บันทึกกาวๆ ของปลาดาวพ้นน้ำ

คำเตือน ตอนนี้มีบทพูดค่อนข้างติดเรท และมีถ้อยคำรุนแรง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ แม้มังกรน้อยจะงอแงตามประสาเด็ก จนหญิงสาวต้องคอยดุ ซีโรกับมิไฮล์ก็บุกเข้าไปในวิหารแห่งทะเล เมื่อเห็นผู้บุกรุกทหารกล้าต่างรีบเข้ามาหมายกำจัดทั้งสองเพื่อปกป้องนายหญิงของพวกเขา แต่ฝีมือที่แตกต่างก็ทำให้พวกเขาบางคนถึงกับร้องด้วยความหวาดกลัว บ้างพยายามหลอกตนเองให้หาญกล้าที่จะเผชิญหน้าเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงตรงหน้า ทว่าความตั้งใจกับสัญชาตญาณการเอาตัวรอดกลับตีกันจนทำอะไรไม่ถูก และแม้จะนำเรือช่วยยิงปืนใหญ่สนับสนุน มันก็ยังไม่อาจทำอะไรหญิงสาวได้แม้แต่น้อย ซีโรไม่ปล่อยให้ผู้ใดรอดพ้นจากคมดาบ เธอวิ่งตามหาน้องสาวคนเล็กไปทั่วทั้งวิหาร แต่จำนวนเรือรบที่มากขึ้นเรื่อยๆ จนมิไฮล์ไม่อาจจัดการได้ตามลำพัง ทำให้หญิงสาวตัดสินใจขึ้นขี่มังกรน้อยเพื่อช่วยวางแผนการโจมตี แต่ก็อดบ่นถึงกลิ่นเหม็นคาวปลาบนตัวของมันไม่ได้ ด้วยความที่มีประสบการณ์ไม่มากนัก ทำให้แม้ซีโรจะช่วยบอกจุดที่ควรโจมตีให้ มิไฮล์ก็ยังทำงานได้ไม่ตรงใจ จนเธอเผลอเปรียบเทียบกับมิเคล เมื่อได้ยินดังนั้นมังกรน้อยจึงพยายามมากขึ้นเพื่อให้หญิงสาวยอมรับ และเรียกชื่อจริ

ปาสคาลแยกทางกับ 2B ที่หน้าโรงงานร้างเพื่อกลับหมู่บ้านของตัวเอง หลังจากที่เขาบินจากไปได้ไม่นาน แอนดรอยด์สาวก็ได้รับการติดต่อการกลุ่มผู้ต่อต้าน สัญญาณที่ส่งมาไม่ชัดเจนจนเสียงขาดๆ หายๆ กระนั้นก็พอจับใจความว่าอีกฝ่ายต้องกำลังเผชิญหน้ากับศัตรู และต้องการกำลังเสริมเร่งด่วนที่สุด โยร์ฮาสาวจึงรีบกลับไปที่ค่าย ทว่าระหว่างทางเธอกลับพบหุ่นยนต์จำนวนมากถูกยานขนส่งปล่อยลงมาขัดขวาง หลังจากที่ต้องเสียเวลาต่อสู้ และหาทางเลี่ยงพวกมันอยู่นาน 2B ก็มาถึงค่ายกลุ่มต่อต้านจนได้ เพียงมาถึงหน้าทางเข้าค่าย แอนดรอยด์สาวก็พบกับสมาชิกหน่วยต่อต้านที่วิ่งออกมาด้วยความแตกตื่น พวกเขาต่างร้องขอความช่วยเหลือ พลางตะโกนบอกให้เพื่อนร่วมกลุ่มหนีตายออกมา 2B วิ่งสวนอีกฝ่ายเข้าไปในค่ายที่ตอนนี้กำลังโกลาหลราวกลียุค ไฟลุกไหม้เครื่องใช้ต่างๆ พวกหุ่นยนต์ดวงตาสีแดงจับแอนดรอยด์กินต่อหน้าต่อตา เสียงหวีดร้องดังไปทั่ว แม้จะตกใจ และไม่เข้าใจกับเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า โยร์ฮาก็จับอาวุธของตนเข้าโจมตีศัตรูที่กรูเข้ามาหาเธอ 2B บุกเข้าไปในค่ายจนกระทั่งได้พบกับแอนเนโมเน และสมาชิกกลุ่มต่อต้านที่ยังรอดชีวิต ดูเหมือนว่าพวกหุ่นยนต์จ

