บทบาททางเพศในอนิเมะและมังงะ เรื่อง Shoujo Kakumei Utena และ Houkago Hokenshitsu Part 1
สรีระที่แตกต่างทำให้ชายและหญิง ไม่มีทางเหมือนกัน แต่สิ่งที่ทำให้พวกเราเสมอภาคคือสิทธิในการแสดงความคิด และเลือกเส้นทางในชีวิตได้ตามที่ตนต้องการ หากสิ่งนั้นไม่ได้ทำความเสียหายให้แก่ผู้ใด กระแสแฟมินิสต์ที่กำลังมาแรงขึ้นเรื่อยๆ ส่งเสริมภาพลักษณ์ให้ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องพึ่งพาแต่ผู้ชายเหมือนสมัยก่อน หากความสามารถมากพอก็สามารถขึ้นมาอยู่แนวหน้าได้เช่นกัน กระนั้นก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าระบบบิดาธิปไตยนั้นฝังรากลึกอยู่ในสังคม ยากที่จะเปลี่ยนไปได้เพียงชั่ววัน ทำให้หลายครั้งเราก็ใช้คำว่าแฟมินิสต์ไปในทางที่ผิด และภาพลักษณ์ที่ว่าชายต้องแข็งแกร่ง หญิงต้องอ่อนแอก็ยังแอบแฝงอยู่ในสื่อต่างๆ อยู่มาก
แม้ปัจจุบันสื่อภาพยนต์และแอนนิเมชั่นจะมีตัวละครเอกเป็นผู้หญิง ซึ่งเก่งกล้าสามารถกว่าตัวละครหญิงในสมัยก่อน แต่ภาพลักษณ์ของพวกเธอกลับไปอาจหลุดพ้นจาก “สิ่งที่ผู้หญิงควรเป็น” ของสังคมได้ บทบาทในเรื่องของเธอมักถูกเน้นไปทางด้านเพศ หรือไม่ก็เกี่ยวกับความรักแบบชู้สาว ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว การเน้นการเคลื่อนไหวของสรีระส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นพิเศษ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องรักใคร่ หากเธอมีปมบางอย่างในชีวิต ปมนั่นก็มักเกี่ยวกับผู้ชายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เช่นโดนหักอก หรือโดนทำร้ายร่างกายจิตใจ หลายครั้งความแข็งแกร่งของเธอก็ถูกผูกโยงไว้กับความเย้ายวนทางเพศ หากไม่เป็นเช่นนั้นเธอต้องมีการแสดงออกแบบเพศชาย และในหลายเรื่องสุดท้ายเธอก็ต้องได้รับการช่วยเหลือโดยเพศชายอยู่ดี น้อยมากที่ตัวละครหญิงจะถูกเน้นเพียงความสามารถ ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องรักฉันท์ชู้สาว มีแรงจูงใจในชีวิตที่ไม่เกี่ยวข้องกับเพศชาย หรือไม่จำเป็นต้องพึ่งพาผู้ชายเพราะอีกฝ่ายเป็นผู้ชายอย่างแท้จริง
เพศชายเองก็มี “สิ่งที่ผู้ชายควรเป็น” ที่สังคมกำหนดเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะต้องเก่ง เป็นผู้นำที่เพรียบพร้อมทั้งกายใจ แต่ใช่ว่าทุกคนจะมีความสามารถเป็นที่หนึ่งในทุกด้าน ไม่มีใครที่แข็งแกร่งได้ตลอดเวลา ย่อมมีบางครั้งที่เพศชายต้องการการช่วยเหลือ และเป็นฝ่ายตามบ้างเหมือนกัน
