Spoil Nier Automata : YoRHA Boys Part 5


ดูเหมือนไวรัสตรรกะจะทำให้การฟื้นฟูร่างกายของแอนดรอยด์เร็วกว่าปรกติ เมื่อหมายเลข 21 ได้สติก็ซัดใส่คนที่อยู่ใกล้ๆ ทันทีจนหมายเลข 22 กระเด็น แต่ดูเหมือนหมายเลข 21 จะไม่สามารถประมวลผลได้ว่าทำอะไรลงไป เขาเดินลากขา ร้องเรียกให้ฝาแฝดกลับมาหา หมายเลข 9 รีบกระโดดเข้าไประหว่างกลางทั้งสอง เขามีหน้าที่ดูแลสมาชิกหน่วย และเขาจะไม่มีวันวิ่งหนีไปคนเดียว หมายเลข 9 หยิบดาบขึ้นมา แต่ก็ถูกหมายเลข 21 โจมตีใส่จนอาวุธหลุดจากมือ เขาหลับตาแน่น แต่ความตายกลับไม่ได้มาเยือนตามที่คาด และเมื่อลืมตาขึ้นมา เขาก็เห็นหมายเลข 21 ถูกใครบางคนใช้ดาบแทงจากด้านหลัง คนที่ช่วยชีวิตของเขาไว้คือหมายเลข 2


หมายเลข 6 กำลังเพลิดเพลินกับการทรมานครูฝึกซึ่งตอนนี้ถูกเขาใช้ดาบฟันไปทั่วทั้งร่างจนเนื้อขาดรุ่งริ่ง เขายืนยันว่าสิ่งที่ตนทำไม่ได้เกิดจากไวรัส ถึงการฆ่าพวกหุ่นยนต์จะสนุก แต่การได้เห็นเพื่อนร่วมหน่วยทุกข์ทรมานทำให้เขามีความสุขมากกว่า หมายเลข 6 จินตนาการมานานแล้วว่าอยากหักนิ้วเรียวสวยของหมายเลข 21 อยากทำให้หมายเลข 22 ร้องไห้จนไม่มีเสียง และอยากใช้เวลาสองต่อสองเช่นนี้กับครูฝึก แม้แต่ตัวเขาเองยังสงสัยเลยว่าเพราะเหตุใดถึงถูกใส่ข้อมูลให้มีบุคลิคเช่นนี้ บางทีอาจแค่เพราะในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติก็มีคนที่มีรสนิยมแบบเขาอยู่ก็เป็นไปได้

ไม่ว่าอย่างไรครูฝึกก็ไม่มีทีท่าจะยอมเปล่งเสียงใดตอบ แล้วระหว่างที่หมายเลข 6 กำลังคิดว่าต่อไปจะแทงตาข้างซ้ายหรือขวาของแบล็กดี ครูฝึกก็เอื้อมมือไปหยิบดาบฟันใส่แขนของอีกฝ่าย ก่อนสั่งให้หน่วยสนับสนุนสแกนร่างของหมายเลข 6 โดยมีอาวุธของเขาเป็นท่อนำสัญญาณ โยร์ฮาพบว่าการรันโปรแกรมครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนเพราะเขาขยับร่างกายไม่ได้แม้แต่นิดเดียว แบล็กอธิบายว่าเขาทำการดัดแปลงโปรแกรมบางส่วน ตอนนี้การสแกนจะทำให้ Black Box ของหมายเลข 6 ทำงานหนักจนระเบิดตัวเอง เมื่อหน่วยสนับสนุนเริ่มนับถอยหลังระบบทำลายตนเอง 10 วินาที หมายเลข 6 ก็รู้ว่าอีกฝ่ายพูดความจริง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงทำเช่นนี้ เพราะนั่นย่อมทำให้แบล็กซึ่งอยู่ใกล้ตัวเขาถูกระเบิดไปด้วย

"ไม่ต้องห่วง เวลาที่ฉันเห็นนักเรียนกำลังพยายาม ฉันจะอยู่กับเขาจนกว่าพวกเราจะแก้ปัญหาได้"

ครูฝึกล่าว หมายเลข 6 พยายามร้องให้อีกฝ่ายหยุดโปรแกรม และในที่สุดทุกอย่างก็กลายเป็นสีขาวโพลน


