จาก Drag on Dragoon สู่ NieR Automata จะเป็นอย่างนั้นจริงหรือ


คำเตือน
  • บทความนี้กาวหนักมาก เกิดจากมโนล้วนๆ ไม่มีการยืนยันข้อเท็จจริง
  • สปอยเนื้อเรื่องของ Drag on Dragoon และ NieR ค่อนข้างรุนแรง

ลัดคิวบทความสปอยเนื้อเรื่อง NieR Automata มาลงก่อนตลาดวาย เดี๋ยวไม่มีคนคุย (ฮา) หลังจากที่ดูเนื้อเรื่องของ NieR Automata จนจบเกม + คุยกับเพื่อน คุณ Recodare Andante แล้ว (ภาษาญี่ปุ่นก็ได้ช่วยเหลือในการแปลด้วย) เราจะเจอสิ่งที่เชื่อมโยงกับเกม Drag on Dragoon อยู่เยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องของแอนดรอยด์ที่มีชื่อว่าแอคคอร์ด ตัวละครจาก Drag on Dragoon 3 ที่แม้ในเกม NieR เธอจะไม่ปรากฏตัวออกมาเลย แต่การที่เธอถูกกล่าวถึงนั้นชวนให้คิดมากว่าตกลงเธออายุเท่าไรกันแน่ โดยไทม์ไลน์ของเกมซีรีย์นี้เรียงได้เป็น

Drag on Dragoon 3 ฉากจบ A > Drag on Dragoon ฉากจบ E > NieR Gestalt/Replicant ฉากจบ D > NieR Automata

ในเกม Drag on Dragoon 3 แอคคอร์ดกล่าวว่าตัวเองมาจากโลกเก่า ทว่าขณะเดียวกันวันก็สงสัยว่าเหตุใดมนุษย์ของโลกเก่าจึงหายไปก่อนถึงยุคของพวกเธอ พอประกอบข้อมูลตามนี้แล้ว แสดงว่าแอคคอร์ดมีชีวิตมาก่อนเนื้อเรื่องของ Drag on Dragoon 3 เสียอีก และวิทยาการของโลกนี้ต้องสูงขนาดสร้างแอนดรอยด์ขึ้นมา

แต่แอคคอร์ดมีข้อมูลว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น

แอคคอร์ดเป็นแอนดรอยด์ที่มีหน้าที่สร้างปัจจัยต่างๆ เพื่อเก็บข้อมูลผลการตัดสินใจของเจ้าหญิงแห่งเสียงว่าจะทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ต่างไปอย่างไร จนเกิดเป็นเส้นทางฉากจบทั้ง 4 แบบ เรื่องที่เกิดขึ้นกับซีโร่และน้องสาว เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ต่างจากการที่แอนดรอยด์สู้กับหุ่นยนต์ใน Automata และหมายความว่าการมีอยู่ของแอคคอร์ดเป็นทั้งเรื่องในอดีตและเรื่องในอนาคตของ Drag on Dragoon 3 เธอปรากฏตัวในมังงะเหตุการณ์ก่อน Drag on Dragoon และเธอก็มีตัวตนในเกม NieR ซึ่งเป็นเหตุการณ์หลังจากนั้นเช่นกัน

ในเนื้อเรื่องของ NieR Gestalt/Replicant นั้นบอกว่า Drag on Dragoon เป็นโลกคนละมิติกับ NieR แน่นอน แต่แอคคอร์ดมีบทในทั้ง 2 เกม แสดงว่าเธอน่าจะมีความสามารถในการเคลื่อนย้ายระหว่างมิติ เพราะแอนดรอยด์ที่ดูแลโครงการ Gestalt เองก็มีความสามารถในการส่งอนุภาคของเทพธิดากลับไปยังมิติเดิม ดูจากความน่าจะเป็นแล้วแอคคอร์ดน่าจะถูกสร้างในมิติของ NieR ที่มีการสร้างแอนดรอยด์ขึ้นเป็นตัวเป็นตน แต่ถ้ามนุษย์สามารถดึงเวทมนต์มาใช้เคลื่อนย้ายแอนดรอยด์ไปมิติอื่นได้ แถมแอนดรอยด์ที่ใช้ชื่อว่าแอคคอร์ดก็มีหลายคน จึงอนุมานได้ว่าสามารถเคลื่อนย้ายได้จำนวนมาก แล้วเหตุใดถึงไม่ย้ายตัวเองหนีจาก White Chlorination Syndrome ไปมิติอื่นกัน