แอนนิเมชั่นและมังงะที่ทำให้เรารู้สึกถึงบทบาททางเพศที่สังคมกำหนด และการพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงบทบาทมากๆ มีอยู่ 2 เรื่อง คือ Shoujo Kakumei Utena ฉบับแอนนิเมชั่น และมังงะ Houkago Hokenshitsu แม้เนื้อความหลักจะต่างกัน แต่ทั้งคู่ก็มีองค์ประกอบที่คล้ายกันมาก ไม่ว่าจะเป็นกรอบสังคม หรือตัวเอกที่มีความสับสนทางเพศ ทั้งสองเรื่องยังมีการใช้ภาพเชิงสัญลักษณ์สื่อถึงเรื่องราวที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องทางเพศ อีกทั้งยังสื่อถึงบทบาททางเพศที่แตกต่างของชายหญิงอีกด้วย
เนื้อเรื่องคร่าวๆ ของทั้งสองเรื่องเป็นดังนี้
Shoujo Kakumei Utena (Revolutionary Girl Utena) หรือชื่อไทย อูเทนะ พลิกฟ้าตามหารัก
เนื้อเรื่องของอูเทนาฉบับมังงะ และแอนนิเมชั่นมีเนื้อหาค่อนข้างต่างกัน ในบทความนี้จะยึดจากแอนนิเมชั่น
ในวัยเด็ก อูเทน่าสูญเสียครอบครัวไปในอุบัติเหตุ ระหว่างที่เธอกำลังโศกเศร้า และสิ้นหวัง เด็กชายคนหนึ่งซึ่งบังเอิญผ่านมาพอดีก็เข้ามาให้กำลังใจบอกให้เธอเข้มแข็ง ก่อนจากไปเขาได้สวมแหวนที่มีตรากุหลาบบนนิ้วนางข้างซ้ายของเธอแทนคำสัญญาว่าจะพบกันอีก อูเทนารู้สึกราวอีกฝ่ายเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาว ความอ่อนโยนทว่าแข็งแกร่งนั้นสร้างความประทับใจให้เธอเป็นอย่างมาก แต่กลับกลายเป็นว่านั่นทำให้เธอเริ่มทำตัวเป็นเจ้าชายเสียเอง เพื่อจะได้รู้สึกเข้าใกล้เขามากขึ้น และหวังว่าจะได้พบอีกฝ่ายอีกสักวัน
อูเทนาเติบโตขึ้นมาเป็นสาวทอมบอย แต่งตัวเป็นผู้ชายไปโรงเรียน ปฏิบัติตัวเยี่ยงเด็กชาย ทำให้มีทั้งคนเกลียด และคนที่ชื่นชอบ แต่แล้วเธอก็ได้พบกับเด็กสาวผิวเข้ม ใส่แว่นตาคนหนึ่งกำลังถูกนักเรียนชายทำร้ายร่างกาย อูเทน่าเข้าไปช่วยเหลือเด็กสาว ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่เห็นความดีของอูเทนา และเลือกจะไปกับชายคนนั้นซึ่งอ้างว่าเป็นคนรักของเธอ ทำให้อูเทนาทั้งไม่พอใจ และเกิดคำถามต่ออีกฝ่ายขึ้นมาว่านั่นคือสิ่งที่ผู้หญิงควรทำให้คนรักของตนอย่างนั้นหรือ
นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้อูเทนาเข้าสู่การต่อสู้ชิงเจ้าสาวกุหลาบ เพื่อช่วยเหลือแองจี้ เด็กสาวที่จะยอมกลายเป็นคนรักที่ยอดเยี่ยมให้ใครก็ตามที่ชนะการแข่งขัน และมอบพลังที่จะสามารถมุ่งไปสู่หนทางปฏิวัติโลกให้แก่คนผู้นั้น อูเทนาต้องต่อสู้กับผู้ท้าชิงหลายคน ฝ่าฝันบททดสอบทางจิตใจถึงความสัมพันธ์ของตนเอง แองจี้ และเจ้าชายในอดีตของเธอเอง
Houkago Hokenshitsu (After School Nightmare) หรือชื่อไทย บทเรียนลับเกมหัวใจ
อิจิโจ มาชิโระ เป็นเหมือนเด็กนักเรียนชายธรรมดาๆ คนหนึ่ง แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าที่จริงเขากำลังสับสนและกังวลเกี่ยวกับความจริงของร่างกายของตน ขณะที่มีร่างกายครึ่งบนเป็นชายสมบูรณ์ ทว่าครึ่งล่างของเขากลับแสดงความเป็นเพศหญิงออกมา มาชิโระพยายามปกปิดเรื่องนี้จากคนรอบข้าง แต่เรื่องราวก็เริ่มถึงจุดเปลี่ยนเมื่อประจำเดือนของเขามาเป็นครั้งแรก