หมายเลข 2 สู้กับหมายเลข 21 ที่ยังไม่ยอมหยุดทำงานง่ายๆ เขาใช้ดาบแทงคออีกฝ่ายไปหลายแผลก่อนปล่อยคลื่น Shock Wave ใส่จนฝ่ายตรงข้ามลอยไปไกล แม้ไวรัสจะลดการรับรู้ความเจ็บปวด แต่หมายเลข 21 ที่บาดเจ็บหนักก็เริ่มสัมผัสถึงมันได้แล้ว เป้าหมายของหมายเลข 2 คือทำให้คนตรงหน้ารู้สึกเจ็บจนเคลื่อนไหวช้า และมีสมาธิในการต่อสู้ลดลง เขาอยากให้การต่อสู้จบลงเร็วที่สุดเพื่อลดโอกาสที่หมายเลข 9 กับหมายเลข 22 จะติดไวรัส 

"ถ้าเกิดฉันติดไวรัสแล้วสูญเสียความเป็นตัวเองไป... ถ้าฉันกลายเป็นศัตรูของนาย... หมายเลข 9 ถ้าฉันเสียตัวตนไปแล้ว นายจะฆ่าฉันไหม"

หมายเลข 2 ตะโกนถามสิ่งที่ติดอยู่ในใจ หมายเลข 9 อึ้งไปครู่หนึ่ง น้ำตารื้นเต็มดวงตา ก่อนตอบกลับว่า

"ทำไมนายถึง... ผมไม่ทำหรอก ผ่ะ... ผมไม่ยอม ผมจะหาทางช่วยนายเอง ผมสัญญา"

(เหม็นความรักโว้ยยยย)

นั่นเป็นคำตอบที่หมายเลข 2 หวังว่าจะได้ยิน เขาหันไปยิ้มให้อีกฝ่าย รอยยิ้มจริงใจแรกที่เขามอบให้คนอื่น และอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้ทำ หากไม่ได้พบกับหมายเลข 9 เขาคงไม่รู้ว่าในชีวิตของตนจะมีโอกาสยิ้มเช่นนี้ได้หรือเปล่า 

"ฉันหวังว่า... นายจะไม่เปลี่ยนไป หวังว่าความอ่อนโยนนั่นจะอยู่กับนายตลอด"

(น่ะ นี่มันประโยคที่ A2 พูดกับ 9S ว่า 2B ฝากบอกไว้... 2B 9S เป็นพวกเธอ 2 คนจริงๆ สินะ)

หมายเลข 2 หันไปรับมือกับหมายเลข 21 ต่อ แต่ถึงเขาจะฟันอีกฝ่ายไปมากเท่าไร หมายเลข 21 ก็ยังไม่ยอมล้มลง สุดท้ายเขาจึงใช้มือซ้ายคว้าคอของอีกฝ่าย แม้รู้ดีว่าการสัมผัสตัวโดยตรงทำให้โอกาสติดไวรัสสูงขึ้นแค่ไหน แต่ไม่ว่าอย่างไรความปลอดภัยของหมายเลข 9 ก็สำคัญกับเขามากที่สุด ถึงหมายเลข 9 จะร้องบอกให้ปล่อยมือจากแอนดรอยด์ Scanner เขาก็เพียงโกหกให้อีกฝ่ายสบายใจว่าตนเป็น Defender มีความสามารถป้องกันไวรัสมากกว่าโมเดลอื่น

หมายเลข 21 พยายามสู้กลับโดยหักแขนซ้ายของหมายเลข 2 แต่ถึงจะทำสำเร็จเขาก็ถูกดาบเสียบทะลุหน้าอก แอนดรอยด์ Scanner คว้าศัตรูตรงหน้าหวังระเบิดทำลายตัวเองไปพร้อมกัน หมายเลข 2 จึงวิ่งไปทางหน้าผา ก่อนเหวี่ยงหมายเลข 21 กระเด็นลอยออกไป

"อันตราย!"

