Spoil Drag on Dragoon 3 Part 2 คู่หูใหม่

บนโลกที่ถูกปกป้องด้วยพลังแห่งเสียงเพลง ที่นี่ประกอบขึ้นด้วยดินแดนแห่งทะเล ดินแดนแห่งภูเขา ดินแดนแห่งป่า ดินแดนแห่งทราย และเมืองมหาวิหาร แต่กลับมีเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงคนหนึ่งในหมู่พี่น้อง 6 คน ที่คิดหาหนทางที่จะนำมาซึ่งหายนะของโลก และเธอไม่มีวันหยุดจนกว่าน้องสาวทุกคนของเธอจะหมดลมหายใจ

เจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงกบฏคนนั้นมีชื่อว่าซีโร หลังจากเหตุการณ์ที่เธอบุกเมืองมหาวิหารสังหารน้องสาวทั้ง 5 ของตน เธอก็ได้หลบหนีมายังเมืองแห่งทะเลเพื่อพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ รอคอยที่จะได้กลับไปทำตามเป้าหมาย

"ไม่ ไม่นะ ขอร้องล่ะ... อย่าทิ้งข้าไป มิเคล!"

ซีโรลุกพรวดขึ้นจากเตียง หอบหายใจขณะมองไปรอบห้อง ก่อนรู้ตัวว่าตนเพิ่งตื่นจากฝันร้าย แม้เวลาจะผ่านมาแล้วถึง 1 ปี เธอก็ยังคงฝันถึงมังกรคู่หูที่เสียชีวิตไป หญิงสาวเรียกชื่อของเขาด้วยความเจ็บปวด เมื่อมองใบหน้าของตัวเองที่สะท้อนบนกระจก เธอก็เห็นดอกไม้สวยงามงอกออกมาจากดวงตาข้างขวา มันคือสิ่งที่คอยทำร้ายเธอมาตลอด แต่แม้เธอจะเจ็บมากเพียงใด ซีโรก็พบว่าตนไม่สามารถทำลายมันได้ เธอตัดสินใจเดินไปหยิบแขนปลอมขึ้นมาใส่ยังบริเวณที่เคยเป็นแขนซ้ายของตัวเอง ได้เวลาแห่งการแก้แค้นแล้ว

แต่ก่อนที่หญิงสาวจะได้ออกจากบ้าน เสียงเอะอะบางอย่างก็ดังขึ้นจากข้างนอก เมื่อเปิดประตูออกไปภาพที่ได้เห็นก็ทำให้ซีโรต้องกรอกตา ยืนเท้าเอว เท้าเคาะพื้นเป็นจังหวะอย่างไม่สบอารมณ์มังกรตัวหนึ่งกำลังกระโดดโลดเล่นในบึงโคลนหน้าที่พัก เสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากด้วยความสนุกสนานบอกได้ว่ามันยังมีอายุไม่มากนัก มังกรน้อยที่ร่างกายใหญ่เท่าบ้านยังไม่สังเกตเห็นการมาของหญิงสาวผมสีเงิน มันกลิ้งตัวไปมาสะบัดโคลนกระเด็นสกปรกทั่วบริเวณ จนในที่สุดซีโรก็สุดจะทน

"หยุดเดี๋ยวนี้นะโว้ยยย" เสียงตะโกนที่เต็มไปด้วยความโกรธทำให้มังกรชะงักในทันที มันยืนตัวแข็งไม่กล้าขยับตัว ขณะที่หญิงสาวทำท่าทางราวกับจะเชือดมันได้ทุกเวลา "ข้าบอกเจ้าอีกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเล่นไอ้โคลนบ้านั่น!"

ขาของมังกรน้อยสั่นพั่บๆ ก่อนที่มันจะกลั้นปัสสาวะไว้อยู่เพราะความหวาดกลัว สิ่งที่ได้เห็นทำเอาซีโรพูดไม่ออกด้วยความอเนจอนาถใจ

"ขอ ขอโทษด้วยคร้บบบบ ข้าจะ... ข้าจะไม่ทำอีกแล้วครับ"