ความเครียดและหวาดระแวงว่าคนอื่นจะรู้ความลับของมาชิโระเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่แล้วก็มีอาจารย์แต่งชุดนางพยาบาลที่เขาไม่เคยพบ มาเรียกให้เขาเข้าชั้นเรียนพิเศษหลังเลิกเรียนวันพฤหัสบดี ซึ่งหากใครสามารถจบจากชั้นเรียนพิเศษนี้ได้จะสามารถขจัดสิ่งที่กังวลอยู่ และจบการศึกษาออกจากโรงเรียนได้ มาชิโระที่ต้องการเป็นชายโดยสมบูรณ์จึงตัดสินใจตามเธอไป
ที่ห้องพยาบาลลับนั้นเขาพบเตียง 6 หลังที่มีผ้าม่านกั้นอยู่ ชั้นเรียนนี้เขาจะต้องเข้าไปหากุญแจไขประตูทางออกโรงเรียนในความฝันร่วมกับคนอื่นๆ อีก 5 คนที่เธอไม่อาจบอกได้ว่าเป็นใคร โดยกุญแจจะอยู่ในร่างกายของคนใดคนหนึ่งแบบสุ่ม พวกเขาจะจึงต้องฆ่ากันเพื่อชิงกุญแจมา และยังบอกด้วยว่าในความฝันนั้นทุกคนจะแสดงสภาพออกมาตามสิ่งที่อยู่ในใจ ดังนั้นสิ่งที่เขาเป็นในฝันจะเป็นสิ่งที่สะท้อนจิตใจของตัวเองออกมา
เมื่อมาชิโระเข้าไปในความฝัน เขากลับพบว่าแม้ร่างกายของเขาจะยังแสดงเพศได้ครึ่งๆ กลางๆ เหมือนเดิม ทว่าเขากลับอยู่ในชุดนักเรียนหญิงแทนจะเป็นนักเรียนชายเช่นปรกติ สร้างความสับสนให้เขาเป็นอย่างมาก ทว่าเขาก็ได้เรียนรู้ในเวลาต่อมาว่าไม่ใช่เขาเท่านั้นที่มีเรื่องที่ต้องการปกปิดจากสังคม ธาตุแท้ที่นักเรียนแต่ละคนแสดงออกในความฝันนั้นช่างน่าแปลกประหลาด และน่าหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นสาวผมเปียที่ใบหน้าทะลุเป็นช่องว่าง เผยให้เห็นเนื้อสีแดงข้างใน เด็กหญิงอุ้มตุ๊กตาหมีในชุดโลลิต้าสีดำที่สนุกกับการปั่นหัวคนอื่น นักรบในชุดเกราะยุโรปสีดำที่ไล่ฆ่าคนในชั้นเรียน สิ่งมีชีวิตที่มีแต่มือ และเด็กสาวท่าทางหวาดระแวงในชุดกันฝนสีเหลือง ชั้นเรียนนี้เองที่ทำให้เขาเข้าไปมีความสัมพันธ์ที่ชวนสับสนกับเพื่อนนักเรียน 2 คนที่แสดงออกว่ารักเขา ฟูจิชิมะ คุเรฮะ เด็กสาวที่มีปมในใจ และมิสึฮาชิ โช นักเรียนชายเพื่อนร่วมชมรมที่จู่ๆ ก็บอกว่าตนรู้ว่ามาชิโระเป็นผู้หญิง
ทุกครั้งที่มาชิโระสับสน ตัวตนในฝันของเขาจะใส่ชุดนักเรียนหญิง และในยามที่เขาตัดสินบางอย่างได้แน่วแน่เขาจะอยู่ในชุดนักเรียนชาย ตอนที่อูเทหมดความมั่นใจ เธอก็หันไปใส่ชุดนักเรียนหญิง และในขณะที่เธออยู่ในชุดเจ้าสาวกุหลาบ เมื่อเธอเห็นแองจี้โดนทำร้าย สิ่งที่เธอทำได้กลับมีเพียงแค่หลั่งน้ำตาขอร้องให้หยุดการกระทำนั้น แต่เมื่ออูเทนาตัดสินใจพยายามลุกขึ้นยืนเพื่อไปช่วยเหลือแองจี้ ชุดของเธอก็กลับเป็นชุดของผู้ชาย ทั้งสองต่างถูกบทบาทของสังคมทำให้คิดไปว่าเพศชายคือความแข็งแกร่ง ส่วนหญิงคือความอ่อนแอ จึงปกปิดสิ่งที่ตัวเองเป็นจริงๆ เอาไว้ภายใน แม้นั่นจะไม่ใช่ตัวตนจริงๆ ของพวกเธอเลยก็ตาม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น