หรือแอคคอร์ดไม่เคยย้ายไปมิติอื่น ซึ่งนั่นก็จะหมายความว่า NieR Automata คือโลกเก่าของ Drag on Dragoon


ร้อง เอ้ย ในใจ ถ้า NieR คืออดีตของ Drag on Dragoon แล้ว Drag on Dragoon คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อน NieR แสดงว่าเหตุการณ์ในซีรีย์นี่คือวงเวียนที่ไร้จุดสิ้นสุด เหมือนเหตุการณ์ที่เกิดกับพวกซีโร เหมือนเหตุการณ์ที่หุ่นยนต์สู้กับโยร์ฮา ในเกม NieR Automata มีหลายอย่างที่เชื่อมโยงกับ Drag on Dragoon มาก โดยเฉพาะตัวละครอีฟ ที่แยกตัวออกจากอดัม เหมือนกับที่เจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงทั้ง 5 แยกตัวออกมาจากซีโร และวัน (ชาย) ที่แยกออกจากวัน (หญิง) ที่สำคัญตอนที่เขาใช้พลังสูงสุด ก็ยังปรากฏสัญลักษณ์ของ Cult of the Watchers อันเป็นเครื่องหมายของเหล่าผู้รับใช้พระเจ้าใน Drag on Dragoon ด้วย เรื่องนี้อาจจะเป็นไปได้เพราะอาจมีการนำเทคโนโลยีเดิมมาใช้ผ่านอนุภาคของมังกร แต่พอไปคุยกับเพื่อนกลับได้ข้อมูลเพิ่มว่าในเกม Drag on Dragoon 3 มีอาวุธที่ชื่อว่า NieR's Blade อยู่ด้วย ซึ่งจากประวัติของดาบนั้นเกี่ยวกับเนียร์ ตัวละครเอกใน NieR แน่นอน ทั้งๆ ที่เหตุการณ์ใน NieR เกิดภายหลัง และอยู่คนละมิติกัน

เรื่องนี้อาจจะเป็นแค่ Easter Egg ที่ใช้เชื่อมกับเกม NieR แต่ถ้าเกิดมันไม่ใช่แค่นั้น และเกิดวงเวียนเหตุการณ์ของเกมทั้งสองขึ้นมา การที่แอคคอร์ดพยายามเก็บข้อมูลเหตุการณ์ต่างๆ ใน Drag on Dragoon ก็อาจจะเป็นเพราะกำลังหาวิธีหลุดออกจากเหตุ์การณ์ไร้ที่สิ้นสุดนี้ก็ได้

แต่ถ้าจะบอกเช่นนั้น เวทมนต์จะมีจุดเริ่มต้นมาจากอะไรกัน เพราะพวกซีโรรู้จักเวทมนต์มาแต่แรกทั้งๆ ที่ไม่รู้จักมนุษย์จากโลกเดิม และเรื่องของ NieR โดยเฉพาะในภาค Automata ก็เหลือเพียงวิทยาศาสตร์เท่านั้น เวทมนต์ในทั้ง 2 เกมจะมีลักษณะเป็นตัวอักษรแปลกๆ ซึ่งมีชาวต่างชาติวิเคราะห์ไว้แล้วว่าเป็นตัวอักษรจากภาษาฮิบรูโบราณ อีกทั้งเรายังพบตัวอักษรเหล่านี้แสดงในหน้าจอที่ฐานบังเกอร์ ชื่อของหุ่นยนต์ และอีกหลายจุด แต่ที่สำคัญคือพอถอดตัวอักษรที่อยู่ในเกม NieR ภาค Gestalt และ Replicant แล้ว กลับพบว่ามันมีการเรียงอักษรเหมือนสูตรเคมีของ DNA ของมนุษย์

