Spoil Nier Automata : YoRHA Boys Part 1


หนังสือนิยาย Nier Automata : YoRHA Boys รีวิวเบื้องต้นในส่วนของรูปเล่ม ส่วนตัวคิดว่าสัมผัสกระดาษสำนักพิมพ์ไทยทำได้ดีกว่าค่ะ และไม่แน่ใจว่าเพราะผู้เขียนไม่ค่อยได้อ่านหนังสือนิยายภาษาอังกฤษหรือเปล่า (ส่วนมากจะอ่านทางเว็บไซต์) เลยรู้สึกว่าเขาเว้นช่องไฟระหว่างบรรทัดค่อนข้างแคบ ทำให้ตัวหนังสือดูติดกัน และมีการใช้คำศัพท์ โดยเฉพาะการใช้สำนวนค่อนข้างยากกว่าที่เราคุ้นเคยกัน บางช่วงแปลไม่ออกเลย ต้องเปิดดิกกันรัวๆ แต่จุดที่ผู้เขียนรู้สึกไม่ดีเลยคือการตัดคำของเขาค่ะ เช่นคำว่า Others ถ้าเขียนไม่พอในบรรทัดนั้น เขาก็จะตัดคำเป็น

Oth-

ers

เห็นแล้วผู้เขียนแทบร้อง WTF แล้วเป็นอย่างนี้ทั้งเล่ม ใครมีประสบการณ์กับหนังสือนิยายภาษาอังกฤษช่วยบอกทีว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปรกติหรือเปล่า เห็นแล้วตะหงิดใจมากเลยค่ะ


ส่วนของเนื้อหา ช่วงต้นของนิยายจะเกริ่นถึงความเป็นมาของโครงการโยร์ฮา ตามเหตุการณ์ในละครเวที NieR : Automata Concert Script 2 (Project YoRHa) ที่ผู้เขียนเคยแปลไว้ แต่ถูกบรรยายผ่านมุมมองหมายเลข 9 แทนซินเนีย ส่วนเนื้อเรื่องหลักในเล่มจะเป็นแบบเดียวกับละครเวที YoRHA Boys (แต่อาจมีดัดแปลงบางส่วน) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดก่อนตัวเกม สลับการดำเนินเรื่องผ่านตัวละคร 11 คน แต่ตัวละครหลักจะเป็นสมาชิกทั้ง 7 คนของหน่วย YoRHa M ซึ่งเป็นแอนดรอยด์โยร์ฮารูปแบบผู้ชายที่เพิ่งผลิตออกมาไม่นาน หลังจากฝึกซ้อมปรับปรุงช่วงหนึ่ง ในที่สุดพวกเขาก็ถูกส่งออกไปทำภารกิจสู้กับหุ่นยนต์บนพื้นโลก โดยสมาชิกหน่วยมีดังนี้

1. Healer หมายเลข 9 สังกัดทีม M002 ตัวเอกหลักของนิยาย หน่วยพยาบาลผู้มีหน้าที่ซ่อมแซมร่างกายของแอนดรอยด์คนอื่น นอกจากนั้นเขายังมีพื้นที่หน่วยความทรงจำมากกว่ารุ่นอื่นถึง 10 เท่า เพื่อใช้ในการสำรองข้อมูลตัวตนของคนในทีม นิสัยสุภาพอ่อนโยน คอยเป็นห่วงเป็นใยคนอื่น แอบขี้กลัวในบางครั้ง มีร่างกายเป็นเด็กชายวัยรุ่นตอนต้น 

2. Defender หมายเลข 2 ถูกวางให้อยู่ในสังกัดทีม M001 ในช่วงต้นเรื่องเขายังไม่มีบทมากนัก แม้จะมีร่างกายรูปแบบเด็กชายวัยรุ่น แต่ตามข้อมูลเฉพาะของโมเดลแล้วรุ่น Defender มีพลังกายมากเพื่อใช้ปกป้องสมาชิกหน่วยและต้องพร้อมสละชีพให้คนอื่นรอด 

