Drag on Dragoon 3 One (Brother) Novella : Mirror Mirror


เครดิท drakengard.wikia

ข้าต้องอยู่ที่นี่

ทว่าข้าก็ไม่อาจอยู่ได้

ข้าต้องกลับมาที่นี่

ทว่าข้าไม่อาจอยู่ต่อไปได้

ทั้งหมดนี้เพียงเพื่อท่านพี่ผู้คอยเฝ้ามองข้า…



ข้าต้องอยู่ที่นี่

ห้องของข้าอยู่ภายในหอคอยของมหาวิหาร ห้องเล็กๆ ที่มีของอยู่ข้างในเพียงไม่กี่ชิ้น เตียงของข้า เก้าอี้ตัวหนึ่ง ประตูเหล็ก กำแพงหิน และหน้าต่างเพียงบานเดียวซึ่งอยู่สูงเกินกว่าที่ข้ามองเห็นท้องฟ้าผ่านมัน ใช่แล้ว นี่คือโลกทั้งใบของข้า

มีเพียงท่านพี่เท่านั้นที่รู้ถึงการมีอยู่ของข้า กับห้องๆ นี้ ข้าไม่เคยพูดกับใครอื่นนอกจากนาง และกาบรีเอลา มังกรของนาง ทั้งส่วนมากกาบรีเอลาก็มักพูดกับท่านพี่เพียงคนเดียว ไม่ได้พูดกับข้าเท่าไร นางมีวิธีการพูดที่ค่อนข้างหยาบกระด้าง และมักต่อว่าข้า แต่ข้าก็ไม่ได้เกลียดนาง เพราะท่านพี่ดูเหมือนจะรักนางมาก

บางครั้งท่านพี่ก็จะพาข้าขึ้นขี่หลังของกาบรีเอลาแล้วออกบินไปยังสนามรบด้วยกัน โลกยังคงเต็มไปด้วยความวุ่นวาย และท่านพี่ก็ยังมีศัตรูอีกมากมายที่ต้องต่อสู้ ข้าให้ความช่วยเหลือนาง ไม่แน่ใจว่าพวกเราจะต้องสู้ไปอีกนานแค่ไหน แต่มันก็ทำให้ฝีมือของข้าพัฒนาขึ้น ข้าจะต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้เพื่อกำจัดซีโร เพราะหากท่านพี่พ่ายแพ้ให้แก่อีกฝ่าย ข้าจะต้องเป็นคนสังหารนาง

"ไม่ต้องกังวลไปหรอก เจ้าเป็นน้องชายของข้า เจ้าต้องทำได้อยู่แล้ว"

ท่านพี่พูดเช่นนั้นเพื่อให้กำลังใจข้า แต่นางกลับไม่รู้เลยว่าข้าเดาความนัยของมันออก ถ้าข้าต้องฆ่าซีโรก็หมายความว่าท่านพี่ต้องถูกนางปลิดชีพไปแล้ว ข้าไม่ต้องการสิ่งนั้น ข้าไม่อยากให้ท่านพี่ตาย หากท่านพี่จากไปใครกันที่จะมาเยี่ยมเยียนข้า ใครกันที่จะมาพูดคุยกับข้า ถ้าท่านพี่จากไปแล้ว ข้าก็คง...

เหตุผลที่ทำให้ข้าต้องขมวดคิ้วแน่นไม่ใช่เพราะข้าหวาดกลัวการต่อสูู้ แต่เป็นเพราะข้าไม่เคยต้องการที่จะใช้ดาบเขี้ยวมังกรซึ่งท่านพี่มอบให้เลย ข้าไม่ต้องการให้วันที่ข้าต้องจากห้องของตัวเองมาถึง ข้าอยากให้ท่านพี่มาเยียมข้าอย่างที่เคยเป็น กอดข้าไว้ในอ้อมแขนอ่อนโยนของนางตลอดกาล และตลอดไป นั่นเป็นความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียวของข้า ทว่า...