บนโลกที่ถูกปกป้องด้วยพลังแห่งเสียงเพลง ที่นี่ประกอบขึ้นด้วยดินแดนแห่งทะเล ดินแดนแห่งภูเขา ดินแดนแห่งป่า ดินแดนแห่งทราย และเมืองมหาวิหาร แต่กลับมีเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงคนหนึ่งในหมู่พี่น้อง 6 คน ที่คิดหาหนทางที่จะนำมาซึ่งหายนะของโลก และเธอไม่มีวันหยุดจนกว่าน้องสาวทุกคนของเธอจะหมดลมหายใจ เจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงกบฏคนนั้นมีชื่อว่าซีโร หลังจากเหตุการณ์ที่เธอบุกเมืองมหาวิหารสังหารน้องสาวทั้ง 5 ของตน เธอก็ได้หลบหนีมายังเมืองแห่งทะเลเพื่อพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ รอคอยที่จะได้กลับไปทำตามเป้าหมาย "ไม่ ไม่นะ ขอร้องล่ะ... อย่าทิ้งข้าไป มิเคล!" ซีโรลุกพรวดขึ้นจากเตียง หอบหายใจขณะมองไปรอบห้อง ก่อนรู้ตัวว่าตนเพิ่งตื่นจากฝันร้าย แม้เวลาจะผ่านมาแล้วถึง 1 ปี เธอก็ยังคงฝันถึงมังกรคู่หูที่เสียชีวิตไป หญิงสาวเรียกชื่อของเขาด้วยความเจ็บปวด เมื่อมองใบหน้าของตัวเองที่สะท้อนบนกระจก เธอก็เห็นดอกไม้สวยงามงอกออกมาจากดวงตาข้างขวา มันคือสิ่งที่คอยทำร้ายเธอมาตลอด แต่แม้เธอจะเจ็บมากเพียงใด ซีโรก็พบว่าตนไม่สามารถทำลายมันได้ เธอตัดสินใจเดินไปหยิบแขนปลอมขึ้นมาใส่ยังบริเวณที่เคยเป็นแขนซ้ายของตัวเอง ได้เวลาแห

2B พา 9S ที่ได้รับบาดเจ็บกลับมายังค่ายของกลุ่มต่อต้าน เพื่อขอความช่วยเหลือในการส่งตัวเขากลับไปรักษาตัวบนบังเกอร์ ท่าทางที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงของแอนดรอยด์สาว ทำให้แอนเนโมเนอดแซวถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ได้ แล้วหัวหน้ากลุ่มต่อต้านก็แจ้งให้โยร์ฮาทราบว่าผู้บัญชาการฝากบอกว่าต้องการให้เธอติดต่อกลับด่วนที่สุด เมื่อ 2B ทำการติดต่อไป ผู้บัญชาการก็เอ่ยชื่นชมที่เธอสามารถจัดการกับอดัมได้ ชัยชนะในครั้งนี้ทำให้ทางฐานทราบว่าเขาเป็นผู้รับผิดชอบดูแลหุ่นยนต์ที่เชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายถึงครึ่งหนึ่ง และการที่ระบบเครือข่ายต้องขาดเขาไปก็ย่อมทำให้พวกหุ่นยนต์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ "ตอนนี้ 9S เป็นยังไงบ้างเหรอคะ" โยร์ฮาสาวที่แทบไม่สนใจคำชมเชยที่ได้รับเอ่ยถามหัวหน้าของเธอถึงคู่หูของเธอ เมื่อได้ยินเช่นนั้นผู้บัญชาการก็บอกให้เธอสบายใจได้ เพราะเขากำลังได้รับการปรับปรุงดูแลเป็นอย่างดี และอีกไม่นานคงกลับมาร่วมงานกับแอนดรอยด์สาวได้เช่นเดิม แต่ระหว่างนั้นเธอต้องการให้ 2B ไปเก็บรวบรวมองค์ความรู้ของพวกหุ่นยนต์ และหากพบเห็นหุ่นยนต์ที่มีพฤติกรรมแปลกผิดปรกติก็ให้ส่งรายงานให้เธอ เพราะถึงแม้ว่าฐ

