Spoil NieR Automata Part 4 สวนสนุก


สมาชิกหน่วยโยร์ฮาที่ถูกส่งมาปฏิบัติภารกิจบนพื้นโลกส่วนหนึ่งได้ขาดการติดต่อกับบังเกอร์ ทว่าสัญญาณจาก Black Box ก็ทำให้ทางฐานทราบว่าพวกเขายังคงมีชีวิตอยู่ ผู้บัญชาการจึงมีคำสั่งให้สมาชิกหน่วยที่เหลือทุกคนทำการค้นหาพวกเขา เมื่อได้ยินดังนั้น 2B จึงนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้สมาชิกกลุ่มต่อต้านก็เคยเอ่ยถึงเรื่องการหายตัวไปของแอนดรอยด์ในกลุ่มเช่นกัน เธอและ 9S คู่หู รีบเดินทางไปสืบเรื่องราวตามพิกัดที่ได้รับข้อมูล แต่ด้วยความที่เส้นทางถูกตัดขาดไป ทำให้ทั้งสองต้องเดินทางผ่านท่อน้ำใต้ดิน และเมื่อพวกเธอปีนบันไดขึ้นมายังพื้น ภาพของสวนสนุกที่จุดพลุ พร้อมแสงสีมากมายก็ปรากฏต่อสายตา

2B และ 9S เข้าไปสำรวจภายในสวนสนุกด้วยความงุนงง ภายในนั้นเต็มไปด้วยหุ่นยนต์ในชุดตัวตลก และมาสคอตต่างๆ กำลังเดินไปมาราวกับพนักงานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสนุกสนานพร้อมมอบรอยยิ้มให้กับผู้พบเจอ เมื่อเห็นแอนดรอยด์พวกมันก็แสดงท่าทีต้อนรับเป็นอย่างดี ทั้งยังเชิญชวนให้เข้าไปเล่นเครื่องเล่นต่างๆ เพื่อไม่ให้เสียเวลา โยร์ฮาทั้งสองจึงออกค้นหาเส้นทางไปยังพิกัดที่ได้รับโดยไม่สนใจพวกหุ่นยนต์

ขณะที่กำลังโดยสารรถไฟเหาะนั่นเอง 9S ได้บอกให้ 2B เรียกเขาว่า Nines เพื่อความสนิทสนม แต่ถึงแม้จะตอบรับ หญิงสาวก็ยังไม่เรียกชื่อเล่นตามที่อีกฝ่ายร้องขอ ทั้งสองกระโดดลงบนอาคารหลังหนึ่งซึ่งเป็นเป้าหมาย พวกเขาตรวจจับสัญญาณของสมาชิกกลุ่มต่อต้านจำนวนมากได้ในบริเวณนั้น ทว่ากลับไม่พบผู้ใด จึงตัดสินใจกระโดดทะลุกระจกลงไปยังชั้นล่างของอาคารซึ่งเป็นโรงละคร

ไม่ทันที่โยร์ฮาจะสำรวจพื้นที่ จู่ๆ เสียงอ๊อดเริ่มต้นการแสดงก็ดังขึ้นพร้อมกับผ้าม่านสีแดงที่เปิดออก บนเวทีปรากฏร่างของหุ่นยนต์ขนาดใหญ่ที่แต่งตัวคล้ายหญิงสาวส่วมกระโปรงสุ่มยืนหันหลังอยู่ และเมื่อมันหันมา 2B และ 9S ก็เห็นร่างไร้ชีวิตมากมายของแอนดรอยด์ถูกห้อยบนตัวของมันราวเครื่องประดับ หุ่นยนต์กางมือออกและส่งเสียงร้องราวประกาศเริ่มการแสดง แสงบทเวทีสาดส่องไปยังนักแสดงนำ ก่อนที่ร่างจักรกลจะเคลื่อนตัวลงจากเวทีโจมตีแอนดรอยด์ตรงหน้า


2B และ 9S เข้าต่อกรกับอีกฝ่ายที่ส่งเสียงคล้ายกำลังหัวเราะอย่างสนุกสนาน หลังจากต่อสู้อย่างดุเดือดพักหนึ่ง หุ่นยนต์ก็กลับขึ้นไปบนเวที ก่อนปล่อยสัญญาณเข้าใส่คู่ต่อสู้เพื่อเจาะระบบ สุดท้ายแม้จะป้องกันระบบของตัวเองไว้ได้ แอนดรอยด์สาวก็ได้รับบาดเจ็บ กระนั้นหุ่นยนต์ก็หยุดการเคลื่อนไหวไปเช่นกัน

"สวย... สวย... ฉันต้องสวยให้ได้!"

