Spoil NieR Automata Part 2 กลุ่มต่อต้าน

หลังจากที่ 2B และ 9S ระเบิดตนเองไปพร้อมกับหุ่นยนต์โกไลแอท ข้อมูลของแอนดรอยด์สาวก็ถูกส่งกลับมายังบังเกอร์ แต่ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้สำรองข้อมูลช่วงนั้นไว้ ความทรงจำที่ถูกถ่ายโอนสู่ร่างกายใหม่กลับยังจำถึงนาทีก่อนร่างกายเดิมถูกทำลายได้ ทำให้ 2B รู้ว่า 9S ได้ช่วยบันทึกข้อมูลของเธอไว้ให้ หญิงสาวเดินสำรวจบริเวณห้องพักของทหารหน่วยโยร์ฮา และแล้วเธอก็ได้พบกับคนที่กำลังตามหาซึ่งเอ่ยทักทายก่อนอย่างคนอัธยาสัยดี

9S : ภารกิจสำเร็จสินะครับ ในเมื่อพวกโกไลแอทถูกทำลายทั้งหมดแล้ว พวกเราก็จะได้ทางเข้าสู่เขตของศัตรูมากขึ้นซะที ทีนี้เราคง...
2B : 9S ขอบคุณมากนะที่ช่วยอัพโหลดข้อมูลของฉันมาที่บังเกอร์

แอนดรอยด์สาวเอ่ยขัดอีกฝ่ายเพื่อบอกสิ่งที่อยู่เก็บในใจออกมา ทว่าเด็กหนุ่มกลับมีท่าทีงุนงง

9S : ผมทำอย่างนั้นด้วยเหรอ ขอโทษนะครับ ผมจำอะไรไม่ได้เลย บนโลกมีแบนวิธไม่มากเท่าไร บางทีตอนนั้นผมอาจมีเวลาสำรองข้อมูลความทรงจำให้คุณแค่คนเดียว  ตัวผมจำได้ถึงแค่ถึงช่วงก่อนหน้าที่จะได้พบคุณเท่านั้นเองครับ

คำตอบที่ได้รับทำให้สาวผมเงินอึ้งไปครู่หนึ่ง แต่ก็ตอบรับรู้พร้อมร่วมเอ่ยสรรเสริญมนุษยชาติกับชายตรงหน้าที่ไม่ใช่คนที่เธอร่วมต่อสู้บนโลก หรือคนที่บอกว่ามีความสุขที่ได้ร่วมงานกับเธออีกแล้ว แต่เมื่ออีกฝ่ายเดินสวนจากไป 2B ก็อดกำหมัดแน่นด้วยความคับแค้นใจในโชคชะตาไม่ได้ แม้ว่าเธอจะแน่นย้ำกับตัวเองเสมอว่าความรู้สึกเป็นสิ่งที่ไม่มีความจำเป็นก็ตาม

ณ ห้องบัญชาการของฐานบังเกอร์ สัญญาณติดต่อจากมนุษย์ผู้อยู่บนดวงจันทร์กำลังเอ่ยเน้นย้ำถึงเหตุผลการมีต้นตนของเหล่าแอนดรอยด์ ปี ค.ศ. 5012 มนุษยชาติต้องเผชิญกับวิกฤตการรุกรานจากมนุษย์ต่างดาว พวกมันสร้างกองทัพหุ่นยนต์เข้าโจมตีเจ้าบ้าน จนในที่สุดมนุษย์ก็ไม่อาจต้านทาน และต้องลี้ภัยไปยังดวงจันทร์

ในปี ค.ศ. 5204 มนุษย์ชาติก็ได้เริ่มส่งแอนดรอยด์ลงไปยังโลกเพื่อกอบกู้ดวงดาวของพวกเขาคืนมา แต่ด้วยจำนวนกำลังรบที่ต่างกันมาก ทำให้พวกเขาไม่สามารถขับไล่ผู้บุกรุกออกไปได้ พวกเขาจึงสร้างแอนดรอยด์หน่วยโยร์ฮาขึ้นมาเพื่อยุติสถานการณ์สู้รบที่ไร้ที่สิ้นสุดนี้ เมื่อได้ยินดังนั้นแอนดรอยด์โยร์ฮาทุกคนก็แสดงความภักดีต่อผู้สร้าง เอ่ยคำสรรเสริญอีกฝ่ายโดยพร้อมเพรียง

เพื่อความรุ่งเรืองของมนุษยชาติ

2B ได้รับการช่วยเหลือในการปรับสภาพร่างกายใหม่จาก 9S ที่อ้างว่าเขาได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการให้คอยเป็นผู้ช่วยตรวจสอบระบบให้หญิงสาวนับตั้งแต่วันนี้ หญิงสาวไม่ได้ปฏิเสธ ทั้งยังเอ่ยคำที่เธอเคยกล่าวกับอีกฝ่ายก่อนที่เขาจะสูญเสียข้อมูลความทรงจำไปว่าไม่ต้องเรียกเธอด้วยคำเป็นทางการ