ทว่าข้าก็ไม่อาจอยู่ได้

เพราะว่าวันนั้นได้มาถึงแล้ว ตอนที่นางมาพบข้าด้วยใบหน้าตึงเครียดข้าก็รู้ในทันทีว่ามันคือวันที่พี่สาวจะต้องไปต่อสู้เพื่อชี้เป็นชี้ตายกับซีโร

"ได้ครับ ข้าจะทำตามที่ท่านสอนข้า ท่านพี่"

ท่านพี่ดูแปลกใจตอนที่ข้ากล่าวเช่นนั้นโดยที่นางไม่ทันได้เอื้อนเอ่ย ข้าสามารถเข้าใจนางได้โดยไม่ต้องอาศัยคำพูดใด ถึงข้าจะไม่ได้ฉลาดเหมือนนาง และไม่ค่อยเข้าใจเรื่องยากๆ เท่าไร แต่ข้าก็บอกได้เสมอว่านางกำลังรู้สึกอย่างไร... ไม่ว่านางจะสุข เศร้า หรือโกรธ... เพียงแค่มองข้าก็สามารถรับรู้ได้ อย่างไรก็ตามข้าก็เป็นคู่แฝดของนาง แน่นอนว่าข้าต้องรู้อยู่แล้ว ข้ารู้... รู้ว่าถึงแม้นางจะล้มซีโรได้ข้าก็จะไม่ได้พบนางอีก นั่นก็เป็นเพราะว่านางวางแผนที่จะตายแต่แรก ข้ารู้ เพราะอย่างนั้นข้าถึงได้พยายามหยุดนางเอาไว้ ข้าปลดปล่อยความโกรธเกรี้ยวออกมา สะอื้นไห้ และขอร้องไม่ให้นางไป

"ไม่เป็นไรหน่า ข้าไม่แพ้หรอก"

ท่านพี่มีท่าทีลำบากใจ ข้าไม่ได้อยากทำให้นางรู้สึกไม่ดี ข้าแค่อยากให้นางเข้าใจว่าข้ารู้ว่าพวกเราจะไม่ได้พบกันอีก นั่นเป็นการเจอกันครั้งสุดท้ายของพวกเรา... ข้าอยากให้นางรู้ว่าข้าเข้าใจทุกอย่าง และอย่าได้กังวลอะไร ท่านพี่ครับ ข้าเข้าใจทุกอย่างมากกว่าที่ท่านคิด...

ท่านพี่ถูกซีโรฆ่า และข้าก็สังหารซีโรตามที่ถูกสอนมา ตอนนี้เจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงทุกคนถูกกำจัดแล้ว แต่ว่าท่านพี่ครับ ท่านไม่เคยบอกว่าข้าควรทำอะไรหลังจากนั้น ท่านไม่เคยบอกข้าว่าจะต้องทำอะไร หรือไปที่ไหน ในหัวของข้าเต็มไปด้วยเรื่องที่ท่านต้องตาย และเรื่องที่ข้าต้องปลิดชีวิตของซีโร ข้าจึงไม่เคยนึกถามท่านมาก่อน มันทำให้ตอนนี้ข้ารู้สึกเสียใจ แต่มันก็สายเกินไป ท่านพี่จากไปแล้ว ดังนั้นนางจึงไม่มีทางบอกข้าได้อีก

สิ่งที่ดึงสายตาของข้าไว้ขณะที่ข้ายืนอยู่ท่ามกลางศพของพวกนางคือหน้าต่างกระจกสีภายในห้องที่พวกเราอยู่ มันแตกร้าว แต่ก็ยังสวยงามยามต้องแสง มันทำให้ข้าเกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา ข้าจะสร้างศาสนาใหม่ในนามของท่านพี่ ข้าจะสร้างวิหารนี้ขึ้นใหม่เพื่อเป็นกองกำลังสำหรับนาง ข้าไม่อาจคิดอะไรที่ดีไปกว่านี้ได้แล้ว เพื่อท่านพี่... ข้าพยายามจะจากไปเพื่อนาง แต่โลกใบนี้มันช่างกว้างใหญ่เหลือเกิน น่ากลัวเหลือเกิน และเมื่อไม่มีนางแล้วการอยู่คนเดียวก็ช่างโดดเดี่ยวเหลือเกิน ข้าจึงวิ่งกลับมาที่นี่ ที่ห้องของข้า สถานที่ที่ข้ารู้สึกปลอดภัย สถานที่ที่ข้าไม่ต้องทำอะไรเลย