หุ่นยนต์เปล่งเสียงขณะเริ่มขยับร่างกายอีกครั้ง แล้วร่างที่ถูกตรึงกับไม้ก็ร่วงหล่นลงมาทั่วบริเวณ มันคือแอนดรอยด์กลุ่มต่อต้านและหน่วยโยร์ฮาที่หายสาบสูญไปนั่นเอง พวกเธอไม่ได้ถูกฆ่า แต่ถูกหุ่นยนต์หญิงสาวเปลี่ยนแปลงให้กลายเป็นอาวุธ ผ้าม่านบนเวทีปิดอีกครั้ง แล้วแอนดรอยด์ที่สูญเสียตัวตนไปหมดสิ้นแล้วก็เริ่มโจมตี 2B และ 9S ซึ่งต้องจำใจกำจัดพวกเดียวกัน

เมื่อโยร์ฮาทั้งสองสามารถทำลายร่างของแอนดรอยด์ที่ถูกดัดแปลงได้จนหมดแล้ว หุ่นยนต์ก็ลงจากเวทีอีกครั้ง หลังจากถูกอีกฝ่ายพยายามเจาะระบบหลายครั้ง 9S จึงตั้งใจใช้ความสามารถในฐานะแอนดรอยด์สแกนเนอร์เจาะระบบของอีกฝ่ายกลับบ้าง

"สวย... มาก... กว่านี้... สวย... มาก... กว่านี้... ฉัน... ต้อง... สวย... มาก... กว่านี้... ฉัน... ต้อง... สวย... มาก... กว่านี้... มากกว่านี้... มากกว่านี้... มากกว่านี้..."

หุ่นยนต์พูดคำเดิมซ้ำไปมาราวเสียสติ ขณะเดียวกันโยร์ฮาก็ต้องรีบหาวิธีกำจัดอีกฝ่ายก่อนที่ข้อมูลความทรงจำจะเสียหายจากการถูกเจาะระบบ ในที่สุดพวกเขาก็ทำให้ศัตรูอ่อนแรงได้ 2B สั่งให้ POD 042 ใช้ระบบยิ่งลำแสงโจมตีใส่อีกฝ่าย หุ่นยนต์กรีดร้อง พร้อมกับที่ความทรงจำสุดท้ายที่มันอยู่กับหุ่นยนต์ใส่หมวกทรงสูงจะถูกส่งผ่านมาถึงแอนดรอยด์

โยร์ฮามองเศษเหล็กที่เคยเป็นหุ่นยนต์หญิงสาว ก่อนที่ 2B จะเอ่ยขอบคุณ 9S ที่ช่วยสนับสนุนเธอ และเข้าไปดูร่างของแอนดรอย์ที่ศัตรูใช้ประดับร่างกาย แต่ก็พบว่าพวกเธอถูกเผาไหม้จนเสียชีวิตทั้งหมดแล้ว ทั้งสองจึงทำการถอนกำลัง

"นี่ 2B เจ้าหุ่นยนต์นั่นพูดเรื่องอะไรแปลกๆ ใช่ไหม เหมือนว่าพวกมันจะมีความรู้สึก..."
"พวกหุ่นยนต์ไม่มีความรู้สึกหรอก นายเป็นคนพูดอย่างนั้นเองนี่"