หรือเวทมนต์และวิทยาศาสตร์ในซีรีย์นี้จะเป็นสิ่งเดียวกัน


พอคิดได้อย่างนี้ก็ดูเหมือนเรื่องราวจะพอดีแปลกๆ แต่ถ้าเวทมนต์คือ DNA เหตุใดมนุษย์ใน Drag on Dragoon จึงใช้เวทมนต์ได้เพียงบางคน และในภาค 3 ก็มีเพียงเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงกับสาวกที่ได้รับความสามารถใช้พลังได้ และในเมื่อเจ้าหญิงเพลงแห่งเสียงเกิดจากซีโร แสดงว่าเธอต้องมีบางอย่างที่ต่างจากคนอื่น

จากนั้นเพื่อนก็ส่งลิงค์และตั้งข้อสังเกตภาพดอกไม้ที่ตาขวาของซีโรมาให้ ดอกไม้นี้คือปรสิตของพระเจ้าที่ใช้เข้าครอบงำร่างกายไร้ชีวิตของมนุษย์ ซีโรได้ชีวิตคืนมาพร้อมกับพลังของเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลง และพลังนี้ก็ถ่ายทอดสู่เจ้าหญิงแห่งเสียงคนอื่นเช่นกัน

ที่สำคัญดอกไม้ของซีโรมีหน้าตาเหมือนดอกลูนาเทียร์ใน NieR

ดอกไม้สวยดี ขี้เกียจดีไซน์ใหม่ หรือนี่จะเป็นนัยยะบางอย่างเหมือนชิปเพิ่มความสามารถของ POD แต่โลกของเราที่เป็นมิติของเกม NieR ก็ไม่มีดอกไม้ชนิดนี้อยู่ ลูนาเทียร์ปรากฏในเกม NieR ภาคแรก ซึ่งเป็นหลังเหตุการณ์ที่ The Queen Beast ร่างทรงของเทพเจ้าได้ย้ายมิติมา หรือนี่จะเป็นการนำดอกไม้มาด้วย และมันก็เจริญเติบโตขยายพันธ์มาจนกระทั่งได้บรรจบกลับไปสิงซีโรอีกครั้ง ก่อเกิดวัฏจักรแห่งเวทมนต์ตามมา


แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นพระเจ้าคือใคร ใครสร้างมนุษย์ และสร้างดอกไม้กันแน่

Drag on Dragoon บอกว่าพระเจ้าคือผู้ที่สร้างมนุษย์ แต่ทรงเห็นว่ามนุษย์เป็นผลงานที่ผิดพลาดจึงต้องการกำจัด กระนั้นด้วยที่พระองค์อยู่คนละมิติ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมซีโรจึงถูกดอกไม้เข้าสิงกลายเป็นร่างทรงของพระเจ้า รอคอยให้ดอกไม้เติบโตยึดครองสติ แสดงว่าพระเจ้าก็น่าจะเป็นผู้สร้างดอกไม้ขึ้นมาเหมือนกัน พวกซีโรไม่รู้จักมนุษย์ในโลกเก่า ส่วน NieR Automata ถ้าไม่นับเอมิล ก็เหลือเพียงข้อมูลสร้างร่างกายมนุษย์ที่อยู่บนดวงจันทร์ และสิ่งที่คล้ายมนุษย์อย่างแอนดรอยด์เท่านั้น

ด้วยองค์ความรู้ที่มี Replicant ไม่มีทางสร้างแอนดรอยด์ขึ้นมาได้แน่นอน เพราะฉะนั้นมนุษย์ที่ต่อมากลายเป็น Gestalt เท่านั้นที่เป็นคนสร้าง เมื่อ Gestalt และ Replicant ตายลงทั้งหมดใน NieR ภาคแรก จึงไม่ควรมีใครสร้างแอนดรอยด์ได้อีกนอกจากแอนดรอยด์ด้วยกัน เพราะฉะนั้นผู้ที่สร้างฐานบังเกอร์ก็ควรเป็นแอนดรอยด์

