มโน Home Sweet Home เมื่อบ้านเราไม่หวานเหมือนเดิม


คำเตือน บทความนี้สปอยหนักมาก และเกิดจากพลังกาวล้วนๆ

จับกระแสกับเกมไทยอย่างเกมบ้านหวาน Home Sweet Home กันสักหน่อย ส่วนตัวแม้ผู้เขียนจะคิดว่าเกมนี้ยังมีข้อเสียอยู่หลายจุด เนื้อเรื่องบางช่วงค่อนข้างเหนื่อยๆ แต่ก็ถือว่าสร้างความว้าวได้ไม่น้อย และเชื่อว่าหลายคนพอเห็นคำว่า "To Be Continued on... Episode 2" ในฉากจบคงออกอาการหลอนกันไม่น้อย อุบ๊ะ ทำไมไม่ทำทีเดียวให้หมด แต่ก็เข้าใจทางผู้พัฒนาเหมือนกันนะว่าการแบ่งเป็นหลายๆ ตอนจะค่อนข้างเซฟตัวเอง ได้แนวทางในการทำงาน และยังไม่กดดันมากเกินไป เอาเป็นว่าจะตั้งตารอคอยตอนต่อไปให้ออกมาไวๆ นะคะ

และด้วยความที่เกมนี้ถูกแบ่งเนื้อเรื่องออกเป็น 2 ตอน (มีใครให้มากกว่าไหม) ทำให้เนื่อเรื่องในภาคนี้ยังไม่ได้ถูกเปิดเผยทั้งหมด แต่ที่จริงเรียกว่าถูกแง้มมาแค่นิดเดียวดีกว่า บทความนี้จึงจะพามาสูดกาวมโนเนื้อเรื่องต่อจากนี้กัน เอ้า ทุกคน หยิบถุงกาวขึ้นมา สูดดด

ก่อนอื่นก็มาแจกแจงตัวละครกันว่าเกมนี้มีตัวละครหลัก หรือตัวละครมีปมต่อเนื้อเรื่องกี่คน คนแรกก็คือนายติม ตัวเอก คนต่อมาคือเจน ภรรยาของติม ดิว เพื่อนสนิทเสียงระทวยของติม น้องเบล ผีนักศึกษา นายเชน แฟนของเธอ เชอร์รี่ เพื่อนของเชน เปรตพิชัย ผีนางรำ และนายประยุทธ์ จันทรา

พอจับแบ่งความสัมพันธ์ออกเป็นกลุ่ม กลุ่มแรกจะประกอบด้วยติม เจน และดิว กลุ่มต่อมามีเบล เชน กับเชอร์รี่ ส่วนพิชัย กับผีนางรำ ดูจะจับรวมกลุ่มกับใครไม่ได้เลย แล้วกลุ่มเหล่านี้มีอะไรเชื่อมโยงถึงกันบ้างล่ะ ดูแล้วแต่ละกลุ่มก็ไม่น่าจะมีความรู้จักกัน (อย่างน้อยก็จากข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน) ไม่อย่างนั้นตัวละครก็น่าจะมีอาการอะไรบ้างเวลาเห็นหน้าอีกฝ่าย เช่นติมที่ถูกผีนักศึกษาไล่ล่าหากเขารู้จักเธอก็น่าจะเอะใจ หรือถ้าเขารู้จักเชนตอนเห็นภาพอีกฝ่ายผูกคอตายก็น่าจะแสดงอาการมากกว่า "เชี่ยเอ้ย" ดังนั้นผู้เขียนเลยเอาความคิดที่ว่าตัวละครทั้งสามกลุ่มรู้จักกันเป็นการส่วนตัวออกไปก่อน แล้วหันมาพิจาณาสิ่งที่เป็นหัวใจหลักของเกมเลยนั่นก็คือ "บ้าน"


ในไดอารีของเจนจะทำให้เราทราบว่าติมเพิ่งซื้อบ้านหลังนี้ได้ไม่นานเพื่อฉลองการแต่งงานครบรอบ 1 ปีของเขา และภรรยา ตอนแรกผู้เขียนก็แอบคิดว่าหรือบ้านนี้จะเป็นบ้านเคยมีประวัติคนตาย แต่ก็ไม่มีจุดไหนที่บอกว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านมือสอง แถมเหตุการณ์ล่าท้าผีต่างๆ ก็จะเกิดในสถานที่อื่น ไม่ว่าจะเป็นบ้านไม้เรือนไทย สถานีตำรวจ หรือมหาวิทยาลัย แถมทุกที่ยังอยู่คนละจังหวัด จึงมีความเป็นไปได้ว่าบ้านหลังนี้ผุดผ่องไม่มีความเป็นมาแอบแฝง