ถึงจะได้รับการอนุมัติให้ออกค้นหา 9S แต่สัญญานที่อ่อนลงจากการต่อสู้ก็ทำให้ POD 042 ไม่สามารถตรวจหาตำแหน่งของสมาชิกหน่วยโยร์ฮา ยิ่งเมื่อเห็นร่างของเพื่อนร่วมหน่วยที่เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ ความกังวลใจก็ยิ่งก่อตัวในใจของ 2B เธอจึงรีบเดินทางไปยังค่ายกลุ่มต่อต้านเพื่อขอความช่วยเหลืออีกฝ่ายในการจัดหาสแกนเนอร์แบบไดนามิกเสริมให้ POD สามารถตรวจหาสัญญาณของ Black Box ได้ เมื่อได้ทราบเรื่อง แอนเนโมเนแนะนำให้แอนดรอยด์สาวไปสอบถามแอนดรอยด์ฝาแฝดผมสีแดงที่นั่งอยู่ไม่ห่างไปนัก แต่ก่อนที่โยร์ฮาจะผละไป หัวหน้าค่ายกลับมีท่าทีเหมือนต้องการบอกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับทั้งสอง แต่สุดท้ายเธอก็เปลี่ยนใจเลือกที่จะเก็บคำเหล่านั้นไว้กับตัว "เธอต้องการอะไร" "ไม่เอาน่า เดโวลา อย่าหาเรื่องเขาสิ" "เธอเองก็อย่าเที่ยวเชื่อใจคนไม่มีหัวนอนปลายเท้าไปซะทุกคนสิ" "ต้องขอโทษแทนเธอด้วยนะคะ คุณมีอะไรให้พวกเราช่วยหรือเปล่า" เพียงแค่ก้าวเท้าเข้าใกล้ แอนดรอยด์ผมหนาหยักศกก็เอ่ยถามเสียงแข็งอย่างไม่เป็นมิตร จนฝาแฝดของเธอผู้มีผมเรียบตรงต้องเอ่ยปราม และสอบถามถึงสาเหตุที่โยร์ฮามาพบพวกเธอ

