Spoil Nier Automata : YoRHA Boys Part 6 (End)
หมายเลข 4 พยายามตามกลิ่นไหม้ซึ่งน่าจะเป็นของยานขนส่งที่ระเบิด เขาต้องจัดการหมายเลข 6 และหมายเลข 21 ซึ่งติดไวรัสตรรกะให้ได้ แม้จะไม่เห็นหนทางชนะเนื่องจากบาดแผลและความเหนื่อยล้าที่เกิดจากการต่อสู้กับหมายเลข 3 พอคิดว่าทางบังเกอร์น่าจะส่งกำลังเสริมมาช่วยเหลือได้ เขาก็ตัดสินใจเปิดสัญญาณแจ้งตำแหน่งของตัวเอง ระหว่างทางเขาพบแคกตัสกำลังนั่งแขนบิดสั่นไปมา โดยมีร่างของฟลอคซ์กับโลตัสอยู่เบื้องหน้า พออีกฝ่ายเห็นหมายเลข 4 เดินถือดาบเข้ามาก็รีบยกมือขึ้นกลางอากาศ อธิบายว่าตนไม่ได้ติดไวรัส แต่ที่แขนเป็นเช่นนี้ก็เพราะกระแทกเสียหายตอนหล่นจากหน้าผา อีกทั้งลูกน้องของเขาก็ยังไม่ตาย เมื่อหมายเลข 4 เข้าไปดูก็พบว่าทั้งสองคนแค่สลบอยู่จริงๆ
แคกตัสเล่าว่าเขาจำเป็นต้องแสร้งว่าติดไวรัสเพื่อพาคนของเขาหนี เมื่อได้เห็นทั้งสามคนปลอดภัย หมายเลข 4 ก็โล่งใจจนทิ้งตัวนั่งลงอย่างหมดแรง แต่ถึงจะรอดชีวิตมา พวกเขากลับไม่อาจยิ้มอย่างยินดี ที่ผ่านมาหมายเลข 4 เฝ้าแต่คิดหาวิธีพัฒนากลยุทธ์การต่อสู้ให้ตนเองกับหมายเลข 3 เพราะการมีกลยุทธ์มากขึ้นย่อมเพิ่มโอกาสที่พวกเขาจะรอดชีวิตไปด้วยกัน ทว่าตอนนี้หมายเลข 3 ตายแล้ว และเขาก็คือคนที่ฆ่าอีกฝ่าย ขณะที่เขากำลังจมดิ่งกับความเศร้าก็มีสัญญาณสื่อสารติดต่อเข้ามา มันคือสัญญาณจากบังเกอร์
แอนดรอยด์โอเปอเรเตอร์แจ้งว่าทางบังเกอร์จะส่งหน่วยสนับสนุนมาช่วย แต่เธอไม่ทราบว่าสถานการณ์ของหน่วยโยร์ฮาชายคนอื่นเป็นเช่นไรเนื่องจากไม่สามารถติดต่อกับครูฝึกได้ แล้วจู่ๆ ก็มีใครบางคนขอพูดสายกับหมายเลข 4 อีกฝ่ายอ้างว่าตนคือหน่วยสนับสนุน รหัสอย่างเป็นทางการของเธอคือหมายเลข 2 ประเภท B แอนดรอยด์รุ่นใหม่ที่จะมาแทนโมเดล Attacker และ Gunner ส่วนหน่วยโยร์ฮาชายจะได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่อื่น
2B พยายามถามตำแหน่งของหมายเลข 4 ซึ่งกำลังอึ้งจนพูดไม่ออก หมายเลข 3 คิดมากเรื่องหน้าที่ที่ต่างกันระหว่างพวกเขามาตลอด ในเมื่อต่อไปจะไม่มีทั้ง Attacker และ Gunner แล้วอีกฝ่ายยอมตายเพื่ออะไร ทั้งหมดที่พวกเขาทำมาล้วนไร้ความหมาย ถึงพวกเขาจะรอดตายกันทุกคนก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรอยู่ดี
หมายเลข 4 ตัดสัญญาณการติดต่อโดยไม่สนใจเสียงที่ปลายสาย เขาถอดผ้าปิดตาออกแล้วเงยหน้ามองท้องฟ้าสีสดใสเบื้องบน