หมายเลข 22 ร้องออกมา ในช่วงเวลานั้นเองสายตาของหมายเลข 21 ก็หันไปที่ฝาแฝด สีแดงบ้าคลั่งในดวงตาของเขาพลันสงบนิ่ง และรอยยิ้มบางๆ ก็ปรากฏที่มุมปาก

ร่างของหมายเลข 21 ระเบิดกลางอากาศพร้อมเสียงกรีดร้องของหมายเลข 22 หมายเลข 2 โดนแรงระเบิดกลิ้งบนพื้นหลายตลบ หลังจากฝุ่นควันจางลงเขาก็เห็นหมายเลข 22 กำลังนั่งร้องไห้ และเมื่อพบว่าหมายเลข 9 ยังปลอดภัยดีก็รู้สึกโล่งใจ สักพักแอนดรอยด์ Healer ก็วิ่งมาหาเขา แต่หมายเลข 2 ยกมือห้าม พร้อมบอกไม่ให้อีกฝ่ายเข้าใกล้ พอแขนของหมายเลข 2 กระตุกสั่นเองหมายเลข 9 ก็รู้ว่าอีกฝ่ายติดไวรัสตรรกะแล้ว เขาร้องไห้ไม่อยากเชื่อเพราะหมายเลข 2 เป็นโมเดลรุ่น Defender เห็นหมายเลข 9 ยังเชื่อคำโกหกของตน โยร์ฮาเพชรฆาตก็ยิ้มให้อีกฝ่าย

หมายเลข 2 บอกหมายเลข 9 ว่าอย่าเชื่อทุกอย่างที่คนอื่นบอก และสารภาพว่าความจริงโมเดลของเขาคือ Executioner ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสังหารพวกเดียวกัน เขารู้สึกอิจฉาอีกฝ่ายได้ใช้เวลาช่วยเหลือมิตร อิจฉาที่อีกฝ่ายสามารถซื่อตรงต่อตัวเอง ตั้งแต่ที่เขามีตัวตนขึ้นมา สิ่งที่เขาได้เรียนรู้คือการพรากชีวิตของคนอื่นและใช้ชีวิตที่มีเพียงคำหลอกลวง เพราะฉะนั้นตอนที่ได้เจอกับอีกฝ่าย เขาถึง...

น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของหมายเลข 2

"ตอนที่อยู่กับนาย... ฉันรู้สึกเหมือนวิญญาณได้รับการช่วยเหลือ..."

เขายังจดจำวิธีที่หมายเลข 9 พันผ้ายึดมือให้ คำพูดของอีกฝ่ายที่อธิบายว่ามันจะช่วยรักษาเขาได้อย่างไร หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกเหมือนมือข้างนั้นถูกชำระล้างจนเขาไม่อยากเอามันไปใช้ทำเรื่องสกปรกอีก

หมายเลข 9 รีบตะโกนสั่งให้หน่วยสนับสนุนของเขาสแกนและกำจัดไวรัสในร่างของหมายเลข 2 แต่หน่วยสนับสนุนกลับตอบว่าไม่สามารถทำได้ เพราะตอนนี้ไวรัสกระจายในร่างของหมายเลข 2 กว่า 67% แล้ว และเสนอให้ทำการกำจัดอีกฝ่ายทันที นั่นทำให้หมายเลข 9 กรีดร้องลั่น เขากระชากสายรัดข้อมือสนับสนุนของตัวเองเขวี้ยงทิ้งด้วยความโกรธ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะไม่ยอมให้หมายเลข 2 ตายเด็ดขาด

"หมายเลข 22 ฝากหมายเลข 9 ด้วยนะ"

หมายเลข 2 หันไปบอกแอนดรอยด์ Gunner ก่อนจะหยิบดาบขึ้นแทงหน้าอกของตัวเอง

"ลาก่อน หมายเลข 9"

เขาเอ่ย ก่อนที่ร่างจะร่วงหล่นจากหน้าผา โลกที่เห็นถูกย้อมเป็นสีแดง แต่ในสายตาของเขาเห็นเพียงหมายเลข 9 เท่านั้น


โปรดติดตามตอนต่อไป...

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Spoil NieR Automata Part 27 Ending E : the End of YoRHa และวิเคราะห์เนื้อเรื่องทั้งหมดตามใจฉัน

ผ้าปิดตาของ YoRHa