Spoil NieR Gestalt/Replicant Part 6 กฏมีไว้แหก



หลังจากทราบว่าโยนาห์ป่วยเป็นโรค Black Scrawl และเนียร์จะต้องรวบรวม Sealed Verse ทั้ง 8 ชิ้น ไคเนก็ได้แนะนำว่าเมื่อก่อนเธอเคยเดินทางไปยังอาณาจักรทะเลทรายที่มีชื่อว่าฟาเคด ราชาของอาณาจักรเองก็ทรงประชวรด้วยโรค Black Scrawl เช่นกัน พวกเขาจึงกำลังหาวิธีรักษากับโรคนี้อยู่ บางทีตอนนี้พระองค์อาจจะพอทราบวิธีรักษาแล้วก็ได้ ทั้งสามจึงตัดสินเดินทางไปยังเมืองฟาเคดด้วยกัน

เมื่อมาถึงทะเลทราย สามสหายก็ถูกหมาป่าฝูงหนึ่งเข้าโจมตี แต่สักพักเสียงหอนก็ดังขึ้นมา เมื่อมองไปทางต้นเสียงพวกเขาก็พบกับ Shade ที่มีรูปร่างเป็นหมาป่า ทว่ามันไม่ได้เข้าโจมตีพวกเขาแต่อย่างใด ซ้ำยังดูเหมือนว่ามันได้เรียกให้ฝูงหมาป่าที่โจมตีพวกเขากลับไปด้วย

พวกเนียร์เดินทางมาถึงยังประตูอาณาจักรฟาเคดที่มีประตูหินปิดสนิท และมีทหารสวมหน้ากากและเสื้อผ้าแปลกๆ 2 คนยืนอยู่ เมื่อไคเนเดินไปข้างหน้าและโบกมือให้ทั้งสอง พวกเขาก็แสดงอาการลิงโลดดีใจและเปิดประตูให้อย่างง่ายดาย นั่นเป็นเพราะเธอเคยช่วยเด็กหญิงของอาณาจักรนี้จากฝูงหมาป่าทะเลทราย หญิงสาวจึงได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นไคเนบอกเนียร์ว่าเธอจะรอเขาอยู่ที่ประตูทางเข้า เพราะเธอไม่ชอบสถานที่ที่คนมากๆ ก่อนจะชี้ทางไปปราสาทของฟาเคดให้ ทว่าเพียงคำอธิบายเล็กน้อย ก็ไม่อาจทำให้เนียร์และไวส์สามารถเข้าใจเส้นทางได้ ทั้งสองจึงเข้าไปลองสอบถามเด็กที่ยืนอยู่แถวนั้นดู

“อสกดำพาบฟหำนะงยืทิสา”

ภาษาของฟาเคดทำเอาพวกเขาไปต่อไม่ถูก แม้แต่ไวส์เองยังฟังไม่รู้เรื่องแม้แต่น้อยทั้งๆ ที่เขาสามารถพูดได้ถึง 1000 ภาษา ทั้งสองเลยต้องลองไปตายเอาดาบหน้าเอา โดยมีเป้าหมายเป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดกลางอาณาจักร ทว่าแม้จะเดินมาถึง พวกเขาก็ไม่อาจขอเข้าเฝ้าพระราชาได้ เพราะไม่มีความรู้ทางภาษาแม้แต่น้อย

เนียร์และไวส์ถอดใจที่จะถามหาวิธีรักษาโรค Black Scrawl จากราชา ตั้งใจจะกลับไปเริ่มตามหา Sealed Verse กันที่อื่น แต่ระหว่างทางพวกเขาก็ได้พบกับเด็กหญิงคนหนึ่งทำถาดผลไม้ตกจนของหล่น เนียร์จึงเข้าไปช่วยเธอเก็บของ และเมื่อเขาส่งของคืนให้เธอ เด็กหญิงก็เริ่มขยับมือแปลกๆ ไวส์ตระหนักได้ว่าเธอไม่สามารถพูดได้ จึงใช้ภาษามือแทน และนี่คือภาษาที่เขารู้จัก ไวส์เลยทำหน้าที่ล่ามให้แก่เนียร์ได้