หากหมายเลข 22 ไม่ได้อยู่ตรงนี้ หมายเลข 9 คิดว่าตัวเองคงได้แต่นั่งนิ่งไร้ค่าหลังจากที่หมายเลข 2 ฆ่าตัวตาย ระหว่างที่เขาช่วยพยาบาลอีกฝ่าย หมายเลข 22 ก็บอกว่ามีสัญญาณแจ้งตำแหน่งจากสมาชิกหน่วยคนอื่นส่งออกมา แต่ยังไม่ทันฟังคำตอบว่ามันถูกส่งมาจากที่ใด หมายเลข 9 ก็เหลือบเห็นกำไลหน่วยสนับสนุนของหมายเลข 2 หล่นอยู่บนพื้น เมื่อพบว่ามันยังอยู่ในสภาพดี เขาก็อดนึกถึงข้อมือของเจ้าของมันไม่ได้
หมายเลข 9 สั่งให้หน่วยสนับสนุนลบข้อมูลทั้งหมดของหมายเลข 2 เขาไม่อยากให้มีข้อมูลของอีกฝ่ายอยู่บนเซิร์ฟเวอร์ ไม่เช่นนั้นหมายเลข 2 ก็อาจถูกดึงข้อมูลใส่ร่างกายใหม่และถูกสั่งให้ต้องทำภารกิจแสนทรมานอีก ทว่าหน่วยสนับสนุนกลับปฏิเสธ มันแจ้งว่าข้อมูลของ Attacker Gunner และ Healer จะต้องถูกส่งให้สภาแห่งมนุษยชาติเพื่อนำไปพัฒนาแอนดรอยด์รุ่นใหม่ต่อ ในอนาคตแอนดรอยด์โยร์ฮาเกือบทั้งหมดจะถูกสร้างให้เป็นผู้หญิง เนื่องจากโมเดลชายมีความสามัคคีไม่ดีนัก และหน่วยโยร์ฮาชายที่เหลือจะต้องถูกส่งไปล้างข้อมูล
เมื่อได้ทราบความจริงนั้น หมายเลข 9 ก็เข้าใจว่าที่เขา หมายเลข 22 และเพื่อนร่วมหน่วยอีกคนที่ส่งสัญญาณ รอดชีวิตมาถึงตอนนี้ก็เพียงเพื่อถูกนำไปทำลายต่อ แต่ในที่สุดเขาก็จะได้เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยจริงๆ เสียทีหลังจากที่ผ่านมาต้องเป็นคนนอกที่ไม่เคยลิ้มรสความตายมาตลอด
โยร์ฮาชายทั้งหมดจะถูกเปลี่ยนให้เป็น Scanner ส่วนประเภท E จะไม่ได้รับอนุญาตให้กลับบังเกอร์จนกว่าภารกิจที่ได้รับมอบหมายจะสำเร็จลุล่วง หน่วยสนับสนุนเอ่ยเสริมก่อนทุกอย่างจะเงียบลง เป็นอย่างที่หมายเลข 21 พูดไว้ พวกเขาเป็นแค่หนูทดลองเท่านั้น
"หมายเลข 9"
จู่ๆ เสียงของหมายเลข 2 ก็ดังขึ้นมา หมายเลข 9 รีบหันหน้าพยายามตามหาเจ้าของเสียง แต่ก็พบว่ามันเป็นแค่เสียงที่ถูกบันทึกไว้ในกำไลหน่วยสนับสนุนเท่านั้น
"ฉันหวังว่านายจะเป็นคนที่ฟังอยู่ ข้อความนี้เป็นข้อความถึงนาย ฉันโกหกนายมาตั้งแต่แรก และดูเหมือนสุดท้ายฉันก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิต แต่ฉันอยากบอกให้นายรู้ว่าฉันไม่เหงาหรอกนะ ไม่เลยสักนิด มีคำถามหนึ่งที่ติดอยู่ในใจของฉันมานาน เกี่ยวกับวิญญาณของพวกเรา ตอนที่พวกเราตายแล้วถูกสร้างใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า ฉันสงสัยมากว่าพวกมันจะไปที่ไหน เกิดอะไรขึ้นกับพวกมัน ถึงอย่างนั้นก็เถอะ... หมายเลข 9 ฉันมั่นใจว่านายต้องสำรองข้อมูลของฉันไว้ในตัวของนายแน่ ฉันอยากให้นายลบมันซะ ขอร้องล่ะ"
หมายเลข 9 ยกมือขึ้นกุมอก เป็นเช่นนั้นจริงๆ เขาแอบเก็บข้อมูลของหมายเลข 2 ไว้ร่างของตัวเอง ข้อมูลของอีกฝ่ายเป็นของเขา และเขาจะไม่ยอมให้ผู้บัญชาการได้มันไปเป็นอันขาด เขาจะถือมันติดตัวเอาไว้ด้วยความหวังว่าสักวันหนึ่งเขาจะพบวิธีได้เจอหมายเลข 2 อีกครั้ง ไม่ใช่ในฐานะเพชรฆาต แต่เป็นหมายเลข 2 ที่เขารู้จัก