3. Attacker หมายเลข 3 สังกัดทีม M001 ไม่ฉลาดขนาดบวกเลขไม่ค่อยได้ ใช้สัญชาตญาณเป็นหลัก (นายเป็นแอนดรอยด์จริงๆ เหรอะ) เป็นคนเลือดร้อน ชอบการต่อสู้ พูดจาหยาบคาย แต่ที่จริงเป็นพวกปากร้ายใจดี มักทะเลาะกับหมายเลข 4 และเทียบความสามารถของตัวเองกับอีกฝ่ายเป็นประจำ มีร่างกายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว

4. Gunner หมายเลข 4 สังกัดทีม M001 เป็นคนหัวรั้น จริงจัง วิเคราะห์เก่งแต่ไม่ค่อยยืดหยุ่น เขามีความสามารถหลายด้าน  มักทะเลาะและจับผิดหมายเลข 3 เสมอ หมายเลข 21 เม้ามอยว่าแต่แรกหมายเลข 4 เป็น Attacker ทั้งยังมีฝีมือมากกว่าหมายเลข 3 หมายเลข 4 มักพูดว่าจำเป็นต้องมีคนที่สามารถทำหน้าที่ได้หลากหลายเพื่อทำให้ทีมมีประสิทธิภาพขึ้น เขามีร่างกายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว

5. Attacker หมายเลข 6 สังกัดทีม M002 ฉลาด มีทักษะในการต่อสู้สูง และมั่นใจในตัวเองมาก พอเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆ ก็เริ่มเผยนิสัยไม่ดีออกมามากขึ้น โดยเฉพาะการพูดถากถางคนอื่น มีร่างกายเป็นเด็กชายวัยรุ่นตอนต้น (หรือสรุปง่ายๆ หมอนี่มันคือร่างอวตารของดีโต เกม Drag on Dragoon 3) ดูเหมือนหมายเลข 6 จะค่อนข้างชอบครูฝึก เพราะเขาเคยขอให้อีกฝ่ายช่วยสั่งให้หน่วยสนับสนุนรันโปรแกรมวินิจฉัยในตัวเขาอีกครั้งตอนอยู่สองต่อสอง เนื่องจากตอนทดสอบรันโปรแกรมเขารู้สึกจั๊กกะเดียมและฟินมาก (เอิ่ม...)

6. Scanner หมายเลข 21 สังกัดทีม M002 แอนดรอยด์ฝาแฝดของหมายเลข 22 เป็นคนฉลาด สุขุม ทรนงตัว แต่ก็อยากรู้อยากเห็น (ที่รู้เรื่องหมายเลข 4 เปลี่ยนหน้าที่ก็เพราะความเผือกเลยไปถามจากครูฝึก) รักฝาแฝดของตัวเองมาก มักพูดเสมอว่าไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะทำให้อีกฝ่ายปลอดภัย มีร่างกายเป็นเด็กชายวัยรุ่นตอนต้น

7. Gunner หมายเลข 22 สังกัดทีม M002 ฝาแฝดของหมายเลข 21 เป็นคนขี้กลัวและไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง แต่ก็มีจิตใจดี พยายามทำงานอย่างเต็มที่เสมอ รักเคารพฝาแฝดของตัวเองมาก มีร่างกายเป็นเด็กชายวัยรุ่นตอนต้น



หลังจากนิยายได้แนะนำตัวละครทั้ง 7 อย่างคร่าวๆ แล้ว เรื่องจะเริ่มในช่วงที่ทีม M002 อันได้แก่หมายเลข 9 6 21 และ 22 ถูกส่งมายังพื้นโลกเพื่อสมทบกับทีม M001 ของหมายเลข 3 และ 4 ซึ่งเดินทางมาก่อนพวกเขาไม่นาน พวกเขาต้องฝึกซ้อมในพื้นที่สภาพจริงโดยมีแบล็ก แอนดรอยด์ครูฝึกคอยให้คำแนะนำ ทำให้ได้บรรยากาศเป็นนักเรียนเฮฮาปาร์ตี้กันอยู่ช่วงหนึ่ง ส่วนหมายเลข 2 นั้น ครูฝึกแจ้งว่าจะตามมาสมทบทีหลัง