ขอเปลี่ยนบรรยากาศมาแปลเกมอื่นที่อยู่ในจักรวาลเดียวกัน และเป็นจุดเริ่มต้นของ NieR ทั้งสองภาคบ้าง Drag on Dragoon 3 หรือ Drakengard 3 เป็นเกมที่ออกมาเมื่อปี 2013 สำหรับเครื่อง PS3 และไม่ต่างจาก NieR ภาคแรกที่ได้รับการยกย่องเรื่องความแย่ของภาพ ฉากเปิดเกมที่ดูสวยงาม เอาจริงๆ ก็มีฉากนั้นล่ะที่งานกริบ (ฮา) ส่วนเนื้อเรื่องโดยส่วนตัวคิดว่าเกมนี้เนื้อหาหนักกว่า NieR มาก มีประเด็นหมิ่นเหม่ศีลธรรม และจริยธรรมอันดีอยู่มากมาย ในภาคนี้เองก็มีประเด็นเรื่องเกี่ยวกับเพศหลายจุดเลยทีเดียว (ที่จริงเรียกว่าเป็นใจความหลักเลยก็ได้) ถึงจะมีเลข 3 แปะท้าย และถูกสร้างขึ้นเป็นภาคล่าสุดในเวลานี้ แต่ Drag on Dragoon 3 มีเนื้อเรื่องเกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ใน Drag on Dragoon ภาคแรก จึงเรียกได้ว่าเป็นปฐมบทของจักรวาลเกมนี้เลย โดยในภาคนี้จะมีฉากจบทั้งหมด 4 แบบ ผู้เล่นจำเป็นต้องเล่นอย่างต่ำ 4 รอบเพื่อให้ได้ฉากจบครบและเข้าใจเนื้อเรื่องได้ทั้งหมด แต่ฉากจบที่นำไปสู่เหตุการณ์ใน Drag on Dragoon ภาคแรกจะเป็นเรื่องราวต่อจากฉากจบแบบ A เรื่องราวของ Drag on Dragoon 3 เริ่มต้นที่ตำนานซึ่งกำลังจะถูกเล่าขาน นานมาแล้วในยุคที่มีแต่

ที่หมู่บ้านของพวกหุ่นยนต์ 9S ส่งข้อมูลของ A2 ให้ปาสคาลเพื่อสอบถามว่าเขาพอรู้เรื่องของอีกฝ่ายหรือไม่ แม้หุ่นยนต์จะมีข้อมูลว่าเธอเป็นบุคคลอันตราย แต่การที่แอนดรอยด์สาวไม่เคยมาที่หมู่บ้านก็ทำให้เขาเองก็ไม่ทราบข้อมูลไปมากกว่านี้เช่นกัน เมื่อไม่ได้ข้อมูลเพิ่มเติม โยร์ฮาจึงกลับไปยังค่ายกลุ่มต่อต้านเพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสาร และเติมอุปกรณ์จำเป็นสำหรับการต่อสู้ แต่เมื่อถึงที่หมาย 2B ก็ตำหนิที่คู่หูของเธอมอบข้อมูลของ A2 ให้หุ่นยนต์โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากเบื้องบน กระนั้นก็เสริมว่าตนไม่ได้รังเกียจที่เขาเป็นเช่นนี้ และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอก็คิดว่าจะร่วมผ่านมันไปได้ แต่ก็ไม่ลืมย้ำเตือนกับแอนดรอยด์หนุ่มว่าหุ่นยนต์คือศัตรูที่ไม่ควรให้ความเชื่อใจ ทั้งสองเข้าไปพูดคุยกับหัวหน้ากลุ่มต่อต้าน แอนเนโมเนขอให้พวกเธอช่วยคุ้มกันกลุ่มต่อต้านที่จะไปทำงานในเมืองที่จมน้ำบริเวณชายฝั่ง เนื่องจากงานติดตั้งจรวดมิสไซส์สำหรับต่อสู้กับหุ่นยนต์เป็นงานอันตราย หากถูกโจมตีในระหว่างนั้นอาจเกิดความเสียหายใหญ่หลวงจากแรงระเบิดของมัน แม้จะแอบคิดว่ากลุ่มต่อต้านเห็นพวกเธอเป็นพนักงานผู้น้อยที่จะสั่งให้ทำงานอะไรก็ได้ แต่ 2B และ