9S ที่เอ่ยถามเพื่อนร่วมหน่วยได้รับคำตอบเย็นชากลับมา แต่มันก็เป็นความจริงที่แอนดรอยด์หนุ่มไม่อาจปฏิเสธ เมื่อทั้งคู่เดินทางออกมาจนถึงหน้าประตูสวนสนุก ก็ได้พบหุ่นยนต์ตัวหนึ่งขวางทางไว้ แต่ก่อนที่แอนดรอยด์จะกำจัดมัน หุ่นยนต์ก็รีบชิงเอ่ยขึ้นมาว่าตนไม่ใช่ศัตรู และเมื่อโยร์ฮาสังเกตอีกฝ่ายอีกครั้งก็พบว่าด้านหลังของมันมีธงสีขาวโบกไสวอยู่

หุ่นยนต์กล่าวขอบคุณทั้งสองที่ช่วยจัดการจักรกลวิปริต ซึ่งนั่นส่งผลให้พวกมันปลอดภัยด้วยเช่นกัน และเพื่อเป็นการตอบแทน มันจึงเชิญให้แอนดรอยด์ไปยังหมู่บ้านของพวกมัน แม้ 9S จะรู้สึกระแวงเกรงว่านี่จะเป็นกับดัก และควรหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อน แต่สุดท้ายพวกเขาก็ตัดสินใจเดินตามอีกฝ่ายไป

ระหว่างทาง 2B สังเกตเห็นกลุ่มควันจากการเคลื่อนที่ของอะไรบางอย่างกำลังมุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า แอนดรอยด์สแกนเนอร์จึงอธิบายนั่นคือกระสวยที่คอยส่งเสบียงและสิ่งจำเป็นไปให้มนุษย์บนดวงจันทร์ และแอนดรอยด์ที่บังเกอร์ ซึ่งนั่นทำให้โยร์ฮาสาวยิ่งเกิดความสงสัยว่าหากพื้นโลกสามารถส่งของขึ้นไปอวกาศได้ง่ายดายเช่นนี้ เหตุใดพวกหุ่นยนต์หรือเอเลี่ยนจึงไม่โจมตีบังเกอร์โดยตรง ทว่า 9S ก็ไม่รู้คำตอบนั้นเช่นกัน

ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงหมู่บ้านของหุ่นยนต์ที่สร้างขึ้นบนต้นไม้ใหญ่ เมื่อเห็นผู้มาเยือน เหล่าเครื่องจักรเจ้าบ้านต่างยกธงขาวในมือขึ้นโบกประกาศว่าพวกตนไม่ต้องการการต่อสู้ 2B และ 9S เดินเข้าไปพบกับหุ่นยนต์เครื่องหนึ่งที่น่าจะเป็นผู้นำของชุมชนแห่งนี้ แล้วเขาก็แนะนำตัวว่าตนมีชื่อว่าปาสคาล

ปาสคาลแจ้งว่าเขาและลูกบ้านไม่ต้องการเป็นศัตรูกับแอนดรอยด์ พวกเขาไม่ต้องอะไรมากไปกว่าการได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสันติ ทั้งยังเสริมว่าตอนนี้พวกเขามีสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มต่อต้าน และเพื่อเป็นการพิสูจน์เขาก็ได้ฝากฟิลเตอร์เชื้อเพลิงไปให้แอนเนโมเน หัวหน้ากลุ่มต่อต้านจะได้ยืนยันว่าคำพูดของเขาเป็นความจริง โยร์ฮาจึงรับมันมาและสำรวจรอบหมู่บ้าน

หุ่นยนต์ในหมู่บ้านต่างแสดงตนว่าต้องการสันติเช่นที่ปาสคาลว่าไว้ เมื่อได้พูดคุย 2B และ 9S ก็พบว่าหุ่นยนต์ที่นี่ล้วนมีการแสดงอารมณ์ความรู้สึกไม่ต่างจากมนุษย์ ทั้งยังมีความสัมพันธ์ต่อกันที่หลากหลาย สร้างความประหลาดใจให้กับแอนดรอยด์มาก แต่ทั้งสองก็ได้แต่เก็บคำถามไว้ในใจและเดินทางกลับไปยังค่ายกลุ่มต่อต้านเพื่อพบแอนเนโมเน