เสียงของเด็กชายดังจากปากมังกรขณะที่มันวิ่งหนีเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลง ซีโรวิ่งตามอีกฝ่าย ถือโอกาสนี้การออกเดินทางสู่วิหารแห่งทะเล ที่อยู่ของไฟว์ ผู้เป็นน้องสาวคนเล็กของเธอ เมื่อเห็นว่าตนไม่ได้ถูกต่อว่าอะไรอีก มังกรน้อยจึงสอบถามอาการบาดเจ็บของอีกฝ่าย รวมถึงเรื่องราวของมิเคล ความจริงแล้วเขาคือมิเคลที่เกิดใหม่ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นทั้งสองก็ไม่ใช่ตัวเดียวกัน เขาจึงไม่มีความทรงจำของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย แต่วีรกรรมกล้าหาญที่ได้ฟังจากซีโรก็ทำให้เขาอยากจะโตขึ้นเป็นมังกรแข็งแกร่งเหมือนอดีตคู่หูของหญิงสาว

มังกรน้อย : จะว่าไปแล้ว ซีโร เจ้าเรียกมิเคลว่ายังไงเหรอ
ซีโร : เออ... ก็เรียกว่ามิเคลนั่นแหละ

มังกรน้อย : แล้วทำไมเจ้าถึงไม่เรียกข้าว่ามิไฮล์ล่ะ ทำไมถึงต้องเรียกข้าว่า เจ้าโง่ ไม่ก็ เฮ้ เจ้าน่ะ หรืออะไรประมาณนั้นน่ะ
ซีโร : ข้าจะเรียกชื่อเจ้าก็ต่อเมื่อเจ้ากลายเป็นมังกรเต็มตัวเท่านั้น เจ้าเห็นเรือรบนั่นไหม
มิไฮล์ : อืม

ซีโร : เผามันทิ้งซะ
มิไฮล์ : หา ทำไมกันล่ะ เราไม่ลองไปพูดกับพวกเขาดูก่อนเหรอ

คำถามใสซื่อของมิไฮล์ไม่ได้ทำให้ซีโรใจอ่อนลง มังกรน้อยจึงบินขึ้นไปบนฟ้าเตรียมทำตามที่หญิงสาวสั่ง ขณะที่เจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงมุ่งหน้าจำกัดศัตรูที่ขวางทางของเธอ

มิไฮล์ : รู้ไหม ข้าคิดว่าเจ้าไม่ควรฆ่าน้องสาวของเจ้าเลยนะ
ซีโร : อ๋อ เหรอ
มิไฮล์ : ใช่แล้ว ถ้าเจ้ามีปัญหาอะไรกันล่ะก็ ก็น่าจะเปิดอกคุยกันสิ

ซีโร : นั่นไม่จำเป็นหรอก
มิไฮล์ : แบบว่าไม่มีทางที่เจ้ากับน้องสาวจะไปด้วยกันได้เลยเหรอ มันจะไม่มีสักทางเลยจริงๆ เหรอ
ซีโร : ไม่มี

มิไฮล์ : แล้วถ้าพวกนางขอโทษเจ้า หรือไม่ก็เอาเค้กมาให้เจ้าล่ะ
ซีโร : ...ไม่

หญิงสาวปฏิเสธเสียงแข็ง ทำเอาคนถามอับจนหนทางที่จะช่วยสมานฉันท์ เหล่าทหารแห่งดินแดนแห่งทะเลยังเข้าโจมตีซีโรเพื่อปกป้องท่านหญิงไฟว์ เจ้านายผู้งดงามของพวกเขาอย่างไม่กลัวเกรง  สักพักมังกรน้อยก็เริ่มชวนคู่หูของเขาคุยอีกครั้ง

มิไฮล์ : ข้าไม่เห็นเข้าใจเลยว่าทำไมเจ้าถึงต้องทำอย่างนี้ ซีโร
ซีโร : ก็เพราะว่าข้าต้องการเป็นเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงแค่คนเดียวในโลกนี้น่ะสิ และการเป็นอย่างนั้นได้ ข้าก็ต้องฆ่าเจ้าหญิงคนอื่นให้หมด พอใจหรือยังล่ะ
มิไฮล์ : ไม่ ยังไงข้าก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ไม่เห็นเข้าใจเลย ซีโร ไม่เข้าใจเลยจริงๆ

ทั้งสองหยุดคุยไปอีกพักหนึ่งเพื่อตั้งสมาธิกับการต่อสู้ แต่แล้วมิไฮล์ที่ยังไม่เคยพบกับน้องสาวของอีกฝ่ายมาก่อนก็อดถามขึ้นอีกตามประสาเด็กช่างสงสัยไม่ได้