ข้าต้องกลับมาที่นี่

ไม่มีผู้ใดล่วงรู้เกี่ยวกับห้องนี้ ในฐานะที่เป็นไพ่ตายของนาง ท่านพี่ไม่สามารถให้ใครรู้เรื่องของข้าได้ นางไม่เคยบอกแม้แต่กับพวกน้องสาวของตน นางร่ายเวทมนต์บนประตูไม่ให้ใครมองเห็นจากด้านนอกเพื่อไม่ให้ผู้ใดทะเล่อทะล่ามาเปิดมันเข้า มันไม่ได้ถูกลงกลอนไว้ เห็นไหมล่ะ ท่านพี่ไม่ได้กักขังข้าให้เป็นนักโทษ แต่เป็นข้าเองที่ไม่มีความคิดที่จะออกไป ข้าไม่เคยต้องการออกไปเลย และจะไปก็แค่ตอนที่ท่านพี่มาพาข้าไปที่ไหนสักที่เท่านั้น

แต่นางจะไม่มาพาข้าไปที่ไหนอีกแล้ว ดังนั้นสิ่งแรกที่ข้าทำตอนที่กลับถึงห้องคือการทำให้ประตูไม่สามารถเปิดได้อีก ข้าทำลายมันจากข้างในเพื่อที่ข้าจะได้ไม่ต้องออกไปข้างนอก ข้างนอกนั่นไม่มีอะไรสำหรับข้าอีกแล้ว ถึงข้าจะเคยช่วยเหลือท่านพี่ แต่นอกเหนือจากการฆ่าซีโรข้าก็ไม่สามารถทำอะไรได้ด้วยตัวคนเดียว อ่านหนังสือที่นางมอบให้ ฝึกฝนการใช้ดาบ... นั่นคือวิธีที่ข้าใช้ฆ่าเวลาระหว่างรอให้ท่านพี่มาเยียม แต่นางจะไม่มาหาข้าอีกแล้ว ข้าจะไม่มีวันได้พบนางอีกต่อไปแล้ว

ไม่นะ! ข้าอยากพบนาง! ข้าอยากพบพี่สาวของข้า! ข้าอยากพบนาง อยากพบนาง อยากพบนาง...!

อา... นั่นสินะ ข้าไม่สามารถพบนางอีกแล้ว  แต่ก็ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่ข้าจะสามารถพบนางได้ ในเมื่อข้าถูกสร้างขึ้นจากนาง พวกเราจึงเหมือนกัน พวกเรามีใบหน้าแบบเดียวกัน ดังนั้นข้าจึงนำเสื้อผ้าของนางมาสวม ก่อนไปยืนอยู่หน้ากระจก และแล้ว...

เป็นอย่างที่ข้าคิดจริงๆ ด้วย! พวกเราคือภาพสะท้อนของกันและกัน นี่ช่างดูราวกับว่าท่านพี่กำลังยืนอยู่ข้างหน้าข้าเลย

"ข้าก็อยากพบเจ้าเช่นกัน" ท่านพี่เอ่ยจากข้างในกระจก

กระนั้นถึงนางจะอยู่เบื้องหน้าข้าแล้ว... ถึงจะดูเหมือนว่าข้าจะสามารถสัมผัสนางได้... ปลายนิ้วของข้ากลับรับรู้ได้เพียงความเย็นเฉียบของกระจก นางอยู่ที่นี่ ข้างหลังนี้ ทำไมข้าถึงเข้าไปข้างในไม่ได้นะ ทำไมข้าถึงต้องอยู่ที่นี่ ที่ตรงข้ามของฝั่งกระจก

ทำไมข้าถึงต้องอยู่คนเดียวด้วยล่ะ ทำไมท่านพี่ถึงทิ้งข้าไว้ ไม่สิ นางคงไม่ได้ตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น ข้าคิดว่านางน่าจะตั้งใจพาข้าไปด้วย

ท่านพี่ต้องฆ่าซีโร และหลังจากนั้นนางก็ต้องตาย ในเมื่อร่างกายของเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงถูกฝังเมล็ดพันธ์ของดอกไม้ซึ่งต้องการทำลายโลก ท่านพี่จึงต้องการกำจัดดอกไม้เพื่อรักษาความสงบสุขเอาไว้ กระนั้นดอกไม้ก็ย่อมพยายามรักษาชีวิตของมัน นั่นคือสิ่งที่ซีโรทำพลาด นางจะไม่ทำล้มเหลวเหมือนที่อีกฝ่ายทำ ท่านพี่วางแผนที่จะทำให้แน่ใจได้ว่าไม่ว่าใครจะเป็นผู้รอดชีวิตในการต่อสู้ ดอกไม้ก็จะต้องถูกทำให้หายไป ข้าคือแผนนั้น ในห้องนี้ ท่านพี่ฝึกข้าให้ฆ่าซีโร นางวาดรูปร่างของคนไว้บนพนัง และวาดกากบาทไว้ที่ตำแหน่งหัวใจเพื่อที่ข้าจะได้ไม่พลาดเมื่อเวลานั้นมาถึง... เพื่อที่ข้าจะได้สังหารซีโรสำเร็จในดาบเดียว หลังจากนั้นไม่นานพนังบนจุดที่มีรูปกากบาทวาดไว้ก็กลายเป็นรู ราวกับว่าข้าได้แทงร่างของใครบางคน ข้าแทงรูนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า... รวดเร็ว แม่นยำ... ซ้ำไปซ้ำมาจนกระทั่งท่านพี่จะบอกให้ข้าหยุด

