Spoil NieR Automata Part 13 ความลับของหุ่นยนต์
โยร์ฮามาพบกับปาสคาลเพื่อสอบถามเรื่องของ A2 แต่แม้ 9S จะส่งข้อมูลภาพของเธอให้กับอีกฝ่าย หุ่นยนต์กลับไม่รู้เรื่องของเธอมากนัก นอกจากว่าเธอถูกบันทึกว่าเป็นบุคคลอันตราย การการทำของแอนดรอยด์ Scanner ทำให้ 2B ตำหนิที่เขาส่งข้อมูลให้เผ่าพันธ์ศัตรูโดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากเบื้องตน กระนั้นเธอก็ให้กำลังใจเขาว่าเรื่องคงไม่เลวร้าย และเธอก็พร้อมกับร่วมรับผิดชอบกับเขา
9S และ 2B ได้รับการไหว้วานจากแอนเนโมเนให้ช่วยคุ้มครองสมาชิกกลุ่มต่อต้าน ระหว่างที่พวกเขากำลังเติมจรวดมิสไซส์เพื่อเสริมการป้องกันที่แนวชายหาด ด้วยความที่ไม่มีงานเร่งด่วน ทั้งสองจึงตกลงให้ความช่วยเหลืออีกฝ่าย
ณ อีกสถานที่หนึ่ง อดัมและอีฟกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะยาวเช่นเดิม ดูเหมือนว่าคราวนี้อดัมจะบังคับให้น้องชายของเขาอ่านหนังสือ ซึ่งนั่นก็ทำให้อีกฝ่ายต้องบ่นออกมาว่าเหตุใดหุ่นยนต์อย่างพวกตนต้องอ่านมัน ทั้งๆ ที่สามารถหาแหล่งข้อมูลที่สามารถดึงใส่ในหน่วยความจำได้โดยตรงได้
"ความรู้จะทำให้เราเห็นมุมมองมากขึ้น และยังช่วยเสริมแนวคิดให้เราด้วย การดึงข้อมูลพวกนั้นโดยตรง อาจเข้าหัวของนายก็จริง แต่มันไม่ได้เข้าถึงหัวใจของนายหรอกนะ"
อีฟยอมฟังคำของพี่ชายอย่างว่าง่าย แต่เมื่อได้รับความรู้มากขึ้น ก็ทำให้เขาเกิดคำถามขึ้นมาอีก
"นี่ พี่ ชื่ออีฟของผมน่ะ หนังสือเล่มนี้บอกว่ามันเป็นชื่อของผู้หญิงนีนา ทำไมเราไม่ใช้ชื่อเป็นคาอินกับอาเบล หรืออะไรประมาณนั้นล่ะ"
"พวกมนุษย์ไม่เปลี่ยนชื่อกันง่ายๆ หรอกนะ อีกอย่างนายก็ควรจะภูมิใจกับชื่ออีฟของนายด้วย"
พอได้รับความเห็นจากคนที่ตนเคารพ หุ่นยนต์ที่อายุน้อยกว่าก็ไม่ต่อต้านอะไรอีก ก่อนที่เขาจะชวนพี่ชายออกไปเล่นด้วยกันข้างนอก อดัมจึงตั้งเงื่อนไขว่าเขาจะต้องอ่านหนังสือให้จบก่อน เมื่อได้ยินดังนั้นอีฟก็รีบอ่านหนังสือในมือต่ออย่างกระตือรือร้น
ขณะเดียวกันที่เมืองที่จมน้ำ 9S และ 2B กำลังช่วยจำกัดหุ่นยนต์ในบริเวณรอบๆ ฐานยิงจรวด ตอนนั้นเองพวกเขาก็ได้รับการติดต่อฉุกเฉินจากผู้บัญชาการซึ่งแจ้งให้สองคู่หูขับ Flight Unit ไปปกป้องเรือขนเสบียงที่กำลังถูกโจมตี ทว่าแม้จะกำจัดศัตรูได้ทั้งหมด 9S กลับตรวจพบสัญญาณของหุ่นยนต์ขนาดมหึมาได้ ตอนนั้นเองสิ่งมีชีวิตบางอย่างก็พุ่งตัวขึ้นจากทะเลกัดเรือบรรทุกเสียงขาดเป็นสองท่อนอย่างง่ายดาย มันยิงเลเซอร์ใส่ศัตรู พร้อมปล่อยคลื่นไฟฟ้าปกป้องร่างกายของตนจากการโจมตีระยะประชิด ทำให้การโจมตีธรรมดาทำความเสียหายให้มันแทบไม่ได้เลย