เกร็ดความรู้
  • บอสหุ่นยนต์ในโรงละคร มีชื่อว่า Beauvoir ซึ่งได้มาจากชื่อของ Simone de Beauvoir นักปรัชญาหญิงชาวฝรั่งเศสที่มีแนวคิดแนวอัตถิภาวนิยม และสิทธิสตรี
  • ในเมืองของปาสคาล มีหุ่นยนต์ใส่หมวกทรงสูง ที่มีหุ่นยนต์หญิงชื่นชอบเขาหลายคน หุ่นยนต์คนนี้มีชื่อว่า Santre ซึ่งได้มาจากชื่อ Jean-Paul Sartre นักปรัชญาชาวฝรั่งเศส ผู้มีบทบาทสำคัญกับแนวคิดแนวอัตถิภาวนิยม (ที่หุ่นยนต์ทรงกลมข้างๆ บอกว่าเขาพูดไม่รู้เรื่อง เพราะว่า Santre ชวนคุยแต่เรื่องปรัชญาที่ค่อนข้างยากนั่นเอง) และตามข้อมูล Santre ค่อนข้างมีนิสัยเจ้าชู้
  • Santre ตัวจริง ได้คบหากับ Beauvoir อย่างเปิดเผยแต่ไม่ได้ระบุรูปแบบความสัมพันธ์ ทั้งคู่ไม่เคยเป็นคนรัก ไม่เคยแต่งงาน และไม่เคยอยู่บ้านหลังเดียวกัน ทั้งสองคอยช่วยสนับสนุนเป็นคู่คิดให้แก่กันและกันเรื่อยมาจนกระทั่งเสียชีวิตจากกันไป ศพของทั้งคู่ถูกฝังไว้เคียงข้างกันที่ Cimetière du Montparnasse ในปารีส
  • ส่วนตัวแล้วคิดว่าแนวคิดอัตถิภาวนิยมค่อนข้างตรงกับธีมของ NieR มาก โดยแนวคิดนี้ต้องการให้ผู้คนคิดแนวปรัชญาใหม่ๆ ออกมา เพราะเชื่อในความเป็นปัจเจกของแต่ละบุคคล เนื่องจากทุกคนมีประสบการณ์และสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนกัน จึงมีวิธีมองปัญหาและจัดการกับมันด้วยวิธีที่แตกต่าง ทุกคนมีอิสระภาพในการกระทำใดๆ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับและรับผิดชอบต่อการตัดสินใจนั้นๆ ของตนด้วย
  • งานประพันธ์ของ Santre มักมีเรื่องพฤติกรรมก้าวร้าวดั่งเดิมที่มนุษย์มีต่อมนุษย์ด้วยกัน โดยไม่คำนึงถึงศีลธรรม และเรื่องพวกนี้ถูกเน้นย้ำมาตั้งแต่ NieR ภาคแรก
  • ปาสคาล มีต้นแบบมาจาก Blaise Pascal ซึ่งส่วนมากเราจะรู้จักเขาในฐานะของนักคณิตศาสตร์ผู้คิดค้นทฤษฎีความดัน และสูญญากาศ แต่ในช่วงบั่นปลายของชีวิต ปาสคาลได้อุทิสตัวให้ตัวปรัชญาและศาสนามากกว่า
  • ปรัชญาที่โดดเด่นของปาสคาลมีชื่อว่า การเดิมพันของปาสคาล (Pascal's Wager) ซึ่งตั้งคำถามว่าเราสมควรเชื่อในพระเจ้าหรือไม่ ตามสรุปของเขาคือเราควรเชื่อในพระเจ้า เพราะแม้พระเจ้าไม่มีจริง เราก็ไม่เสียอะไร ขณะที่หากเราไม่เชื่อในพระเจ้า แล้วพระเจ้ามีจริง เราย่อมตกนรกหมกไหม้ แต่การวิเคราะห์ของปาลคาลนั้นมีคำตอบเพียง เชื่อ หรือ ไม่เชื่อ เท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงมนุษย์มีคำตอบมากกว่านั้น อย่างเช่นการเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอยู่ด้วย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Spoil NieR Automata Part 27 Ending E : the End of YoRHa และวิเคราะห์เนื้อเรื่องทั้งหมดตามใจฉัน

ผ้าปิดตาของ YoRHa