แต่ความจริงแล้วข้าไม่ได้ถูกฝึกให้ฆ่าซีโรแค่คนเดียวใช่ไหมครับ ข้าถูกฝึกเพื่อสังหารท่านด้วย หากท่านรอดชีวิต หากดอกไม้ทำให้ท่านไม่ตาย... ท่านก็จะมายืนอยู่ด้านหลังของกำแพงแล้วให้ข้าแทงดาบผ่านรูอย่างที่ข้าทำอยู่เสมอ เมื่อท่านเสียชีวิต ข้าก็จะฆ่าตัวตายเพราะไม่อาจทนได้ ข้าต้องฆ่าตัวตายตามไปแน่นอนในเมื่อข้าถูกสร้างขึ้นมาจากท่าน ถึงร่างกายของข้าจะมีพลังของดอกไม้อยู่บ้าง แต่มันก็ไม่น่าจะทำข้าตายลำบากมากนัก หลังจากที่ข้าลงมือ ทุกอย่างเกี่ยวกับดอกไม้ก็จะถูกทำลายหายไปจากโลกใบนี้ ใช่แล้ว... ท่านพี่ไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งข้าไว้คนเดียว นางเชื่อว่าข้าจะต้องตามนางไป อีกอย่างข้าก็มีอาวุธที่ใช้สังหารเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงอยู่ในมือด้วย ถึงข้าจะไม่ใช่เจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงที่แท้จริง แต่ดาบธรรมดาก็ไม่สามารถฆ่าข้าได้ ข้ารู้เรื่องนั้นดี เพราะตอนที่กลับมาถึงห้องข้าก็เคยลองพยายามทำมันดูแล้ว ข้าลืมดาบเขี้ยวมังกรไว้ตอนที่ข้าฆ่าซีโร ข้านี่มันโง่จริงๆ ข้าทำลายประตูไปแล้วจึงไม่สามารถกลับไปเอามันมาได้ ข้าไปไม่ได้ ข้าต้องอยู่ที่นี่ ในห้องอันปลอดภัยนี้ ข้าทำพลาดไปแล้ว ทุกอย่างเป็นความผิดของข้า

ท่านพี่ครับ ได้โปรดต่อว่าข้าที บอกทีว่าข้ามันเป็นน้องชายไม่เอาไหน ข้ามันเป็นคนใช้ไม่ได้ ทำไมท่านถึงไม่ดุด่าข้าล่ะ

ท่านพี่ที่สะท้อนอยู่ในกระจกนิ่งเงียบ มองมาทางข้าด้วยสายตารวดร้าวราวกับกำลังจะร้องไห้ ข้าเข้าใจสีหน้านั้นดี ข้าเคยเห็นมันมาก่อน มันคือใบหน้าเดียวกันกับยามที่นางอยู่บนเตียงกับข้า ข้าไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมนางถึงดูเจ็บปวด ทั้งๆ สิ่งที่พวกเราทำทำให้ข้ามีความสุขมาก ในตอนที่ข้าถาม นางบอกข้าว่าเพราะมันเป็นสิ่งที่ผิด พี่น้องไม่ควรทำสิ่งที่พวกเราทำลงไป แต่ถึงจะรู้อยู่แก่ใจนางก็ไม่อาจห้ามตัวเองได้ น้ำเสียงของนางดูเศร้ามาก ข้าไม่เข้าใจเลย ถ้าหากการที่พี่น้องทำสิ่งนี้ด้วยกันเป็นเรื่องที่ผิด ก็หมายความว่าถ้าเป็นกับคนแปลกหน้าก็ไม่เป็นไรอย่างนั้นหรือ สำหรับข้าแล้วนั่นยังดูผิดกว่าอีก เมื่อข้าบอกนางเช่นนั้น นางดูเหมือนจะพูดอะไรไม่ออกไปครู่หนึ่ง ก่อนที่นางจะแสดงสีหน้าอ่อนโยนซึ่งทำให้ใจของข้าเกือบหยุดเต้น

"นั่นสินะ... ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้วล่ะที่เป็นเจ้า..."