9S และ 2B ได้พบกับแอนดรอยด์ 4B ที่พาหน่วยในความดูแลของเธอเข้ามาช่วยรับช่วงการต่อสู้ ทั้งสองจึงถอยไปตั้งหลักยังฐานยิงระเบิดของกลุ่มต่อต้านที่ริมฝั่งเนื่องจากคลื่นไฟฟ้าไม่สามารถใช้ป้องกันกระสุนระเบิดแบบธรรมดาได้ หุ่นยนต์ยักษ์เหยียดกายที่อยู่ใต้น้ำขึ้นยืนเผยให้เห็นร่างที่สูงกว่า 1000 เมตร ก่อนแผ่คลื่นไฟฟ้าออกเป็นวงกว้างทำลายระบบการทำงานของจักรกลรอบตัว แม้แอนดรอยด์ Scanner จะใช้อุปกรณ์สร้างเกราะคุ้มกันตัวเขากับ 2B ไว้ได้ทัน แต่การโจมตีของศัตรูก็ทำให้พวกเขากระเด็นลอยจากพื้น
โยร์ฮาได้รับการช่วยเหลือจากปาสคาลที่อธิบายว่าหุ่นยนต์ยักษ์เครื่องนี้เป็นอาวุธโบราณที่ถูกออกแบบมาเพื่อกำจัดแอนดรอยด์ ทว่าต่อมามันสูญเสียการควบคุมออกทำลายทุกอย่างในสายตาไม่เลือกหน้า หุ่นยนต์เครื่องอื่นๆ จึงนำมันไปทิ้งที่ใต้ทะเลลึก แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้มันจะหาทางกลับมาได้แล้ว
9S บอกให้ 2B ถ่วงเวลาระหว่างที่เขาเปลี่ยนกระสุนที่ฐานยิงจากระเบิดธรรมดามาใช้มิสไซส์ หลังจากที่แอนดรอยด์สาวสามารถทำลายแหล่งพลังงานไฟฟ้าของมันได้ทั้งหมดแล้ว เขาก็ยิงจรวดเข้าปากของหุ่นยนต์ยักษ์ทันที แรงระเบิดของมันทำให้ 9S 2B และปาสคาลกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง ทั้งยังทำให้บังเกอร์สูญเสียสัญญาณติดต่อกับสมาชิกหน่วยโยร์ฮาบนพื้นโลกด้วย
แอนดรอยด์ Scanner ได้รับข้อมูลความทรงจำบางอย่างมา กรุน (Grün) หุ่นยนต์ยักษ์กำลังร้อง แม้จะมีร่างกายที่ใหญ่โต แต่มันก็ยังเป็นเพียงเด็กน้อยในตอนที่มันเพิ่งถูกสร้างขึ้น กรุนเกิดมาพร้อมกับพลังมากมาย ทว่ามีอุปกรณ์บางอย่างในตัวของมันที่เสียหายทำให้มันไม่สามารถควบคุมตัวเอง และใช้เวลาทั้งวันไปกับการทำร้ายผู้อื่น แม้มันจะพยายามทำตัวเป็นเด็กดีแล้ว แต่ผลก็ไม่เคยออกมาดีเลยสักครั้ง หุ่นยนต์ตนอื่นบอกว่ามันเป็นเด็กที่ไม่มีใครต้องการ ก่อนจะนำมันไปปล่อยในทะเลลึกให้อยู่เพียงลำพัง ในเบื้องลึกของทะเลอันหนาวเหน็บนั้น กรุนก็ร้องไห้ออกมา พลางร่ำร้องหาผู้ให้กำเนิดที่ไม่เคยได้ยินเสียงของมัน
แม่ครับ แม่ครับ แม่ครับ แม่ครับ...