หลังจากการฝึกซ้อมสิ้นสุดลง ทั้ง 6 ก็เริ่มถูกส่งไปปฏิบัติงานจริง พวกเขาต้องเสียชีวิตหลายครั้ง แต่ด้วยข้อมูลที่หมายเลข 9 สำรองไว้ก็ทำให้พวกเขากลับมาทำหน้าที่ได้ต่อ โดยเนื้อเรื่องช่วงนี้จะมี 2 เหตุการณ์ที่ถูกเล่า ได้แก่

  • เขตพื้นที่ชุ่มน้ำ : หมายเลข 9 คอยอยู่ที่แนวหลังเพื่อเตรียมสนับสนุนสมาชิกคนอื่น โดยมีหมายเลข 4 ให้การคุ้มกัน หมายเลข 21 และ 22 เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ส่วนหมายเลข 3 และหมายเลข 6 บาดเจ็บหนัก ทั้งคู่ทะเลาะกันระหว่างซ่อนตัวจนในที่สุดพวกเขาก็ลงมือฆ่ากันเอง
  • ฐานใต้ทะเลลึก : หมายเลข 9 คอยอยู่ที่แนวหลังเพื่อเตรียมสนับสนุนสมาชิกคนอื่น โดยมีหมายเลข 3 ให้การคุ้มกัน หมายเลข 6 และหมายเลข 4 เสียชีวิตระหว่างเปิดทางให้หมายเลข 21 และหมายเลข 22 เข้าไปถึงห้องเซิร์ฟเวอร์เพื่อเจาะระบบ หมายเลข 22 คุ้มกันฝาแฝดจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนหมายเลข 21 ก็ไม่ยอมทอดทิ้งคู่แฝด เขาอยู่เคียงข้างหมายเลข 22 จนอีกฝ่ายสิ้นลม เมื่อระเบิดทำงานเขาก็ก้มตัวปกป้องร่างไร้ชีวิตของหมายเลข 22 จนเสียชีวิตตามไป

การสูญเสียเพื่อนร่วมหน่วยที่เกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วนทำให้หมายเลข 9 วิเคราะห์คำนวณการซ่อมแซมได้อย่างใจเย็น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ขณะเดียวกันมันก็ทำให้เขาเริ่มกลัวตัวเองที่คุ้นชินกับสภาพร่างไร้ชีวิตของคนอื่นเช่นกัน อีกทั้งเพื่อนร่วมหน่วยของเขาทุกคนต่างเคยผ่านประสบการณ์การเสียชีวิตมาแล้ว มีเพียงเขาผู้อยู่แนวหลังคนเดียวที่ทำได้เพียงเฝ้ามอง และไม่เคยสัมผัสเรื่องราวเหล่านั้นด้วยตนเอง แล้วมันก็ทำให้หมายเลข 9 รู้สึกแปลกแยกจากกลุ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

อีกด้านหนึ่งหมายเลข 21 ผู้ผ่านสนามรบมามากครั้งก็ต้องทำการวิเคราะห์ข้อมูลการสู้รบมากขึ้นจนไม่มีเวลาให้แฝดของตนมากนัก ด้วยศักดิ์ศรีของ Scanner ทำให้เขาพยายามรวบรวมข้อมูลอย่างหนักเพื่อเพิ่มโอกาสชนะ สุดท้ายก็เกิดความคิดว่าอยากได้ข้อมูลการรบเก่าๆ ของแอนดรอยด์หน่วยอื่น แต่ด้วยความร้อนใจ กลัวว่าถ้ามัวไปรอขออนุญาตเข้าถึงข้อมูลจะทำงานได้ช้า หมายเลข 21 จึงอุตริแอบเจาะระบบเข้าไปในเซิร์ฟเวอร์ ที่นั่นเขาได้พบเอกสารบางอย่างซึ่งทำให้ความคิดของเขาต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล

(ทำไมเซิร์ฟเวอร์มันเจาะกันง่ายจัง แอนดรอยด์ Scanner พากันเจาะพรุนเป็นรังผึ้งยังไม่คิดจะเพิ่มระบบป้องกัน )

ภารกิจต่อมาคือการเข้าไปช่วยคนที่ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือมาจากพื้นที่ภูเขา หมายเลข 21 ซึ่งช่วงนี้เงียบขรึมเย็นชากว่าปรกติแสดงความกังวลมาก เขาไม่อยากให้หน่วยเสี่ยงเข้าไปในพื้นที่ที่ไม่มีข้อมูล ทั้งอ้างว่าพวกตนไม่เคยมีประสบการณ์ให้ความช่วยเหลือมาก่อน แถมดูทรงแล้วคนส่งสัญญาณนั่นคงไม่แคล้วเป็นกลุ่มต่อต้าน ไม่ใช่หน่วยโยร์ฮาด้วยกัน แต่ผู้บัญชาการก็ยังมีคำสั่งให้พวกเขาเข้าไปให้ความช่วยเหลืออยู่ดี ขณะที่ครูฝึกไปหาจุดที่มีสัญญาณติดต่อกับผู้บัญชาการ หมายเลข 3 4 และ 6 ก็ได้รับมอบหมายให้ไปจัดการพวกหุ่นยนต์ และสำรวจหาเส้นทางปลอดภัย ส่วนหมายเลข 9 21 และ 22 รอให้การสนับสนุน

ระหว่างที่แอนดรอยด์เด็กชายทั้ง 3 กำลังอยู่ในหลุมหลบภัย กลับมีหุ่นยนต์จำนวนมากเข้ามาใกล้ ทั้งๆ ที่พวกเขาอยู่แนวหลังซึ่งน่าจะปลอดภัย แล้วพวกมันก็ปาระเบิด EMP มา ทำให้หมายเลข 22 ติดไวรัสตรรกะ แม้หมายเลข 9 จะช่วยกำจัดไวรัสได้ทันท่วงที แต่อีกฝ่ายก็เข้าสู่สถานะซ่อมแซมเลยไม่ได้สติ และนั่นก็หมายความว่าตอนนี้ไม่มีใครในกลุ่มที่ทำหน้าที่โจมตีได้เลย ทำเอาหมายเลข 9 กับหมายเลข 21 อดตระหนกไม่ได้

(ด้วยความสัตย์จริง ตอนผู้เขียนเล่นเกมนี้ ความสามารถของ Scanner เนี่ยแหละ OP สุดๆ อย่างบอสเอมิล ผู้เขียนใช้ 9S เจาะระบบรัวๆ ตั้งแต่บอสโผล่ขึ้นมาจนเกมบั๊กเพราะเลือดเอมิลลดเร็วเกิน เพราะฉะนั้นหมายเลข 21 นายก็เป็นได้นะ สายบวกน่ะ)

แม้จะกลัว แต่หมายเลข 9 ก็ไม่อยากอยู่รอความตายเฉยๆ เขาหยิบปืนของหมายเลข 22 มาใช้โดยไม่ฟังที่หมายเลข 21 บอกว่าอย่างไรแอนดรอยด์สนับสนุนอย่างพวกตนก็รับแรงดีดปืนของรุ่น Gunner ไม่ไหว และมันก็เป็นจริงอย่างที่เพื่อนของเขาว่า สุดท้ายหมายเลข 21 ก็เข้ามาช่วยถือปืน แต่ถึงจะพอยิงสวนศัตรูได้ พวกเขาก็ถูกฝ่ายตรงข้ามโจมตีกลับจนหมายเลข 21 ได้รับบาดเจ็บ ตอนที่คิดว่ากำลังจะตายแล้วนั่นเอง จู่ๆ หมายเลข 3 ก็กลับมาช่วยได้ทันอย่างโคตรจังหวะพระเอก ก่อนที่หมายเลข 4 และ 6 จะตามมาสมทบ