ท่านพี่ครับ ใบหน้าของท่านในตอนนี้เหมือนกับตอนนั้นเลย

"จริงเหรอ"

ใช่แล้ว ท่านชอบย่นคิ้วเล็กน้อยอย่างนี้ ท่านทำเช่นนั้นบ่อยๆ รู้ตัวหรือเปล่า

"ไม่ใช่นะ ข้าไม่ได้ชอบทำอะไรอย่างนั้นสักหน่อย"

ยังมีอย่างอื่นอีกนะ แต่ข้าไม่บอกท่านหรอก

"ทำไมล่ะ"

นั่นเองก็เหมือนกัน! วิธีที่ท่านเอียงศีรษะตอนที่ท่านถามคำถามข้า ข้าจำสีหน้าทุกอย่างของท่านได้... ข้าอยากจะจดจำมันเอาไว้ ระลึกถึงสิ่งที่เกี่ยวกับท่านแม้ว่าท่านจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม และไม่ใช่แค่เพียงใบหน้าของท่านเท่านั้น... ทั้งการเคลื่อนไหวร่างกาย น้ำเสียงที่ใช้ หรือแม้กระทั่งวิธีที่ท่านหายใจ... ข้ารักทุกอย่างที่เป็นท่าน

"น่ะ... นี่มันชักจะมากไปแล้วนะ...!"

ช่างน่าตื่นเต้นเสียจริง ข้าขยับศีรษะไปมาเพื่อสลัดความโมโหออกไป แฮะๆ... เวลาที่ท่านทำอย่างนั้นแล้วดูน่ารักจริงๆ ท่านพี่ครับ ไม่มีใครอื่นนอกจากข้าที่ได้เห็นท่านทำเช่นนั้น ตอนนี้ท่านเป็นของข้าแค่เพียงคนเดียวแล้ว... ใช่ ใบหน้านั้นแหละ...

ที่นี้ข้าก็จะได้พบท่านทุกเมื่อที่ต้องการ ในเมื่อพวกเราเป็นฝาแฝดกันมันก็ช่างง่ายดายนัก ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าทำไมตัวเองถึงไม่รู้ตัวเร็วกว่านี้นะ

"ข้าจะไม่ไปไหนทั้งนั้น"

ใช่... ท่านเคยสัญญาไว้แล้ว ข้ายังจำคืนที่ข้าตื่นขึ้นมาร้องไห้เพราะฝันร้ายกลางดึกได้ ... ท่านพี่ครับ ตอนนั้นท่านกำลังยืนอยู่ ข้าคิดว่าท่านกำลังพยายามจะจากไปตอนที่ข้ายังหลับ แต่เมื่อเห็นความโศกเศร้าของข้า ท่านก็อยู่กับข้าจนถึงรุ่งสาง กุมมือข้าไว้เพื่อทำให้ข้ารู้สึกปลอดภัย

"ข้าจะอยู่กับเจ้า"

จริงๆ เหรอ ท่านจะไม่ไปไหนใช่ไหม ท่านจะอยู่กับข้าใช่ไหม

"ใช่แล้ว… ตลอดไป"

ข้าไม่มีอาวุธที่จะใช้สังหารตัวเองอีกต่อไปแล้ว ข้าไม่สามารถตายได้ ท่านก็เช่นกัน ข้าไม่ได้ทำอะไรผิดพลาด ถ้าข้ามีชีวิตต่อไปท่านก็จะมีชีวิตต่อไปด้วย และสิ่งเดียวที่ข้าต้องการก็คือการที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ข้าไม่สนหรอกว่าคนอื่นจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ข้าผิดหรือเปล่าครับ ข้ามันแย่หรือเปล่าที่คิดแบบนี้

"ไม่แน่นอน เจ้าเป็นน้องที่ดีมาก"

ท่านพี่ ฟังนี่นะครับ ข้าจะสร้างศาสนาใหม่ขึ้นเพื่อท่าน เพื่อท่าน แล้วก็... แล้วก็กาบรีเอลาด้วย ข้าจำได้ดีว่าท่านรักนางมากแค่ไหน

"ไม่ใช่แค่นางสิ กาเบรียลก็ด้วย ข้ายังคงรักนางถึงแม้นางจะเกิดใหม่เป็นอีกคนแล้วก็ตาม"