สองคู่หูเข้าพบกับผู้บัญชาการที่มีคำสั่งให้พวกเธอกลับลงไปปฏิบัติภารกิจบนโลก โดยงานในครั้งนี้คือการติดต่อกับกลุ่มต่อต้าน กลุ่มของแอนดรอยด์ที่มีชีวิตรอดจากสงครามจักรกลครั้ง 8 ทว่าการที่ไม่สามารถติดต่อฐานได้มานานกว่า 200 ปี ทำให้พวกเขาตัดขาดความสัมพันธ์กับบังเกอร์ แม้ก่อนหน้านี้ฐานทัพจะทำการติดต่อกับพวกเขาได้แล้ว แต่ความสัมพันธ์ยังคงไม่ราบรื่นนัก กองกำลังโยร์ฮายังต้องพึ่งพากำลังจากหน่วยต่อต้าน ผู้บัญชาการจึงอยากให้ทั้งสองไปพบกับอีกฝ่ายเพื่อกระชับไมตรี

แม้จะอดสงสัยไม่ได้ว่าเหตุใดผู้บัญชาการถึงส่ง 2B ซึ่งเป็นแอนดรอยด์สำหรับต่อสู้มาร่วมงานเจรจาปรองดอง แต่ 9S ก็รู้สึกยินดีเกินกว่าจะติดใจ เพราะแอนดรอยด์ประเภทสแกนเนอร์อย่างเขามักได้รับงานที่ต้องทำคนเดียวเสมอ การได้มีคู่หูร่วมปฏิบัติงานทำให้เขารู้สึกสนุกเป็นอย่างมาก

ณ เมืองที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังของสิ่งก่อสร้างที่มนุษย์เคยสร้างไว้เมื่อหลายพันปีก่อน 2B และ 9S พร้อมด้วยหุ่นสนับสนุน POD 042 และ POD 153 ลงสู่พื้นโลกโดยสวัสดิภาพ พวกเธอเดินไปตามทางที่ได้รับข้อมูลไปเรื่อยๆ พร้อมทั้งต่อกรกับหุ่นยนต์ดวงตาสีแดงที่เข้ามาจู่โจมไปพลาง ในที่สุดโยร์ฮาก็สามารถมาถึงค่ายพักของหน่วยต่อต้าน

แอนดรอยด์หน่วยโยร์ฮาเข้าไปพบกับแอนดรอยด์หญิงคนหนึ่งที่น่าจะเป็นหัวหน้าของสถานที่แห่งนี้ ทว่าเมื่อเธอได้เห็นใบหน้าของ 2B เธอกลับแสดงท่าทีตกใจออกมา

"เธอคือ... หมายเลข 2 เหรอ"

อีกฝ่ายพึมพำ ก่อนเปลี่ยนท่าทีกลับเป็นปรกติอย่างรวดเร็ว และอธิบายว่าเธอได้รับการติดต่อเรื่องการมาของทั้งสองจากบังเกอร์แล้ว จึงพอเดาออกว่าทั้งสองคือใคร เธอแนะนำตัวว่าตนมีชื่อว่าแอนเนโมเน เป็นหัวหน้าของกลุ่มต่อต้าน และเธอกับสมาชิกกลุ่มก็ยินดีแลกเปลี่ยนข้อมูลที่มีเพื่อมิตรภาพอันดีกับโยร์ฮา เพราะแม้พวกเธอจะไม่ทำงานเพื่อมนุษย์แล้ว แต่การช่วยเหลืออีกฝ่ายจำกัดหุ่นยนต์ย่อมช่วยให้พวกเธอสามารถอาศัยบนโลกได้อย่างสงบสุขเช่นกัน

เมื่อได้ยินเช่นนั้น 2B และ 9S จึงเข้าไปพูดคุยทำความรู้จักกับสมาชิกกลุ่มต่อต้าน ซึ่งแต่ละคนก็มีงานให้ช่วยเหลือ และเพื่อเชื่อมสัมพันธ์โยร์ฮาก็ไม่ปฏิเสธคำร้องขอของพวกเขา

โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าเควสที่มีประเด็นน่าสนใจมี 2 เควส คือเควสของพ่อค้าอาวุธ และพ่อค้าอะไหล่ ในเควสของพ่อค้าอาวุธ เขากล่าวว่าตนสร้างอาวุธเพื่อปกป้องพวกพ้อง ทว่าตอนนี้กลับเริ่มสงสัยว่าสิ่งที่ตัวเองคิดคือสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะเวลาที่ผ่านมาเขาได้เห็นเพื่อนๆ หยิบอาวุธของเขาออกไปสู้รบเสียชีวิต จนอดคิดไม่ได้ว่าบางทีมันอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เพื่อนของเขาตายเร็วขึ้นก็ได้

นอกจากนี้เขายังเอ่ยถึงแอนดรอยด์ที่มีชื่อว่าแอคคอร์ด โดยกล่าวว่าเธอคือคนที่คอยหาอาวุธจากโลกเก่าส่งมาให้เขา แอคคอร์ดเป็นชื่อของแอนดรอยด์สาวแว่น ตัวละครจากเกม Drag on Dragoon ภาค 3 แต่เธอจะมีบทบาทนอกเหนือจากนี้ในภาค Automata หรือไม่ยังไม่เป็นที่เปิดเผย