"นายไม่จำเป็นต้องเก็บมันเอาไว้หรอก ฉันมีความรู้สึกว่าพวกเราจะได้เจอกันอีกในเร็วๆ นี้ ดังนั้น จนกว่าจะถึงตอนนั้น... ลาก่อนนะ หมายเลข 9"
ถึงจะไม่มีข้อมูลสำรอง พวกเราก็จะได้เจอกันอีกใช่ไหม
หมายเลข 9 อยากถาม ไม่ว่าอย่างไรอีกไม่นานเขาก็จะถูกลบตัวตนไป ถึงเขาจะอยากเก็บข้อมูลนั้นไว้กับตัวจนถึงนาทีสุดท้ายของชีวิต แต่มันคงไม่มีความหมายหากเขาไม่ได้มีชีวิตยืนยาว เพราะฉะนั้นเขาจึงตัดสินใจเชื่อหมายเลข 2 เชื่อว่าสักวันหนึ่งพวกเขาจะได้พบกันใหม่ และได้เดินจูงมือกันในโลกที่เต็มด้วยแสงสว่างแห่งนี้
หมายเลข 22 ได้รับการติดต่อจากบังเกอร์ หลังจากรายงานสถานะของตัวเอง หมายเลข 9 21 และ 2 แล้ว เขาก็ถามถึงสมาชิกคนอื่น โอเปอเรเตอร์เแจ้งว่านอกจากทั้ง 2 คนแล้วก็ติดต่อได้แค่หมายเลข 4 คนเดียว หลังจากที่หน่วยสนับสนุนเข้าไปช่วยเหลือแล้ว พวกเขาจะถูกส่งกลับบังเกอร์เพื่อซ่อมแซม และรับหน้าที่ใหม่ แต่คำว่า "ล้างข้อมูล" ซึ่งได้ยินก่อนหน้านี้จากหน่วยสนับสนุนก็ทำให้เขาเข้าใจว่าความจริงจะเกิดอะไรกับพวกตนต่อ
หมายเลข 22 อดคิดไม่ได้ว่าคงจะดีกว่าหากเขาตัดสินใจหนีไปกับหมายเลข 21 เขายังจำที่ฝาแฝดบอกว่าเวทนาตัวเขาและจำคำที่หมายเลข 9 ห้ามไม่ให้เขาฟังที่อีกฝ่ายพูดได้ดี แต่ความจริงเขารู้เรื่องนั้นอยู่แล้ว รู้มานานมาก รู้ว่าตัวเองเป็นคนล้มเหลวที่เป็น Attacker ไม่ได้ รู้ว่าตัวเองมีความสามารถสู้หมายเลข 21 ไม่ได้ รู้ว่าอีกฝ่ายดูถูกเขา ฝาแฝดของเขาจะไม่รู้สึกอย่างนั้นได้อย่างไร เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าหมายเลข 21 คิดเช่นไรในเมื่อพวกเขาเป็นฝาแฝดกัน ดังนั้นตอนที่หมายเลข 21 ติดไวรัสตรรกะและพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา หมายเลข 22 ก็รู้สึกโล่งใจ โล่งใจว่าถึงอีกฝ่ายจะมีความคิดแบบนั้น ถึงอีกฝ่ายจะอับอาย แต่หมายเลข 21 ก็เลือกที่จะไม่พูดมันออกมาเพื่อรักษาความรู้สึกของเขา และนั่นก็แสดงได้ว่าอีกฝ่ายใส่ใจเขามากแค่ไหน
ครูฝึก หมายเลข 2 3 6 และ 21 ตายไปแล้ว และอีกไม่นานตัวของเขา หมายเลข 9 กับหมายเลข 4 ก็จะหายไปจากโลกนี้เช่นกัน ก่อนหน้านี้เขาควรทำตามแผนหนีทัพของหมายเลข 21 เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นการขัดคำสั่งหรือไม่ ไม่สนใจแล้วว่าอะไรถูกหรือผิด เขาควรจะหนีไปกับอีกฝ่ายเพราะหมายเลข 21 คือฝาแฝดของเขา และเขาก็รักหมายเลข 21
"หมายเลข 21..."
