHa

รีวิว Nier Automata Novella ฉบับยาว ภาษาไทย แบบกาวๆ