เด็กหญิงแนะนำตัวว่าตนมีชื่อว่าฟิรา และเมื่อเธอได้รู้ปัญหาของเนียร์ ฟิราจึงอาสาเป็นคนนำทางให้โดยจะพาไปแนะนำสถานที่รอบเมืองก่อน เนียร์ปฏิเสธว่าเขาไม่ต้องการเที่ยว กระนั้นเธอก็อธิบายว่าเมืองๆ นี้มีกฏที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม และการพาแขกเดินชมเมืองก็เป็นหนึ่งในกฏของที่นี่ ฟาเคดมีกฏอยู่มากมาย และเดือนนี้พวกเขาก็มีกฏถึง 124046 ข้อแล้ว นั่นทำให้ไวส์ถึงกับออกปากว่าเขาจะไม่มีทางอาศัยในเมืองนี้แน่นอน ฟิราอธิบายว่าเธอเองก็เคยสงสัยเรื่องกฏของที่นี่เช่นกัน แต่ก็มีคนกล่าวให้เธอฟังว่า “กฏไม่ได้ไว้ผูกมัดเจ้า แต่มีไว้เพื่อให้เจ้าได้รู้จักกับอิสรภาพที่เจ้ามี”

หลังจากชมเมืองเสร็จแล้ว ฟิราก็พาเนียร์และไวส์มาแนะนำให้รู้จักกับคนรับใช้ของพระราชาแทน เพราะ พระองค์เสด็จสวรรคตด้วยโรค Black Scrawl ไปแล้ว ปัจจุบันอาณาจักรนี้จึงถูกปกครองโดยโอรสของพระองค์ คนรับใช้ผู้นี้คือที่ปรึกษาของเจ้าชาย หากต้องการทราบอะไรเกี่ยวกับราชา เขาน่าจะให้คำตอบกับทั้งสองคนได้

ไวส์ซึ่งตอนนี้เรียนรู้ภาษาของฟาเคดได้เรียบร้อยผ่านภาษามือที่เห็นฟิราใช้สื่อสารกับคนในเมือง ก็ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษาขณะที่พวกเขาสอบถามที่ปรึกษาของเจ้าชาย ทว่าอีกฝ่ายกลับบอกว่าตอนนี้เจ้าชายไม่สะดวกจะให้ผู้มาเยือนเข้าเฝ้า และขอให้พวกเขามาใหม่ในวันพรุ่งนี้แทน ทั้งสองจึงกลับไปที่หน้าประตูเมืองเพื่อสมทบกับไคเน และเมื่อฟิราเห็นหญิงสาวเธอก็ร้องด้วยความยินดี เพราะว่าเด็กหญิงที่ไคเนเคยช่วยเหลือไว้คือเธอนั่นเอง

จู่ๆ เหล่าทหารหน้าประตูเมืองก็ส่งเสียงโวยวายกัน เพราะได้รับข่าวว่าเจ้าชายหายตัวไป ตามกฏข้อที่ 83348 พวกเขาจำเป็นต้องออกตามหาเจ้าชายทันที ทว่าสถานที่ที่เจ้าชายหายไปคือวิหารแห่งความแห้งแล้ง ซึ่งตามกฏข้อที่ 50527 อนุญาตให้เพียงเชื้อพระวงศ์เข้าไปเท่านั้น หมายความว่าพวกเขาไม่สามารถเข้าไปตามหาเจ้าชายในนั้นได้ ขณะที่เหล่าทหารกำลังโต้เถียงกันว่าจะทำเช่นไรดี ไวส์ก็เอ่ยขึ้นมาว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของชาวฟาเคด พวกเขาเป็นคนนอกจึงไม่มีความจำเป็นต้องไปสนใจ