ส่วนเควสของพ่อค้าอะไหล่ เขาเล่าเรื่องของตัวเองให้ทั้งสองฟังว่าการต้องสู้รบมาอย่างยาวนาน ทำให้เขาต้องทยอยเปลี่ยนชิ้นส่วนร่างกาย จนถึงตอนนี้มีเพียงขาซ้ายเท่านั้นที่ยังคงเป็นของเดิมที่ติดตัวตั้งแต่ตอนที่เขาถูกสร้างขึ้นมา สภาพทรุดโทรมเสียหายของมันเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาไม่สามารถเดินได้คล่องตัว แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเขาก็ไม่อยากเปลี่ยนหรือซ่อมแซมมัน เพราะกลัวว่าหากทำเช่นนั้นเขาจะไม่ใช่ตัวเขาเองอีกต่อไป แต่กลายเป็นคนใหม่ที่ไม่มีอะไรเหมือนเดิมเลย

สิ่งที่เกิดขึ้นกับแอนดรอยด์พ่อค้าชวนให้นึกถึงเรื่องของพลูตาร์ก นักประวัติศาสตร์ชาวกรีก เขาตั้งคำถามเกี่ยวกับเรือเดินทะเลที่ชื่อว่าซีอุส เรือซีอุสออกเดินสู่ท้องทะเลกว้างใหญ่ แต่ระหว่างทางก็ต้องพบเจอพายุคลื่นลมซัดสาด มันจึงต้องเปลี่ยนวัสดุไปทีละชิ้นๆ เพื่อซ่อมแซมให้แล่นต่อไปได้ และเมื่อการเดินทางสิ้นสุด ก็ไม่มีชิ้นส่วนไหนของเรือที่เป็นวัสดุเดิมเลย

ถ้าอย่างนั้นเรือลำนี้คือเรือซีอุสอยู่หรือไม่ และหากลูกเรือยังเก็บชิ้นส่วนผุผังเสียหายไว้ทุกชิ้น สิ่งที่เรียกว่าเรือซีอุสจะเป็นเรือที่ลอยลำตอนนี้ หรือเศษของใช้การไม่ได้กันแน่ เรือซีอุสสูญสิ้นตัวตนไปตั้งแต่ตอนไหน ตั้งแต่ตอนที่มันเปลี่ยนชิ้นส่วนชิ้นแรก ตอนที่มันเปลี่ยนชิ้นส่วนเดิมออกทุกชิ้น หรือว่าตอนนี้มันก็ยังคงเป็นเรือซีอุส ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรที่เป็นของเดิมกับตอนที่มันแล่นออกจากท่าแม้เพียงชิ้นเดียว

คนส่วนมากเลือกยอมรับว่าเรือลำนี้ยังเป็นเรือซีอุส อย่างน้อยมันก็เข้ากับแนวคิดเรื่องความเป็นเรือ ทั้งรูปร่างหน้าตา ความสามารถในการลอยตัวบนน้ำ แต่หากเราไม่มีแนวคิดเรืองหน้าตาที่ควรเป็น หรือคุณสมบัติที่ควรมีของเรือตั้งแต่แรกล่ะ นั่นหมายความว่าเรือย่อมอาจเป็นอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นพาหนะที่ลอยบนน้ำ เศษไม้เก่าๆ หรือบางอย่างที่ผิดไปจากนั้นโดยสิ้นเชิง

คุณค่าของสิ่งต่างๆ ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดขึ้นโดยความคิดของใครสักคน และความคิดก็เป็นสิ่งที่เป็นเพียงนามธรรม ไร้รูปร่างหน้าตา หรือคุณสมบัติเฉพาะเจาะคง เป็นเพียงแค่จินตนาการที่เราคิดขึ้นเท่านั้น

แต่ใช่ว่าจินตนาการจะไม่มีวันเป็นจริง เราสามารถลงมือทำ ทุ่มเทสร้างสรรค์ให้มันเป็นจริงได้ และเมื่อนั้นคุณค่าก็จะไม่ใช่เพียงแค่เรื่องสมมติอีกต่อไป ดังเช่นที่มนุษย์สร้างนวัตกรรมใหม่ขึ้นเป็นครั้งแรกจากจินตนาการว่างเปล่าไร้ตัวตน

คุณค่าไม่ได้ขึ้นรูปลักษณ์ภายนอก หรือสิ่งที่เรามี แต่ขึ้นกับสิ่งที่เราทำ 
แล้วเราจะให้มันเป็นเพียงจินตนาการของใครบางคน หรือจะกำหนดและทำให้มันเป็นจริงขึ้นมาด้วยตัวเราเอง...


เครดิท บทความเรื่องของเรือซีอุส ได้ข้อมูลมาจากหนังสือเกิดเป็นกระต่ายต้องคิดให้ได้อย่างหมาป่า ของ Dave Trott สำนักพิมพ์ Welearn