(ตอนหมายเลข 9 ร้องว่า คุณกลับมาช่วยพวกผมแล้ว ผู้เขียนแทบจินตนาการว่าหมายเลข 9 เข้าไปกอดขาหมายเลข 3 ฮ่าๆๆ)

เมื่อสถานการณ์สงบลง และครูฝึกกลับมา หมายเลข 21 เลยลองบอกให้อีกฝ่ายขอกำลังสนับสนุน กระนั้นเขาก็ได้รับคำปฏิเสธกลับมาอยู่ดี พอเห็นหมายเลข 21 เรียกให้หมายเลข 22 ออกเดินทางต่อ หมายเลข 9 จึงบอกไม่ให้อีกฝ่ายฝืนคู่แฝด แต่แอนดรอยด์ Scanner กลับมีท่าทีหงุดหงิด และบอกว่าแฝดของตนไหว ซึ่งหมายเลข 22 ก็เออออตามแม้จะมีสีหน้าแย่มาก ถึงจะไม่เห็นด้วย แต่อีกใจหนึ่งหมายเลข 9 ก็เข้าใจว่าหากยิ่งไม่เร่งจบภารกิจ พวกเขาก็ยิ่งอยู่ในอันตรายมากขึ้น เขาเลยไม่ค้านอะไรอีก



อีกด้านหนึ่ง แอนดรอยด์กลุ่มต่อต้าน 3 คน ได้แก่แคกตัส หัวหน้าทีมผู้ขี้วิตกจริต โลตัส โอตาคุเครื่องจักร ที่พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง และฟลอคซ์ สมาชิกผู้ดูปรกติที่สุดในกลุ่ม กำลังหลบซ่อนเขาอยู่ในถ้ำเล็กๆ ในเขตภูเขาซึ่งถูกล้อมรอบด้วยหุ่นยนต์ พวกเขาเข้ามาในเขตพื้นที่แห่งนี้เพื่อตามหากล่องที่หล่นมาจากท้องฟ้า โดยหวังมันจะเป็นของที่ผลิตบนอวกาศซึ่งพวกตนสามารถนำไปขายได้ในราคางาม แม้จะพบเจ้ากล่องปริศนานั่นแล้ว ทว่าเพราะน้ำหนักของมันทำให้พวกเขาไม่อาจค้นย้าย ทั้งยังไม่สามารถเปิดมันออก แต่แล้วหุ่นยนต์บริเวณภูเขาก็เริ่มเดินเครื่องและเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนพวกเขาไม่อาจหนี ได้แต่หวังว่าสัญญาณบางอย่างที่เจ้ากล่องนี้ส่งออกมาจะทำให้ใครสักคนมาช่วยพวกตน

ตอนนั้นเองโลตัสก็พบว่าหุ่นยนต์ที่เขาแอบเอาซากมาดัดแปลงถูกทำลายโดยอะไรบางอย่าง และอะไรบางอย่างนั้นก็กำลังจัดการพวกหุ่นยนต์ใกล้ๆ จนเสียงตูมตามดังสนั่น แถมยังเข้ามาใกล้ถ้ำที่พวกเขาซ่อนตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดพวกเขาก็ได้เจอหน่วยโยร์ฮาซึ่งมาที่นี่ตามสัญญาณขอความช่วยเหลือ เมื่อมองเห็นกล่องปริศนาที่พวกกลุ่มต่อต้านพบ ครูฝึกก็ทราบทันทีว่ามันคือของที่ส่งมาให้หน่วยของตน และหลังจากเปิดมันด้วยการยืนยันเสียง ร่างของโยร์ฮาคนหนึ่งก็ล้มออกมานอนบนพื้น และแบล็กก็บอกกับทุกคนว่าแอนดรอยด์คนนี้คือ หมายเลข 2 ประเภท D สมาชิกคนสุดท้ายของหน่วยโยร์ฮาชาย


โปรดติดตามตอนต่อไป...

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Spoil NieR Automata Part 27 Ending E : the End of YoRHa และวิเคราะห์เนื้อเรื่องทั้งหมดตามใจฉัน

ผ้าปิดตาของ YoRHa