หลังจากการปะทะครั้งใหญ่ที่ริมชายฝั่ง POD 042 และ POD 153 ก็เริ่มแลกเปลี่ยนข้อมูลให้แก่กันอีกครั้งเพื่อนำไปพัฒนาการวางแผนการต่อสู้ต่อไปในภายภาคหน้า
9S ที่ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดเริ่มรู้สึกตัว แต่ก็พบว่าตอนนี้ตนกำลังอยู่ในหน่วยความทรงจำขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตา เครือข่ายมากมายที่โยงหากันไปมาซับซ้อนราวเขาวงกตนั้นไม่คุ้นตาเขาแม้แต่น้อย แอนดรอยด์ Scanner จึงรู้ได้ทันที่ว่าที่แห่งนี้ต้องถูกสร้างโดยพวกหุ่นยนต์แน่นอน
เช่นนั้นแล้วเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร โยร์ฮาหนุ่มเริ่มทบทวนความทรงจำของตัวเอง แต่ดูเหมือนว่าหน่วยความทรงจำของเขาจะได้รับความเสียหายจนจำได้เพียงว่าเขาคือ 9S เท่านั้น และนั่นทำให้เขาเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา จะเกิดอะไรขึ้นหากเขาลืมทุกสิ่งทุกอย่างไป ไม่มีความทรงจำ ไม่เหลือแม้แต่ตัวตนของตัวเอง 9S พยายามสงบใจให้ใจเย็นลง ก่อนเริ่มโปรแกรมกู้ข้อมูลความทรงจำฉุกเฉินที่เคยได้อ่านในคู่มือ
โปรแกรมเริ่มซ่อมแซมเติมข้อมูลในหน่วยความทรงจำที่หายไป แต่มันก็ไม่สามารถเรียกคืนข้อมูลได้ทุกส่วน ความทรงจำของเขายังขาดเป็นช่วงๆ คล้ายประโยคข้อความที่ตัวอักษรหายไปบางตัว บังเกอร์ แผนการของ 2B หุ่นยนต์ขนาดยักษ์ การโจมตีด้วยมิสไซส์ก่อนหน้านี้... ตอนที่จรวดระเบิด โปรแกรมรักษาความปลอดภัยในระบบการของเขาหยุดไปชั่วคราวเพราะคลื่นไฟฟ้าของศัตรู และมันก็น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาหลุดเข้ามาในระบบเครือข่ายของพวกหุ่นยนต์ด้วยเช่นกัน
ยังต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าโปรแกรมจะกู้ข้อมูลได้ทั้งหมด 9S ที่ไร้ทางเลือกอื่นจึงเริ่มสำรวจพื้นที่หน่วยความจำเหล่านี้ หุ่นยนต์เก็บข้อมูลต่างๆ ไว้ที่นี่มากมาย แม้ตอนแรกเขาจะไม่เข้าใจระบบการทำงานของมันเท่าไร แต่เมื่อได้สังเกตดีๆ ในที่สุดแอนดรอยด์ก็สามารถเรียนรู้ว่าข้อมูลเหล่านี้เชื่อมโยงกันอย่างไร
พวกหุ่นยนต์เก็บข้อมูลไว้หลายประเภท ทั้งปรัชญา และประวัติศาสตร์ของมนุษย์ แต่สิ่งที่แปลกที่สุดคือข้อมูลในช่วงหลัง ในหมวดหมู่การเมืองนั้นเต็มไปด้วยข้อมูลผลการปกครองรูปแบบต่างๆ ของหุ่นยนต์ พวกมันมีการปกครองทั้งระบอบกษัตริย์ ระบอบสาธารณรัฐ และระบอบประชาธิปไตย นอกจากนั้นยังศึกษางานวิชาการต่างๆ อย่างเช่นปรัชญา คณิตศาสตร์ วิทยาศาตร์ หรือสังคมศาสตร์ด้วย ดูเหมือนว่าพวกมันกำลังลอกเลียนพฤติกรรม และรูปแบบการใช้ชีวิตของมนุษย์ แต่เหตุใดพวกมันถึงต้องทำเช่นนั้นกันแน่
แอนดรอยด์หนุ่มตรวจสอบรายละเอียดของบันทึกเหล่านั้นมากขึ้น พวกหุ่นยนต์ไม่ได้พยายามสร้างวัฒนธรรมหรือภูมิปัญญาใหม่ใดๆ ขึ้นมา พวกมันเพียงแค่เลียนแบบมนุษย์เท่านั้น และที่น่าแปลกก็คือ หากพวกมันทำเรื่องใดล้มเหลว พวกมันกลับจะทำเรื่องเดิมนั้นซ้ำไปมา หากพวกมันเคยใช้ระบอบเผด็จการปกครองจนประเทศล่มสลาย เมื่อเริ่มตั้งตัวอีกครั้งพวกมันก็สร้างผู้นำเผด็จการขึ้นเช่นเดิม โดยที่ไม่คิดเปลี่ยนแปลงระบอบเป็นแบบใหม่ ถ้าพวกมันพยายามเพราะปลูก แต่พืชกลับตายจนหมด พวกมันจะเริ่มปลูกพืชนั้นอีกรอบด้วยวิธีเดิมๆ พวกมันจะทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยไม่เรียนรู้อะไรแม้แต่น้อย
ทั้งๆ ที่ยามต่อสู้พวกหุ่นยนต์สามารถพัฒนาตนเองได้อย่างรวดเร็ว แล้วเหตุใดถึงต้องพยายามเลียนแบบมนุษย์ ทำไมพวกมันถึงเอาแต่ทำเรื่องที่เคยผิดพลาดราวกับตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น แต่ยังไม่ทันที่จะหาคำตอบได้ 9S ก็รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของกระแสข้อมูล แอนดรอยด์หนุ่มรวบรวมสมาธิเพื่อหาที่มาของการเคลื่อนไหวนั้น แล้วเขาก็ได้ยินเสียงบางอย่าง
"ฉัน... ฉันขอประกาศต่อ... พวกแอนดรอยด์ทั้งหมด"
ดูเหมือนจะมีสิ่งทรงภูมิบางอย่างกำลังเข้ามาใกล้ และในที่สุดเสียงนั้นก็ดังชัดเจนขึ้นในหัวของเขา มันคือเสียงของอดัม หุ่นยนต์ที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ตนนั้นเอง
"ฉันขอประกาศต่อ... พวกแอนดรอยด์ทั้งหมด ตอนนี้พวกเราหุ่นยนต์ได้วิวัฒนาการขึ้นอีกขั้น พวกเราสร้างสงคราม เรียนรู้ เติบโต จนกระทั่งได้รับสำนึกคิดของสิ่งมีชีวิตมาแล้ว ตัวตนของพวกเราได้ถือกำเนิดขึ้นใหม่แล้วไงล่ะ"
"โกหก พวกหุ่นยนต์ก็ดีแต่พูดเรื่องโกหกทั้งนั้น"
9S ไม่อาจยอมรับว่าพวกหุ่นยนต์ได้กลายเป็นสิ่งมีชีวิต และไม่ได้เป็นแค่เครื่องจักรอีกต่อไป เมื่อเห็นแอนดรอยด์ต่อต้านสิ่งที่ตนพูด อดัมก็หัวเราะออกมา
"แล้วยังไงล่ะ แอนดรอยด์อย่างนายจะอ้างว่าตัวเองต่างหากที่เป็นสิ่งมีชีวิตอย่างนั้นเหรอ ช่างน่าประหลาดจริง พวกนายมันก็แค่ตุ๊กตาที่ไม่มีแม้แต่เจตจำนงค์ของตัวเองเท่านั้นแหละ"
"ไม่ใช่นะ นายเข้าใจผิดแล้ว"
เสียงของหุ่นยนต์ดังก้องในโสตประสาทของ 9S ราวกับอีกฝ่ายกำลังกรอกคำพูดเหล่านั้นใส่หูของเขาโดยตรง แอนดรอยด์ Scanner เริ่มรู้สึกสั่นคลอน ด้วยลึกๆ ในใจของเขาก็ไม่อาจปฏิเสธความจริงบางอย่างในประโยคเหล่านั้นได้ ความจริงที่พวกเขาใช้คำลวงปกปิดมันเอาไว้ ความรู้สึกที่แท้จริงที่ต้องเก็บเอาไว้
"ฉันพูดผิดยังไงล่ะ เจ้าเด็กน้อย"
"ผ่ะ ผมน่ะ... พวกผมน่ะ..."
"ที่จริงนายเองก็มีเจตจำนงค์ของตัวเองเหมือนกันสินะ นายมีความต้องการอยู่ใช่ไหม เห็นไหมล่ะ ไอ้หนู ความหมายที่แท้จริงของชีวิตก็คือความเกลียดนี่แหละ!"
"ไม่ใช่นะ"
"ความเกลียดชังอันดำมืดกำลังฝังตัวในส่วนลึกของหัวใจของนาย"
"ไม่ใช่นะ!"
"ยิ่งนายพยายามซ่อนมันไว้เท่าไร ความมืดมิดก็ยิ่งเติบโตขึ้นเท่านั้น"
"ไม่ใช่ ไม่ใช่ ไม่ใช่ ไม่ใช่!"
9S ไม่ยอมรับสิ่งที่อดัมพูด แอนดรอยด์ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องมนุษยชาติ พวกเขาจะไม่มีวันหักหลังผู้สร้างของตัวเองเหมือนที่หุ่นยนต์ทำ
"สิ่งมีชีวิตทุกอย่างก็ล้วนแต่เป็นทาสของความต้องการทั้งนั้นแหละ มันคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตของพวกเรามีความหมาย บางคนต้องการความสวย บางคนก็ต้องการความสงบ และสำหรับฉันแล้ว ความเกลียดก็คือ..."
"ผมไม่ได้เป็นอย่างนั้น!"
"ฮ่าๆๆ ทำไมจะไม่ใช่ล่ะ นายไม่เชื่อใจในอะไร นายอยากทำลายทุกอย่าง นายสูญสิ้นความหวังกับทุกสิ่ง นายอยากได้ทุกอย่างเป็นของตัวเอง นายอยากเป็นที่รักของทุกคน แม้แต่ตอนนี้นายก็กำลังคิดว่าอยาก ... 2B มากแค่ไหน ใช่ไหมล่ะ นายก็แค่หลอกตัวเองอยู่เพื่อปกปิดความจริงนั่นแหละ"
"หยุด หยุดเดี๋ยวนี้นะ!"
แอนดรอยด์ที่ถูกหุ่นยนต์ล่วงรู้สิ่งที่เขาพยายามเก็บซ่อนไว้เริ่มควบคุมสติของตัวเองไม่อยู่ เขาไม่ต้องการฟังมัน ความจริงที่เขาไม่อยากยอมรับ ความจริงที่เขาต้องการ...
"ความเกลียดกำลังถูกเติมเต็มเข้าไปในตัวของนาย"
"มันไม่ใช่อย่างนั้นนะ บ้าเอ้ย!"
"ความต้องการก็กำลังเอ่อล้นออกมา"
"ผม... ผมไม่เหมือนพวกนาย!"
"ตัวตนที่แท้จริงของนายน่ะ"
"พวกเราไม่... เหมือนกัน... หยุด หยุดพูดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ความผิดของผมนะ ไอ้ตายเถอะ พอ พอ พอ พอสักที!"
สติของ 9S เริ่มหลุดลอย ภาพเบื้องหน้าเบลอจนมองอะไรไม่ออก สิ่งที่เขาต้องเผชิญมาตลอด ความรู้สึกผิดบาปที่ต้องต่อสู้ในใจนั้นมากเกินกว่าที่เขาจะรับมันไหว ในที่สุดแอนดรอยด์หนุ่มก็เอ่ยคำหนึ่งออกมา
"ช่วย... ผม... ด้วย"
พวกหุ่นยนต์ต่างดูแลสมบัติของตัวเองเป็นอย่างดี ผู้ที่มีสมบัติหรือเจตจำนงค์เดียวกันก็จะรวมตัวอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว สมบัติของครอบครัวของตนคือสิ่งสำคัญที่สุด ส่วนสมบัติของครอบครัวอื่นก็เป็นเหมือนพี่น้อง เพราะแม้จะแตกต่าง สมบัติแต่ละชิ้นก็มีความงาม และข้อดีเป็นของตัวเอง ทว่ากลับมีหุ่นยนต์ตนหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่แปลกแยกที่สุดในบรรดาสมบัติของพวกมัน และสิ่งนั้นก็คือความเกลียดชัง
อดัมถูก 2B ที่มาช่วยเหลือคู่หูของเธอใช้ดาบแทงจนล้มลงกับพื้น ก่อนที่เขาจะเอ่ยเสียงแผ่วเบาพร้อมมุมปากที่เหยียดออกด้วยความดีใจที่ได้ทำความรับรู้ในสิ่งที่ตนไม่เคยเข้าใจมาก่อน
"มืดจัง... หนาวจัง..."
9S หล่นจากอาคารลงมา หลังจากที่ประคองร่างของเขาขึ้นมาแล้วพบว่าเขายังคงมีสติอยู่ แอนดรอยด์สาวก็โล่งอก
"2B..."
"เอาล่ะ เรากลับกันเถอะ 9S"
คำพูดอ่อนโยนผิดวิสัยของ 2B ทำให้ 9S พยักหน้าตอบรับด้วยความยินดี ความคิดที่ต้องการกระทำบางอย่างต่อเธอตอนที่ยังติดอยู่ในระบบเครือข่ายพลันหายไป แอนดรอยด์สาวช้อนร่างของเขาขึ้นมา พร้อมเผยรอยยิ้มให้ แล้วเธอก็อุ้มอีกฝ่ายออกจากสถานที่แห่งนี้ที่กำลังถล่มลงหลังจากผู้สร้างของมันถูกทำลาย
เกร็ดความรู้
- ชื่อคาอินกับอาเบลที่อีฟเสนอให้เปลี่ยนไปใช้ เป็นชื่อของชายสองพี่น้องในพระคัมภีร์ คาอินนั้นอิจฉาอาเบลผู้เป็นน้องชาย ซึ่งพระเจ้าให้ความรักความเมตตามากกว่า วันหนึ่งคาอินจึงหลอกอาเบลมาสังหาร เมื่อพระเจ้ารู้เรื่องที่เกิดขึ้น พระองค์ก็ขับไล่คาอินออกจากดินแดนของตน และสาปให้ทุกที่ที่เขาไปไม่สามารถปลูกพืชพันธ์ใดๆ ขึ้นได้ ทำให้เขาไม่อาจลงหลักปักฐานที่ใด ต้องร่อนแร่พเนจรไปตลอดกาล
- การที่อดัมตัดการเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายเพื่อเรียนรู้ความตาย อาจเปรียบได้เหมือนกับการที่อดัม และอีฟ ในพระคัมภีร์ที่หลังจากกินผลไม้ต้องห้าม นอกจากพวกเขาจะได้รับปัญญา และบาปแรกมาแล้ว พวกเขายังสูญเสียความเป็นอมตะไปอีกด้วย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น