หมายเลข 22 รู้สึกสงสัยว่าตอนนี้แฝดของตนอยู่ที่ไหน วิญญาณจะเป็นอย่างไร เขาอยากรีบกลับไปอยู่ข้างๆ หมายเลข 21 อีกครั้งเหลือเกิน
ถึงจะระเบิดทำลายตัวเองจนได้รับความเสียหายหนัก และไวรัสทำให้วงจรของเขามีปัญหา แต่หมายเลข 21 ก็ยังไม่เสียชีวิต เขารู้ตัวว่าตอนนี้ตัวเองกำลังอยู่ในทะเล เขารู้สึกเจ็บไปหมด แต่ก็ไม่สามารถขยับร่างกายได้ และเขากำลังถูกหุ่นยนต์แบกลงไปใต้ทะเลลึกมากขึ้นเรื่อยๆ
ฉันอยากให้เขากลับมา ฉันเหงา
ชั้นไม่อยากอยู่คนเดียว
หนาวจัง ได้ยินเสียงของก้นทะเล ชั้นไม่อยากอยู่ที่นี่... ไม่อยากอยู่คนเดียว ชั้นต้อง... มี **** อยู่ข้างๆ
ชั้นร้อง
หุ่นยนตัวใหย่กำลังมา เป็นหุ่นยนต์ที่... ใหย่... ใหญ่มากๆ
มาอยู่ด้วยกันเถอะ ไปด้วยกันเถอะ
มา... อ้ะ ขอโทดที ชั้นจำผิด นายไม่ใช่สิ่งนั้น พวกเราผูกติดกัน แต่นายไม่ใช่สิ่งนั้น สิ่งที่ชั้นอยากอยู่ด้วย... สิ่งที่ชั้นอยากอยู่ด้วยคือ...
ฉัน...
ฉัน...
"ฉัน" คือใคร
ฉันเป็นใคร ที่นี่คือที่ไหน ทำไมเขาถึงไม่ได้อยู่ที่นี่
ยี่... ยี่... สิบ...
ม่ะ... หมาย... เลก... ยี่สิบ... สอง
นายอยู่ที่ไหน ชั้นหนาว ช่วย... มาอยู่ข้างๆ ชั้นที
ยี่สิบสอง นั่นใครน่ะ ชั้นเป็นใคร นายคือใคร ชั้นไม่รู้
แต่... ชั้นอยากได้... ฉันอยากได้... หมายเลก... ยี่สิบ... สอง...
หมายเลข 22 ใช่แล้ว นั่นคือชื่อของนาย
มานี่ ชั้นหนาว หมายเลกยี่สิบสอง หมายเลขยี่สิบสอง หมายเลกยี่สิบสอง
...ชั้นควนไปหานายไหม อยู่ข้างนายคงอบอุ่น ชั้นจะไป
หมายเลกยี่สิบสอง นายอยู่ที่ไหน ชั้นจะรีบ ฉันจะไปอยู่กับนาย เดี๋ยวนี้...