ถ้าอย่างนั้นลองมาดูสายสิญจน์ซิ ก็ในเกมมันมีสายสิญจน์สีแดงโยงไปทั่วเลยนี่นา แถมยังลามไปอยู่ในสถานที่ต่างๆ ที่เจอผีด้วย เออ เริ่มเข้าเค้า แต่แล้วไงหว่า สายสิญจน์มันก็เป็นของผนึกผี หรือเครื่องรางป้องกันผีอยู่แล้ว การที่จะเจอมันอยู่ในทุกที่มันก็แลดูสมเหตุสมผลในตัวมันอยู่ ถึงอย่างนั้นก็ไม่เห็นความเกี่ยวข้องอย่างอื่นอยู่ดี

ถ้าคิดตามนี้แล้วนอกจากตัวละครจะไม่รู้จักกัน บ้านก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน แล้วความเชื่อมโยงมันอยู่ตรงไหน ลองย้อนกลับไปสิว่าเหตุการณ์คนเห็นผีมันเริ่มขึ้นยังไง อืม... ดูเหมือนจะเริ่มตั้งแต่หลังติมได้เลื่อนตำแหน่งจนต้องทำงานดึก ทำให้เจนต้องอยู่บ้านเดียวสินะ แล้วคนที่เริ่มเห็นผีคนแรกก็คือเจน... แต่ไม่มีอะไรเชื่อมโยงเธอกับการเห็นผีได้อยู่ดี งั้นถ้าลองคิดว่าที่จริงแล้ว "ผีไม่ใช่ผี" ล่ะ

สูดดด ฮาาา สูดกาวอีกหนึ่งฟอด ที่จริงผู้เขียนไม่ได้คิดว่าผีในเกมนี้เป็นแค่ผีมโนนะ เป็นของจริงมีตัวตนจริงในโลกของเกมนี่แหละ แต่ผีแต่ละตนมีบางอย่างที่เชื่อมโยงกับติม และเจน

ผีคือสิ่งที่จ้องทำร้ายทั้งคู่... ผีคือสิ่งที่ทำให้ติมกับเจนต้องแยกจากกัน...

ผี คือนัยยะที่สื่อถึงปัญหาความสัมพันธ์ของทั้งสองคน

ทวนกันใหม่ เจนเริ่มกลายเป็นเจนญาณทิพย์หลังจากที่ติมเริ่มกลับบ้านดึก หรือทำงานโต้รุ่งจนไม่กลับมาเลย คืนหนึ่งเธอได้ยินเสียงเหมือนอีกฝ่ายเปิดประตูบ้านเข้ามา แต่พอลงมาดูชั้นล่างกลับไม่พบใคร หากผีคือปัญหาความสัมพันธ์จริงๆ ก็หมายความว่าเธอเริ่มสัมผัสได้ถึงเค้ารางที่เริ่มก่อตัวขึ้นช่วงนี้เอง ทว่าเจนก็ยังพยายามมองโลกในแง่ดีว่าติมทำเพื่อเธอ และอนาคตของครอบครัว แถมไม่น่าจะมีเรื่องผู้หญิงเพราะสามีก็ถ่ายรูปคู่กับดิว เพื่อนร่วมงานที่เป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเด็กมาให้เธอดูเพื่อยืนยันความบริสุทธ์ด้วย เธอกับสามีได้เพียงพูดคุยกันผ่านโพสอิทบนตู้เย็นทั้งๆ ที่อยู่บ้านเดียวกัน ได้เพียงรำพึงรำพันความรู้สึกในใจลงในไดอารี เธอถามตัวเองว่าทุกอย่างยังปรกติอยู่หรือเปล่า และนั่นแหละที่ทำให้เจนสัมผัสได้ เธอมองเห็นปัญหาชีวิตคู่ที่กำลังเริ่มขึ้น


แม้จะมั่นใจในตัวคนรักเพียงใด แต่นานวันเข้าความเชื่อใจก็เริ่มถดถอยลง รูปคู่ที่ทั้งสองถ่ายด้วยกันมักล้มคว่ำลงเอง อีกทั้งเมื่อเธอแสดงความกลัวต่อสิ่งลี้ลับ ติมกลับมองไม่เห็นมัน (ไม่เห็นปัญหา) เขาแสดงอาการรำคาญมากขึ้นเล็กน้อย ซ้ำยังไม่คิดแก้ไขด้วยการรีบกลับบ้านมาอยู่เป็นเพื่อนภรรยาที่หวาดกลัว เมื่อเธอไปหาพระเกจิกับเณรจนได้มีดหมอมา เจนก็คิดออกทันทีว่าเขาจะต้องบอกว่าเธอทำเรื่องไร้สาระ และงมงาย (หรือคิดมากไปเอง) จนในที่สุดเธอก็หลงเข้าไปในโลกของผี (ปัญหา) เพียงลำพัง