ใช่แล้ว ถ้าอย่างนั้นข้าจะสร้างวิหารที่บูชาพวกท่านทั้งสามคน

"ไหนลองเล่าให้ข้าฟังต่อซิ"

แน่นอน เป็นเพราะซีโร ตอนนี้มหาวิหารเลยพังทลายไปหมดแล้วใช่ไหมล่ะครับ แต่ว่าข้าจะสร้างทุกอย่างขึ้นใหม่ตั้งแต่ต้น แล้วข้าก็จะตั้งศาสนา และรวบรวมผู้ศรัทธา จริงสิ จากนั้นข้าก็จะสร้างสัญลักษณ์ให้กับมันด้วย สัญลักษณ์ที่แสดงถึงตัวตนของพวกเรา ท่านคิดว่าอย่างไรบ้างครับ

"ก็เข้าท่าดีนะ"

ท่านก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันใช่ไหมครับ ภาพของท่านพี่กับข้าที่แก้มกำลังแนบกันราวกับว่าพวกเราเป็นหนึ่งเดียว... เหมือนกับพวกเรากำลังสะท้อนกันและกันอยู่

"นั่นมันก็เหมือนกับพวกเรามีแค่ 3 ตาเลยน่ะสิ"

ใช่แล้วล่ะครับ ที่จริงแล้วข้าอยากให้รวมกันมากกว่านี้... ข้าอยากให้สิ่งที่แบ่งแยกพวกเราอยู่หายไป พวกเราจะได้หลอมรวมกัน... เช่นนั้นแล้วพวกเราก็จะไม่พรากจากกันอีก ข้าไม่สนหรอกว่าพวกเราจะแยกกันได้อีกหรือเปล่า ข้าอยากให้พวกเราเป็นหนึ่งเดียว (One) อา... ทว่า...

ทว่าข้าไม่อาจอยู่ต่อไปได้

ห้องนี้ที่ไม่เคยถูกผู้ใดค้นพบมาก่อนตอนนี้กลับถูกทำลายลง เวทมนต์ของท่านพี่หายไป และแล้วก็มีรูขนาดใหญ่ปรากฏอยู่บนพนัง

"ท่านวัน ท่านอยู่ที่นี่มาตลอดเลยหรือครับ…!"

เหล่าคนแปลกหน้าทำลายกำแพงแล้วมายืนอยู่ต่อหน้าข้า ข้าคิดว่าพวกเขาคงจะเป็นนักบวชที่อยู่ในมหาวิหาร

"พวกข้าดีใจเหลือเกินที่ท่านปลอดภัย!"

พวกเขาทุกคนมีน้ำตาคลอเบ้า ข้าจึง... ข้าจึงตอบไปว่า

"ข้าต้องขอโทษด้วยที่ทำให้พวกเจ้าต้องเป็นห่วง ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ บาดแผลของข้าหายดีแล้ว"

พี่สาว (น้องชาย) ของข้าอยู่ด้วยกันกับข้าเสมอ พวกเราคือหนึ่งเดียว (One)

"พวกเราไปกันเลยไหม"

ตอนนี้นาง (เขา) และข้าจะออกไปสู่ภายนอกด้วยกัน...

"ข้าอยากจะสร้างวิหารขึ้นมาใหม่"

"ท่านวัน"

บัดนี้พวกเราสองคนจะเป็นผู้เบิกทางศรัทธาครั้งใหม่

"เพื่อให้ความเคารพแก่ผู้เฝ้ามอง..."

ข้ามั่นใจว่าจะมีผู้คนมากมายมารวมตัวกันเพื่อบูชาเหล่าเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลง และเทพรับใช้ของพวกนาง

ทั้งหมดนี้เพียงเพื่อท่านพี่ผู้คอยเฝ้ามองข้า…

ความคิดเห็น

  1. จะว่าไป one ก็น่าสงสารนะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. แอดมินก็คิดว่าอย่างนั้นเหมือนกันค่ะ T^T

      ลบ
  2. โคตรเศร้า TT' ขอบคุณที่แปลมากๆครับ ตามอ่านตั้งแต่ตอนแรกเลย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ทางนี้ก็ขอบคุณที่ติดตามบล็อคมากเลยนะคะ ^^

      ลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Spoil NieR Automata Part 27 Ending E : the End of YoRHa และวิเคราะห์เนื้อเรื่องทั้งหมดตามใจฉัน

ผ้าปิดตาของ YoRHa