มิไฮล์ : ไฟว์มีอะไรเหมือนเจ้าบ้างหรือเปล่า ซีโร
ซีโร : ไม่มีหรอก
มิไฮล์ : ถ้าอย่างนั้นข้าก็อยากลองพูดกับนางดูจัง พวกเจ้าอาจจะได้ไม่ต้องสู้กันก็ได้นะ

ซีโร : ก็ตามใจเจ้าสิ
มิไฮล์ : ก็เพราะว่าถ้านางไม่เหมือนกับเจ้า บางทีนางอาจจะยอมฟังที่ข้าพูดก็ได้ว่าไหม
ซีโร : ความคิดแบบนั้นของเจ้าจะทำให้เจ้าถูกฆ่าสักวันแน่ รู้หรือเปล่า

มิไฮล์ : ถ้าอย่างนั้นอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าฆ่าพวกน้องสาวของเจ้าได้แล้วเหรอ
ซีโร : ข้าก็จะกินพวกนางไงล่ะ

ซีโรหยอกมังกรของเธอที่ถึงกับผวาในคำตอบ ก่อนอธิบายความจริงว่าหากเธอสามารถฆ่าน้องสาวได้แล้วก็จะได้พลังของอีกฝ่ายมาเป็นของตัวเอง และนั่นคือสิ่งที่หญิงสาวต้องการ เธอใช้พลังแห่งเทพจัดการทหารตรงหน้าอย่างง่ายดายราวอีกฝ่ายเป็นแค่มดปลวก แต่ด้วยจำนวนก็ทำให้เธอเสียเวลาไปไม่น้อย

มิไฮล์ : ว่าแต่ไฟว์เป็นคนยังไงเหรอ
ซีโร : นางเป็นพวกสำส่อนน่ะ
มิไฮล์ : สำส่อนแปลว่าอะไรเหรอ

ซีโร : แปลว่าในหัวของนางมีแต่เรื่องสกปรกๆ น่ะสิ
มิไฮล์ : อ๋อ ถ้าอย่างนั้นนางก็เหมือนเจ้าเลยนีนา
ซีโร : เจ้าช่วยหุบปากซะทีได้ไหมเนี่ย

ในที่สุดสองคู่หูก็มาถึงบริเวณที่ควรจะเป็นที่ตั้งของวิหาร ทว่าสิ่งที่ได้เห็นกลับมีเพียงซากปรักหักพังของสิ่งปลูกสร้าง และเรืออับปางเกยตื้นบนชายหาด แต่ยังไม่ทันที่จะคิดหาหนทางต่อ ตอนนั้นเองสิ่งมีชีวิตประหลาดร่างยักษ์ก็ปรากฏตัวขึ้นจากทะเล ในมือถือตะบองอันใหญ่ที่สามารถฟาดมนุษย์ให้ตายได้ในครั้งเดียว มันพุ่งเข้าโจมตีเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงทันที และไม่ว่ามันจะเป็นตัวอะไรกันแน่ ซีโรก็ไม่คิดจะไว้ชีวิตแก่ผู้ที่ขัดขวางเธออยู่ดี

เมื่อกำจัดยักษ์ได้แล้ว พื้นดินก็เริ่มสั่นสะเทือน วิหารที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ทะเลค่อยๆ ดันตัวเองขึ้นพ้นเหนือน้ำ เผยเส้นทางหินราวกับกำลังเชื้อเชิญให้ผู้มาเยือนเข้าไปด้านใน และนั่นทำซีโรแย้มยิ้มออกมา

"ได้เลย ไฟว์ ให้ข้าดูสิว่าเจ้ามีอะไรจะงัดมาใช้สู้กับข้าบ้าง"

เกร็ดความรู้

• ที่เลือกใช้การอ่านออกเสียงชื่อมิเคลตามภาษาญี่ปุ่น เพื่อให้คล้องเสียงกับชื่อมิไฮล์ซึ่งอ่านตามภาษาญี่ปุ่นเช่นกัน
• ในเวอร์ชันภาษาอังกฤษชื่อของมิไฮล์ (Mikhail) จะออกเสียงเป็นมิเคล แต่การเขียนตัวอักษรจะต่างกับมิเคล (Michael)
• แม้มิเคลจะเกิดใหม่เป็นมิไฮล์ แต่ทั้งสองนับว่าเป็นคนละตัวกัน เพราะไม่ได้ฟื้นคืนชีพ แต่เป็นสิ่งที่คล้ายๆ กับการกลับชาติมาเกิดใหม่มากกว่า