และเนื้อเรื่องหลักของ YoRHa Boys ก็จบลงตรงนี้ค่ะ หมายเลข 4 คงโดน 2B เก็บแน่นอน เพราะตามเนื้อเรื่องในเกม แอนดรอยด์ Scanner ไม่มีคนที่มีร่างเป็นผู้ใหญ่ และหมาย 9 กับหมายเลข 22 ก็คงถูกทำลายเหมือนกัน เพราะระบบของทั้งคู่ไม่ใช่ Scanner แม้จะใช้ข้อมูลบุคลิกแบบเดิม แต่ 9S น่าจะเป็นร่างที่ถูกสร้างขึ้นใหม่เลย แล้วหมายเลข 2 กับหมายเลข 9 ก็ได้เจอกันอีกครั้งในฐานะ 2B กับ 9S
ส่วนตัวแอบรู้สึกว่าบางจุดเรื่องค่อนข้างรวบไปหน่อย เช่นความสัมพันธ์ของหมายเลข 2 กับหมายเลข 9 ที่ค่อนข้างเร็ว แต่โดยรวมแล้วถือว่าเป็นเรื่องที่สนุก (และปวดตับ) มากเรื่องหนึ่งเลยค่ะ แล้วก็ดีใจที่อย่างน้อยกลุ่มต่อต้านทั้ง 3 คนยังรอด อิมเมจในหัวของผู้เขียน 3 คนนี้เหมือนหนูแฮมเตอร์นอนขดตัวสั่นอยู่ด้วยกัน แอบน่าเอ็นดู (ฮา) ถึงจะดูขี้ขลาดไม่เอาไหน แต่พวกเขาก็สนิทสนมและเชื่อใจกันมากๆ อยากให้หน่วยโยร์ฮาชายได้มีโอกาสแบบนี้บ้างจัง
ท้ายเล่มของนิยายจะมีเนื้อหาพิเศษอีก 2 ตอน ตอนแรกดำเนินเนื้อเรื่องผ่านมุมมองของครูฝึก อธิบายว่าแบล็กสังเกตลูกศิษย์แต่ละคนอย่างไร เขาไม่เห็นด้วยกับการทดลองหน่วยโยร์ฮาชาย แต่ก็ไม่อยากขัดคำสั่งที่ได้รับ เขาเลยพยายามขอร้องให้ผู้บัญชาการลดความโหดร้ายที่ลูกศิษย์ของเขาต้องเผชิญลง ครูฝึกอยากให้นักเรียนของเขาได้เป็นกำลังที่ภาคภูมิใจของโยร์ฮา ไม่ใช่หนูทดลองเช่นนี้ เขาโทษด้วยเองที่โลเลไม่กล้าตัดสินใจว่าจะทำตามคำสั่งต่อ เพื่ออนาคตของแอนดรอยด์อีกนับพันที่จะถูกพัฒนาจากข้อมูลที่ได้จากการทดสอบหน่วยโยร์ฮาชาย หรือทำบางอย่างเพื่อปกป้องลูกศิษย์ แบล็กยังโทษตัวเองด้วยว่าทั้งๆ ที่รู้นิสัยของนักเรียนแต่ละคน แต่กลับไม่รอบคอบปล่อยให้เกิดเรื่องขึ้นมา (ขนาดหมายเลข 6 ทำแบบนั้นกับตัวเองก็ไม่ได้โทษอีกฝ่าย)
ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต แบล็กหวังว่าอย่างน้อยเขาก็อยากทำหน้าที่ครูฝึกให้สมบูรณ์ หากหน่วยโยร์ฮาชายต้องถูกกำจัด เขาก็ไม่คิดจะมีชีวิตรอดต่อไปเพียงคนเดียว เขาขอเลือกนักเรียนทั้ง 6 คนของเขามากกว่าแอนดรอยด์นับพันที่จะถูกผลิตออกมาในอนาคต เขาพยายามเอื้อมมือไปแตะไหล่ปลอบหมายเลข 6 ที่ตื่นกลัวเพราะ Black Box กำลังจะระเบิด แต่อีกฝ่ายก็อยู่ไกลเกินไป สิ่งเดียวที่เขาพอทำได้จึงมีเพียงการอยู่กับนักเรียนของเขาจนถึงวาระสุดท้าย
และในบทนี้ก็ทำให้เราได้รู้ว่าผู้บัญชาการมีชื่อว่าไวท์ (White) ค่ะ
ส่วนตอนพิเศษอีกตอนเป็นเรื่องราวหลังจากเหตุการณ์ทั้งหมด แคกตัส ฟลอคซ์ และโลตัสออกเดินทางมาจนถึงซากเมืองเก่า พวกเขาได้พบพวกแอนเนโมเน เอมิล และแจ็คแอส แต่สุดท้ายเพราะความขี้กลัวก็ทำให้ทั้งสามไม่กล้าอยู่ที่นี่ ถึงอย่างนั้นอย่างน้อยพวกเขาก็ยังมีกันและกันอยู่เคียงข้าง แล้วทั้งสามก็ออกเดินทางหาสมบัติกันต่อ สมบัติที่อาจหมายถึงสถานที่ที่ปราศจากการสู้รบ สถานที่ที่พวกเขาสามารถใช้ชีวิตอย่างสงบตลอดไป...
คิดเห็นอย่างไรมาพูดคุยกันได้นะคะ
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบ