Spoil Drag on Dragoon 3 Part 7 โฟร์
ซีโรขึ้นหลังของมิไฮล์ มุ่งหน้าขึ้นสู่ท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยกลุ่มเมฆสีเทา ทั้งสองถูกโจมตีโดยไวเวิร์นจำนวนมากที่ถูกควบคุมโดยพลังแห่งเสียงเพลงของโฟร์ นอกจากพ่นไฟแล้ว พวกมันยังแบกหินก้อนยักษ์เหวี่ยงใส่พวกเธอด้วย ตอนนั้นเองซีโรก็พูดขึ้นมาด้วยเสียงที่ไม่สู้ดีนัก
ซีโร : อืม ชักแย่แล้วสิ...
มิไฮล์ : เป็นอะไรไปซีโร พวกไวเวิร์นแกล้งเจ้าเหรอ... ไอ้พวกไวเวิร์นบ้าเอ้ย!
ซีโร : ใช่ที่ไหนล่ะ เพราะกลิ่นตัวของเจ้ามันจะสุดทนต่างหาก ข้ารู้สึกเหมือนอาหารกลางวันที่กินไปจะออกมาแล้ว
มิไฮล์ : เจ้าอ้วกบนตัวข้าได้นะ ข้าไม่ถือหรอก
ซีโร : นี่เจ้าล้อเล่นใช่ไหม มิน่าตัวเจ้าถึงเหม็นขนาดนี้
มิไฮล์ : ฮ่าๆๆ ขอบคุณครับ
ซีโร : ข้าไม่ได้ชมเจ้านะ
สองคู่หูบินมาถึงเบื้องหน้ากลุ่มเมฆที่จับตัวหนาราวกำแพงจนผิดธรรมชาติ ตอนนั้นเองหิมะก็เริ่มตกลงมาบดบังทัศนวิสัยจนแย่ไปหมด
มิไฮล์ : ซีโร ข้างหน้านี่หิมะตกหนักมากเลย เราอ้อมกันดีกว่าไหม เอายังไงกันดี ซีโร ซีโร
ซีโร : อึ่ก บ้าจริง ทำไมมันถึงหนาวอย่างนี้นะ หัวข้าเย็นจะเป็นน้ำแข็งอยู่แล้ว
มิไฮล์ : งั้นอดทนไว้นะ เรายังมีพวกไวเวิร์นตัวเหม็นรอให้ฆ่าอีกเยอะเลย
ซีโรและมิไฮล์มุ่งหน้าเข้าไปในกลุ่มเมฆ ปลิดชีพเหล่าไวเวิร์นที่เข้ามาขัดขวาง ก่อนที่มังกรน้อยจะถามขึ้นมา
มิไฮล์ : เดี๋ยวเราจะได้เจอโฟร์กันแล้วใช่หรือเปล่า
ซีโร : ใช่ นางต้องซ่อนตัวอยู่แถวนี้แหละ
มิไฮล์ : งั้น ถ้าเจอนางแล้ว เจ้าลองปรับความเข้าใจกับนางดูก่อนดีไหม
ซีโร : ว่ายังไงนะ
มิไฮล์ : ก็พวกเจ้าเป็นพี่น้องกันนีนา ถ้าได้ลองพูดกันล่ะก็พวกเจ้าจะต้องเข้าใจกันมากขึ้นแน่
ซีโร : พวกข้าไม่จำเป็นต้องเข้าใจอะไรกันมากขึ้นทั้งนั้น
มิไฮล์ : ทำไมเจ้าถึงโกรธโฟร์เหรอ ซีโร เพราะเรื่องส่วนตัวหรือเปล่า
ซีโร : เรื่องส่วนตัวอะไร
มิไฮล์ : ก็อย่างเช่น ตอนเด็กๆ นางเคยขโมยไอศกรีมของเจ้าไป อะไรประมาณนั้นน่ะ
ซีโร : ไม่เกี่ยวกับเรื่องพรรคนั้นหรอก ข้าก็แค่อยากให้นางตายเเท่านั้น
มิไฮล์ : แต่ ทำไมกันล่ะ
ซีโร : พี่น้องทุกคนก็อยากฆ่ากันทั้งนั้นแหละ ไม่มีใครอยากยอมให้อีกฝ่ายหรอก
ในที่สุดทั้งสองก็พบกับเรือเหาะที่มีอักขระเวทมนต์สีเขียววาดรอบตัวเรือ โฟร์ยืนอยู่บนดาดฟ้าราวกำลังรอต้อนรับผู้มาเยือน สายตาของหญิงสาวจับจ้องไปยังพี่สาวที่ขี่มังกรเข้ามาใกล้ เบื้องหลังคือชายวัยกลางคนผู้เป็นสาวกรับใช้ของเธอ
โฟร์ : ในที่สุดท่านก็มาถึงจนได้นะ ท่านพี่ซีโร
ซีโร : อืม ขอโทษที่ทำให้ต้องรอนะ ถึงจะหนีไปที่ไหนคนขี้ขลาดอย่างเจ้าก็ไม่พ้นมือข้าไปได้หรอก ทีนี้ก็นั่งลงซะ ข้าจะได้รีบฆ่าเจ้าสักที
โฟร์ : ข้า... ข้าไม่อยากสู้กับท่าน ท่านพี่ซีโร
ซีโร : อ๋อ เหรอ
โฟร์ : ท่านไม่รู้เหรอว่าข้านับถือท่านมากแค่ไหน ท่านพี่ซีโร ข้านับถือท่านมาตลอดเลยนะ เราอย่าต้องมานองเลือดกันเลย ได้โปรดพอแค่นี้เถอะ
ซีโร : เลิกโวยวายสักที เจ้าคิดว่าข้าถ่อมาถึงที่นี้เพื่อกินลมชมวิวอย่างนั้นเหรอ ข้าจะไม่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าข้าจะควักเครื่องในสาวบริสุทธิ์ของเจ้าออกมาละเลงบนหิมะนี่
ซีโร : ไม่นะ ไม่ ม่ายยย
โฟร์ร้องเสียงดังด้วยเสียงแห่งเวทมนต์ของเธอ แสงสีเขียวแผ่กระจายเป็นวงกว้างสร้างกรอบสี่เหลี่ยมประหลาดขึ้นในอากาศเป็นจำนวนมาก และมันก็เรียกรอยยิ้มจากสาวกผู้ส่วมแว่นตา เขากางมือของตนออก พร้อมเอ่ยคำอัญเชิญเทพรับใช้ของเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลง
"โปรดสดับบทเพลงลำดับที่สี่ เกราะซึ่งไม่อาจเจาะทำลายจากโบราณกาล ขออำนาจของท่านสถิตย์กับเรา ท่านผู้เป็นดั่งป้อมปราการที่ช่วยคุ้มครองเรา เจ้าจงถูกชำระบาปบนท้องฟ้านี้ ข้าเดคาดัส ขออัญเชิญท่านด้วยนามของข้า โปรดปกป้องพวกเราด้วยอาร์มารอส"
ทันใดนั้นเทพรับใช้ที่มีร่างกายเหมือนปราสาทเหล็กกล้าก็ปรากฏกายขึ้นต่อหน้าซีโร และมิไฮล์ รอบตัวของมันมีกรอบสี่เหลี่ยมลอยอยู่รอบๆ คล้ายโซ่ที่เตรียมพันธนาการศัตรู อาร์มารอสยิงปืนใหญ่ใส่ทั้งคู่ไม่หยุด หญิงสาวผมสีเงินจึงสั่งให้คู่หูของเธอบินลงไปโจมตีจากเบื้องล่างเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายยิงพวกเธอได้ ทว่ามังกรน้อยกลับพบว่าตนไม่สามารถทำเช่นนั้น และได้เพียงแค่บินลอดกรอบสี่เหลี่ยมสีเขียวไปเรื่อยๆ เท่านั้น
มิไฮล์ : ข้าทำไม่ได้ ข้าบินลงไปไม่ได้เลย เจ้ากรอบสีเหลี่ยมพวกนั้นมันคือเวทมนต์แห่งเสียง ข้าต้านพลังของนางไม่ได้ มันดึงข้าเข้าไปข้างใน
ซีโร : ให้ตายเถอะ ถ้าอย่างนั้นเราคงต้องจัดการไอ้ปืนใหญ่พวกนี้ให้หมดก่อนสินะ เจ้านี่ชอบทำเรื่องให้ข้าต้องยุ่งยากจริงๆ โฟร์!
พวกซีโรถูกพลังของเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงผมสีน้ำตาลบังคับให้พวกเธอต้องปะทะกับอาร์มารอสตรงๆ พวกเธอถูกดึงเข้าใกล้ปืนใหญ่ และดวงตาของเทพรับใช้ที่เต็มไปด้วยใบมีดโดยไม่อาจบินหนีไปที่อื่น แต่เมื่อมังกรน้อยสามารถทำลายดวงตาของมันได้ ร่างของเขาก็ถูกดึงเข้าสู่กรอบสี่เหลี่ยมต่อไป บีบให้ต้องปะทะกับดวงตาที่เหลือของปราสาทยักษ์ด้วยวิธีเดิม
โฟร์ : เพราะอะไรกันเหรอท่านพี่ซีโร ทำไมท่านถึงต้องเกลียดข้าขนาดนี้ด้วย
ซีโร : ข้าไม่ได้เกลียดเจ้า ข้าแค่อยากฆ่าเจ้า
มิไฮล์ : ข้ารู้สึกแย่แทนนางแฮะ
ซีโร : เจ้าอย่ายุ่งได้ไหม!
โฟร์ : ท่านพี่ซีโร ได้โปรดพอแค่นี้เถอะ ท่านพี่ซีโรผู้แสนใจดีที่ข้าเคยรู้จักหายไปไหนแล้วล่ะ
ซีโร : ใครจะไปรู้กัน ข้าก็เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
โฟร์ : ท่านพี่ซีโรจำไม่ได้เหรอ ตอนที่พวกเรายังเป็นเด็ก ข้ามักถูกเด็กคนอื่นรังแกจนร้องไห้บ่อยๆ แล้วท่านก็จะคอยอยู่เคียงข้างจนกว่าข้าจะรู้สึกดีขึ้นเสมอ
ซีโร : เจ้าคงจำข้าสลับกับคนอื่นแล้วล่ะ
โฟร์ : ไม่ นั่นคือตัวตนที่แท้จริงของท่านต่างหาก ท่านต้องจำให้ได้สิ เราอย่าต้องมาทำร้ายกันเองเลย อย่างน้อยก็เห็นแก่มังกรน้อยตัวนั้นเถอะ
ซีโร : เจ้าช่วยหุบปากสักทีได้ไหม
โฟร์ : ถ้าข้าต้องตายที่นี้ สาวกของข้าเขาก็จะตายไปด้วยนะ เพราะว่าเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงกับสาวกมีสายสัมพันธ์พิเศษเชื่อมต่อถึงกันอยู่ไงล่ะ
ซีโร : สายสัมพันธ์พิเศษเหรอ มันเรียกว่าเซ็กส์ต่างหาก ไม่มีอะไรพิเศษทั้งนั้น
โฟร์ : ไม่ ไม่จริง ท่านอย่าหลอกข้า ท่านพี่ซีโร
ซีโร : แล้วก็นะ ถึงเจ้าจะตายไป สาวกของเจ้าก็ไม่เป็นอะไรหรอก เพราะว่าข้าจะเอาเขามาเป็นสาวกของข้าเองไงล่ะ
โฟร์ : ไม่น้าาาาา!!
ตอนนั้นเองมิไฮล์ก็สามารถทำลายดวงตาของปราสาทเหล็กได้ทั้งหมด อาร์มารอสเปิดช่องทางให้โฟร์นั่งเรือเหาะหลบหนีไป ก่อนหันมาโจมตีใส่ศัตรูของเจ้านายของตนอีกครั้ง
ซีโร : เจ้าคิดจะหนีไปอีกนานแค่ไหนกัน โฟร์ นอนลงให้ข้าฆ่าเจ้าดีๆ สักที
โฟร์ : ท่านล้มข้าไม่ได้หรอก ท่านพี่ซีโร
ซีโร : มั่นใจจังเลยนะ จะบอกว่าเจ้าไม่มีจุดอ่อนอยู่เลยอย่างนั้นสิ
โฟร์ : พวกเราทุกคนก็มีจุดอ่อนกันทั้งนั้นแหละ แต่ข้าไม่เคยเผยมันให้ใครเห็น รวมถึงท่านด้วย
ซีโร : งั้นเราจะได้พิสูจน์กัน แม่สาวพรหมจรรย์เหล็ก
โฟร์ : ว่ายังไงนะ!
ซีโร : ไหนลองบอกข้ามาสิว่าที่เจ้าเป็นอยู่นี่ เพราะแค่อยากปกป้องตัวเอง หรือว่าของๆ เจ้ามันเหม็นเป็นปลาเค็มกันแน่
โฟร์ : หยุด หยุดพูดเรื่องอย่างนั้นนะ หยุดนะ พอทีเถอะ ท่านพี่ซีโร
ซีโร : โทษที ไม่มีใครหยุดหรอก
โฟร์ : ข้าสู้กับท่านไม่ได้จริงๆ ท่านพี่ซีโร ยังไงข้าก็ไม่อยากสู้กับท่าน
ซีโร : ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย ข้าจะฆ่าเจ้าโดยที่ไม่ต้องต่อสู้ก็แล้วกัน
โฟร์ : อา... ไม่นะ ใครก็ได้ ช่วยปลุกข้าออกจากฝันร้ายนี้ที
ซีโร : นั่งลงซะ น้องสาวข้า ไม่มีที่ให้เจ้าหนีอีกแล้ว
ในที่สุดพวกซีโรก็สามารถกำจัดอาร์มารอสได้ มันตกลงสู่พื้นเบื้องล่าง พร้อมๆ กับที่ซีโรกระโดดลงบนดาดฟ้าเรือของโฟร์
ซีโร : หมดเวลาแล้ว โฟร์ ถ้าเจ้าอยากสั่งเสียอะไรก็พูดออกมาตอนนี้ซะ
เมื่อเห็นพี่สาวคนโตก้าวเท้าเข้ามาใกล้ หญิงสาวก็รีบวิ่งไปหลบเบื้องหลังสาวกของเธอ เดคาดัสกางมือของตนเองออก ขวางไม่ให้คนตรงหน้าเข้ามาทำร้ายเจ้านายของตนเองได้
เดคาดัส : ข่ะ ข้า จะไม่ยอมให้ท่านทำร้ายท่านโฟร์เด็ดขาด
ตอนนั้นเองจู่ๆ ดาบในมือของซีโรก็ตกลงกระทบพื้น เธอยกมือขึ้นกุมหัวด้วยท่าทางเจ็บปวดทรมาน ก่อนเอ่ยกับใครบางคนที่ไม่มีผู้ใดมองเห็น
ซีโร : ย่ะ หยุดนะ ข้าต้อง... ฆ่านาง อย่าออกมานะ ไม่ใช่ตอนนี้
หญิงสาวคู้ตัวลงต่ำท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจของโฟร์และสาวก แต่แล้วมือของซีโรก็ตกลงข้างตัว เธอค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองรอบตัวด้วยความสับสน แล้วยกมือขึ้นทาบหน้าอก
ซีโร : นี่ข้าอยู่ที่ไหนเหรอ
โฟร์ : ท่ะ ท่านพี่ซีโร
ซีโร : โฟร์ ทำไมข้าถึง... เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอ แล้วเราอยู่ที่ไหนกัน
เสียงอ่อนหวาน และท่าทีอ่อนโยนต่างจากปรกติจากหญิงสาวผมสีเงิน ทำให้โฟร์ยิ้มกว้าง เธอรีบออกมาจากด้านหลังเดคาดัส โดยไม่มองมือของเขาที่ยื่นมาพยายามห้ามปราบเธอแม้แต่น้อย คนเป็นน้องคว้ามือของพี่สาวขึ้นมากุมไว้ด้วยความยินดี และซีโรก็ยิ้มตอบให้เธอเช่นกัน
โฟร์ : ท่านพี่ซีโร ท่านกลับเป็นคนเดิมแล้วใช่ไหม นี่คือท่านจริงๆ ใช่ไหม
ซีโร : เกิดอะไรขึ้นเหรอ แล้วพี่น้องคนอื่นของพวกเราล่ะ พวกนางอยู่ที่ไหนกัน
โฟร์คว้าร่างซีโรเข้าสวมกอดแน่น พลางพูดปลอบประโลมอีกฝ่ายที่ไร้ความจำถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า ร่างของทั้งคู่ลงไปนั่งคุกเข่าอย่างหมดแรง
โฟร์ : ทุกอย่างไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ เราไม่ต้องสู้กันแล้ว ท่านพี่ซีโร ตอนนี้ท่านคงอยากเจอท่านพี่คนอื่นสินะ
ซีโร : แล้วทรี กับทู พวกนางอยู่ที่ไหนเหรอ
โฟร์ : ท่านพี่ทรีอยู่ที่ดินแดนแห่งป่า ส่วนท่านพี่ทูอยู่ที่ดินแดนแห่งทราย พวกนางทั้งสองคน...
ยังไม่ทันเอ่ยจบ อะไรบางอย่างก็แทงเข้าใส่ท้องของโฟร์ มือของเธอค่อยๆ ผละออกจากหญิงสาวตรงหน้าซึ่งหันมามองเธอด้วยความเย็นชา
ซีโร : ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะ
โฟร์ : ม่ะ ไม่นะ ท่านพี่... กลับเป็นคนเดิมแล้ว... ไม่ใช่เหรอ...
โฟร์ลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก ดาบของพี่สาวปักอยู่กลางลำตัว เธอส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดขณะพยายามถอยห่างจากอีกฝ่าย ซีโรกระชากอาวุธของเธอกลับออกมา ก่อนจะใช้มันฟันหญิงสาวผมสีน้ำตาลไม่ยั้ง
ซีโร : ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าเจ้าจะหลงกลงี่เง่าแบบนี้ เจ้าคิดจริงๆ เหรอว่าข้าจะมีหลายบุคลิค เจ้าคนปัญญาอ่อนเอ้ย!!
โฟร์ล้มลงนอนจมกองเลือด เสียงร้องด้วยความทรมานหยุดลงพร้อมร่างที่แน่นิ่ง ไอสีดำของพลังของเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงลอยออกมาจากตัวของเธอ เมื่อเห็นผู้เป็นนายสิ้นชีวิต เดคาดัสก็ทำอะไรไม่ถูก เขาหันมามองหญิงสาวผมสีเงิน ก่อนตัดสินใจคุกเข่าต่อหน้าเธอ
เดคาดัส : ได้โปรดฆ่าข้าด้วยเถอะ
ซีโร : ข้าฆ่าน้องสาวของข้า ส่วนผู้ชายของพวกนางข้าจะเอามาเป็นของตัวเอง ไปทำความสะอาดร่างกายของเจ้าทั้งข้างหน้าข้างหลังซะ แล้วคืนนี้มาเจอข้าด้วย
เดคาดัส : ทั้งข้างหน้าข้างหลังเหรอ...