หลังจากได้รับคำสั่งใหม่ 2B และ 9S ก็กลับสู่พื้นโลกเพื่อพบกับปาสคาล เมื่อรู้ว่าตนสามารถให้ช่วยเหลือแอนดรอยด์โยร์ฮาได้ หุ่นยนต์หัวหน้าหมู่บ้านก็ยินดีให้ความร่วมมือ ปาสคาลเล่าว่าตัวเขาและลูกบ้านมีชีวิตมาแล้วหลายร้อยปี ต่างสูญเสียพวกพ้องไปครั้งแล้วครั้งเล่า เขาไม่เคยหวาดกลัวในความตายของเพื่อนๆ แต่สิ่งที่เขากลัวมาที่สุดคือการต้องคอยมองคนที่เขาให้ความสำคัญจากไปทีละคน ขณะที่เขายังคงมีชีวิตอยู่ และนั่นทำให้เขาคิดได้ว่าการสู้รบนี้ควรจะยุติเสียที ที่สำคัญเอเลี่ยนผู้ที่สร้างพวกเขาขึ้นมาก็ไม่เคยส่งคำสั่งใหม่ให้พวกเขาเลย พวกเขาจึงไม่มีเหตุผลใดที่จะต่อสู้อีกต่อไป 2B ลองสอบถามปาสคาลว่านอกจากพวกเขาแล้วยังมีหุ่นยนต์ที่ตัดการเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายอีกหรือเปล่า เขาจึงบอกว่าหุ่นยนต์ที่ขับร้องเพลงในสวนสนุก ซึ่งพวก 2B จัดการไปก่อนหน้านี้ก็น่าจะไม่ได้เชื่อมต่อกับระบบเช่นกัน "อ๋อ แล้วก็ยังมีพวกที่อยู่ในอาณาจักรแห่งป่าด้วย แต่ว่า..." จู่ๆ หุ่นยนต์ก็มีท่าทีกระอักกระอ่วน แต่สุดท้ายก็ยอมบอกว่าในป่าไม่ไกลจากที่นี่มากนัก มีหุ่นยนต์กลุ่มหนึ่งกำลังพยายามสร้างประเทศอยู่ แต่อีกฝ่ายก็รังเกียจคนจากภา

2B และ 9S เดินทางกลับมายังค่ายกลุ่มต่อต้านและแจ้งแอนเนโมเนเกี่ยวกับเรื่องที่ปาสคาลอ้างว่าพวกเขากับกลุ่มต่อต้านเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน เธอจึงยืนยันว่าเป็นความจริง ทั้งพวกเธอยังมีการค้าขายแลกเปลี่ยนกันด้วย และเมื่อโยร์ฮาได้มอบของที่หุ่นยนต์ฝากมาให้ แอนเนโมเนจึงฝากของของพวกตนไปให้หุ่นยนต์บ้าง นอกจากนี้แอนดรอยด์สาวยังได้จัดเตรียมห้องพักในค่ายให้กับสมาชิกหน่วยโยร์ฮา คล้ายบอกว่าพวกเธอยอมรับอีกฝ่ายเป็นพวกพ้องแล้ว โยร์ฮากลับมายังหมู่บ้านของหุ่นยนต์อีกครั้งเพื่อส่งของที่ได้รับการไหว้วานจากกลุ่มต่อต้าน เมื่อเห็นว่าพวกตนกับแอนดรอยด์สามารถช่วยเหลือพึ่งพากันได้โดยไร้ปัญหา ปาสคาลก็อดแสดงความยินดีออกมาไม่ได้ และหวังว่าทั้งสองเผ่าพันธ์จะสามารถใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสันติ แต่ 9S กลับไม่เห็นด้วยกับความคิดของอีกฝ่าย ปาสคาลจึงเสนอให้ทั้งสองลองพูดคุยทำความรู้จักกับหุ่นยนต์ภายในหมู่บ้าน เพื่อที่จะสามารถเข้าใจกันและกันได้มากยิ่งขึ้น ทันใดนั้นเสียงระเบิดก็ดังกึกก้องขึ้นสร้างความตื่นตระหนกแก่เหล่าหุ่นยนต์เป็นอย่างมาก โยร์ฮาได้รับการติดต่อจากบังเกอร์ ซึ่งแจ้งว่าพบหุ่นยนต์โกไลแอทขึ้นบริเวณ City Ruin ใกล้ค่าย