แต่แอนดรอยด์มีความสามารถขนาดนั้นเลยอย่างนั้นหรือ

ด้วยเทคโนโลยีที่ปรากฏในช่วงที่มนุษย์คิดค้นโครงการ Gestalt มนุษย์ไม่น่าจะมีความสามารถในการสร้างฐานทัพบนอวกาศได้ เช่นนั้นก็ไม่น่าใช้วิธีแยกวิญญาณออกจากร่าง แต่ขึ้นไปหลบภัยจากเหล่า Region และโรค WCS บนอวกาศเลย และแอนดรอยด์ที่ถูกสร้างจากมนุษย์ซึ่งไม่มีความรู้ในเรื่องวิศวกรรมอวกาศเพียงพอ ทั้งส่วนมากยังถูกสร้างมาเพื่อดูแล Replicant และโครงการ Gestalt จะมีความสามารถในการสร้างบังเกอร์อย่างนั้นหรือ และถ้าทำได้พวกเขาเรียนรู้จากที่ไหน

หรือแอนดรอยด์ที่สร้างบังเกอร์ จะไม่ได้ถูกสร้างโดยมนุษย์ แต่ถูกสร้างโดยสิ่งที่มีความรู้ด้านอวกาศมากกว่า นั่นคือเอเลี่ยน

เอเลี่ยนเดินทางมาถึงโลก และได้ต่อสู้กับเอมิล บางทีสิ่งนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นให้พวกเขาศึกษาว่าเหตุใดดาวดวงนี้จึงไร้สิ่งมีชีวิตทรงภูมิ ทั้งๆ ที่มีร่องรอยอารยธรรมเต็มไปหมด พวกเขาได้พบแอนดรอยด์ สิ่งที่ใกล้เคียงมนุษย์ จึงสร้างเลียนแบบเพื่อศึกษา และเพื่อวิวัฒนการทางเทคโนโลยีของหุ่นยนต์ผลงานของตนที่สามารถพัฒนาตนอย่างรวดเร็วในการต่อสู้ การสร้างแอนดรอยด์ขึ้นเป็นฝ่ายตรงข้าม ย่อมได้ประโยชน์สองต่อ

และเพราะมีผู้สร้างเป็นสิ่งเดียวกัน Black Box ของแอนดรอยด์จึงเหมือนของหุ่นยนต์ 

นอกจากนี้เราจะเห็นได้ว่าหุ่นยนต์กับแอนดรอยด์ที่เข้าสู่โหมดต่อสู้หรือโดนไวรัสจะสูญเสียตัวตนกลายเป็นเพียงอาวุธทำลายล้าง ซึ่งอาการเช่นนี้เราก็พบได้จากเจ้าหญิงแห่งเสียงที่ค่อยๆ สูญเสียจิตใจกลายเป็นร่างทรงให้พระเจ้า เหล่า Watcher ผู้รับใช้พระองค์ และใน NieR ก็พบได้ในมนุษย์ที่สัมผัสอนุภาคของเทพธิดากลายเป็น Region ซึ่งทุกอย่างล้วนมีดวงตาสีแดง

หรือพระเจ้าใน Drag on Dragoon ก็คือเอเลี่ยน และเอเลี่ยนก็คือคนที่สร้างมนุษย์ขึ้นมา ทุกอย่างจึงสามารถส่งต่อไวรัสได้

แม้เอเลี่ยนที่อยู่บนโลกจะเสียชีวิตทั้งหมดแล้ว แต่พวกเขาน่าจะมีดาวแม่ของตน พวกเขายังศึกษาจนสร้างมนุษย์ขึ้นมาได้ ที่พระเจ้าอยู่ต่างมิตินั่นคือพวกเขาอยู่ห่างจากโลกมาก จึงต้องส่งข้อมูลของพวกตนมาแทน และร่างของเจ้าหญิงแห่งเสียงก็คือสิ่งที่คอยรองรับข้อมูลเหล่านั้นเอาไว้

ถ้าเรื่องราวเป็นอย่างนี้จริง หาก NieR หรือ Drag on Dragoon มีภาคต่อไป เราอาจได้ดูเรื่องราวบนโลกต่อโดยไม่ต้องออกไปหาดาวใหม่อย่าง Mass Effect ก็ได้

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Spoil NieR Automata Part 27 Ending E : the End of YoRHa และวิเคราะห์เนื้อเรื่องทั้งหมดตามใจฉัน

ผ้าปิดตาของ YoRHa