ซีโรยกดาบในมือขึ้นชี้หน้าของชายตรงหน้าที่ก้มหน้าลงกับพื้น ความโหดร้ายที่ได้รับช่วยสร้างความหฤหรรษ์บางอย่างในใจ ทว่ามันกลับขัดกับความเศร้าโศกที่สูญเสียเจ้านายคนเก่าจนเขาสับสนไปหมด
ซีโร : ต่อไปเป็นใครดีล่ะ ทรีดีหรือเปล่า ตอนนี้เจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงก็ถูกจัดการไปแล้วสองคน ยังเหลืออีก 3 คนสินะ
ซีโรให้มิไฮล์ลงไปรับดีโตขึ้นมาบนเรือเหาะ เมื่อทั้งสองกลับมา เธอก็สังเกตว่าเขา กับปีกของมังกรน้อยขยายใหญ่ขึ้นกว่าเดิม และมันก็สร้างความตื่นเต้นให้สองคู่หูมาก
ซีโร : เดี๋ยวก่อนนะ เจ้าโง่ มานี่หน่อยสิ
มิไฮล์ : ห่ะ?
ซีโร : เจ้าดู... เปลี่ยนไปจากก่อนหน้านี้หรือเปล่า
มิไฮล์ : เปลี่ยนไปเหรอ หวา นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย
ซีโร : ว้าว
มิไฮล์ : ว้าววว
ซีโร : ว้าวววววว
เกร็ดความรู้
- สำหรับผู้ที่สงสัยว่าตกลงแล้วโฟร์หน้าเนื้อใจเสืออย่างที่ซีโรว่าอย่างไร ใน DLC ของเธอมีคำตอบ โฟร์เป็นคนที่ต้องการให้ทุกอย่างหมุนรอบตัวเอง คิดว่าตนเป็นสาวพรหมจรรย์ผู้สูงศักดิ์ สง่างาม รักความถูกต้อง และมีเกียรติ เพราะฉะนั้นผู้ใดที่เห็นต่างจากเธอ คนๆ นั้นย่อมเป็นคนชั่ว ไม่ขอนับเป็นมนุษย์ โฟร์สามารถทำร้ายทุกคนที่ไม่ยอมรับความคิดของเธอ โดยปากก็พูดตัดพ้อไปด้วยว่าทำไมทุกคนไม่เข้าใจเธอ และเธอก็แค่หยิบยื่นสิ่งที่ดีที่สุดในทุกฝ่ายเท่านั้นเอง
- คนที่โฟร์ให้ความเคารพมีแค่ซีโร และวันเท่านั้น
- เดคาดัสยอมรับใช้โฟร์เพราะเขาเป็นมาโซคิสม์ตัวพ่อ พอเจ้านายทำอะไรร้ายๆ จนเขารู้สึกแย่ก็ฟิน เธอไม่ยอมให้แตะต้องก็ฟิน ในขณะเดียวกันโฟร์ก็เลือกเขาเป็นสาวกเพราะนิสัยของอีกฝ่ายที่ทำให้เธอรู้สึกว่าตนมีอำนาจนั่นเอง
- ในเวอร์ชันภาษาญี่ปุ่นเดคาดัสมีชื่อว่าเดคาด
- สาวพรหมจรรย์เหล็ก คือ เครื่องทรมานของยุโรปยุคกลาง มีลักษณะเป็นกล่องเหล็กคล้ายโลงศพ ส่วนศีรษะทำเป็นใบหน้าของสตรี ข้างในมีหนามเหล็กมากมาย หากปิดตู้ หนามก็จะทิ่มแทงคนที่อยู่ข้างในจนเลือดออกเสียชีวิตในที่สุด
- ในบทความนี้หากใครดูจากเวอร์ชันภาษาอังกฤษ อาจจะเห็นว่ามีบางจุดที่แปลไม่ตรงนัก อันนี้เป็นเพราะพอเทียบกับเวอร์ชันภาษาญี่ปุ่นแล้ว สำนวนบางอย่างของภาษาญี่ปุ่นเข้ากับภาษาไทยมากกว่าอังกฤษ จึงเลือกใช้อันที่เข้ากันที่สุดค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น