ด้วยเลือดรักชาติ ฟิราต้องการช่วยเหลือการตามหาเจ้าชาย แต่ด้วยกฏทำให้เธอไม่สามารถทำสิ่งนั้นได้ เนียร์จึงเสนอตัวไปตามหาเจ้าชายให้ เพราะพวกเขาเป็นคนนอก จึงไม่ต้องทำตามกฏของที่นี่ เมื่อได้ยินดังนั้นเด็กหญิงก็รีบปฏิเสธด้วยไม่อาจขอให้แขกรับงานอันตรายได้ แต่ไคเนก็สนับสนุนเนียร์ว่าตามกฏข้อที่ 1024 ที่ฟิราเคยบอกเธอไว้ เธอต้องทำตามคำขอทุกอย่างของผู้มีพระคุณต่างเมือง ทำให้เด็กหญิงยอมขอร้องพวกเขาให้ช่วยตามหาเจ้าชาย โดยมีเสียงบ่นของไวส์ว่าเหตุใดเขาถึงมาร่วมกลุ่มเดินทางกับคนดีที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านได้

ฟิรานำทางพวกเนียร์ไปยังวิหารแห่งความแห้งแล้ง ภายในวิหารเต็มไปด้วยเวทนต์อาคมที่ปกป้องสถานที่นี้ไว้ ซึ่งสามารถเปิดได้ด้วยการไขปริศนาภายใต้กฏของแต่ละจุดของสถานที่นี้ได้ กระนั้นเมื่อพวกเขาได้พบกับเจ้าชายซึ่งเป็นเพียงเด็กวัยแรกรุ่น เจ้าชายกลับแสดงท่าทีไม่พอใจ ดูเหมือนเขาจะไม่อยากให้ใครเข้ามายุ่งกับสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ และระหว่างที่เด็กชายกำลังโวยวาย เขาก็ถูกเวทมนต์รักษาความปลอดภัยของที่แห่งนี้ดึงตัวเข้าไปลึกด้านในของวิหารจนพวกเนียร์ต้องลำบากตามไปช่วยต่อ


ด้านในเนียร์ก็ได้พบกับ Shade ที่หลบซ่อนในวิหารนี้ด้วย พวกเขาบุกเข้าไปด้านในจนช่วยเหลือเจ้าชายได้ สุดท้ายพวกเขาก็รู้ว่าเจ้าชายเข้ามาในสถานที่แห่งนี้เพื่อตามหาหน้ากากแห่งราชา เด็กชายอยากทำอะไรให้แก่ประชาชนที่กำลังเศร้าเสียใจจากการจากไปของราชาองค์ก่อน เขารู้ดีว่าตนนั้นยังเด็กเกินกว่าที่จะนำประชาชน พวกเขาขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม หน้ากากนี้น่าจะสามารถเรียกขวัญกำลังให้ประชาชนให้เดินหน้าต่อไปกันได้

เจ้าชายกล่าวขอโทษสหายต่างแดนสำหรับความยากลำบากที่เขาทำไว้ เขาต้องการตอบแทนพวกเนียร์ แม้พวกเนียร์ปฏิเสธไม่รับน้ำใจนี้ แต่ดูเหมือนเจ้าชายที่ตอนนี้ได้เป็นราชาแล้วจะบีบให้พวกเขาบอกความต้องการมาให้ได้ เนียร์จึงขอว่า ในเมื่อเมืองแห่งนี้มีการเพิ่มกฏ ก็ขอให้มีกฏข้อที่ 0 ให้ประชาชนสามารถลงประมติลบกฏข้อที่ไม่ชอบได้เช่นกัน ซึ่งราชาน้อยก็รับปากว่าจะทำตามนั้น

เนียร์ไม่ลืมถามวิธีรักษาโรค Black Scrawl จากอีกฝ่าย ทว่าโชคร้ายที่พวกเขาชาวฟาเคดเองก็ไม่อาจหาวิธีรักษาโรคนี้ได้เช่นกัน ก่อนจากกัน ราชาก็ไม่ลืมที่จะเชิญชวนให้พวกเขากลับมาเยี่ยมเยียนฟาเคดในภายหลัง ซึ่งแน่นอนว่าในอนาคตเราจะได้มายังอาณาจักรแห่งทะเลทรายแห่งนี้อีกครั้ง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Spoil NieR Automata Part 27 Ending E : the End of YoRHa และวิเคราะห์เนื้อเรื่องทั้งหมดตามใจฉัน

ผ้าปิดตาของ YoRHa