ในส่วนนี้ดิวน่าจะเข้ามามีส่วนร่วมไม่มากก็น้อย เขาอาจมีความสัมพันธ์เกินเพื่อนกับติม พาติมไปเที่ยวผู้หญิง หรืออาจแค่สนับสนุนให้ติมทำงานดึกไม่ต้องกลับบ้าน จากการที่เขาเทียวโทรมาเรื่อยๆ แต่กลับไม่ยอมมาหาติมที่บ้านในตอนที่เพื่อนเครียดกับการหายตัวไปของภรรยา ก็ทำให้พอคิดได้ว่าเขาอาจรู้สึกผิดกับติมที่เป็นสาเหตุหนึ่งในเรื่องนี้จนไม่กล้าเผชิญหน้าโดยตรง

การหายตัวไปของเจนทำให้ติมตกอยู่ในความเศร้า หลังจากผ่านไปหลายเดือน ในที่สุดเขาก็เริ่มฝันถึงผีนักศึกษา เห็นในสิ่งที่เจนเขียนไว้ในไดอารีว่าเธอได้พบกับเรื่องราวเหนือธรรมชาติพวกนี้ ใช่แล้ว หลังจากได้กลายเป็นฝ่ายรอคอยคู่รักเพียงคนเดียว โดยไม่ทราบว่าอีกฝ่ายจะกลับมาหาหรือไม่เช่นเดียวกับที่เจนต้องประสบ ในที่สุดติมก็มองเห็นผี (ปัญหา) ทันใดนั้นสายสิญจน์สีแดงก็ปรากฏขึ้น ผูกมัดขวางกันทางออกจากบ้านทั้งประตู หน้าต่าง ไม่ให้ผีออกไปนอกบ้านได้ และทำให้เขาสามารถเข้าไปในมิติของเหล่าวิญญาณร้ายผ่านทางห้องใต้บันได สถานที่เรามักเอาของที่ไม่ใช้ ไม่ให้ความสำคัญ หรือของที่ไม่ต้องการแต่ตัดใจทิ้งไม่ลงไปเก็บไว้

แล้วผี (ปัญหา) แต่ละตนนั่นคืออะไรล่ะ ที่น่าสนใจคือผีนักศึกษาจะมีเพียงติมเท่านั้นได้พบ เจนได้พบกับผีนางรำ ส่วนผีเปรตนั้นสามารถพบได้ทั้งคู่

เรามาพิจารณาจากผีเปรตพิชัยกันก่อน จากในเกมเนื้อหาจะค่อนข้างชัดเจนว่าสมัยยังมีชีวิต พิชัยใช้ชีวิตเป็นเด็กแว้นซ์ร่วมลักทรัพย์กับเพื่อนในกลุ่ม และสุดท้ายก็ทำร้ายมารดาเพื่อขโมยของในบ้าน ผู้เขียนคิดว่าสิ่งที่ทำให้ติม และเจนได้พบกับพิชัยนั้นนอกจากผู้พัฒนาอยากจะเป็นคนอวดผีแล้วก็เป็นเพราะสิ่งที่ทั้งคู่เผชิญคือการทำร้ายกันในครอบครัวนั่นเอง แม้ติมจะไม่ได้ทำร้ายร่างกายภรรยาเหมือนกับที่พิชัยทำกับแม่ แต่การเพิกเฉยต่อความรู้สึกของเธอก็เป็นการทำร้ายทางจิตใจอย่างหนึ่ง และตอนนี้เองเขาก็ต้องทนทุกข์กับสิ่งที่ตนเองทำกับอีกฝ่ายไว้ ไม่ต่างกับพิชัยที่ต้องกลายเป็นเปรตเพื่อชดใช้กรรมที่ทำร้ายบุพการี

ต่อมาคือผีนางรำ แม้ตอนนี้เราจะยังไม่ได้เผชิญหน้ากับเธอมากนัก แต่หากสังเกตในบ้านที่เธอสิงสู่ดีๆ เราจะพบกับรูปนักแสดงตัวพระ และตัวนางสองคนยืนอยู่ด้วยกัน ทว่าใบหน้าของทั้งสองกลับถูกกรีดทำลาย ทั้งตอนที่เจ้าหล่อนฟ้อนรำให้เราได้ชมกัน เพลงประกอบในฉากนั้นก็คือเพลงธรณีกรรแสงซึ่งมีเนื้อเพลงเกี่ยวกับการพรากจากคนรักด้วย


ประวัติผีผู้หญิงโบราณในประเทศไทยมักถูกผูกเกี่ยวกับการยึดติดอะไรบางอย่าง เช่นการรอคอยคนรักข้ามภพข้ามชาติ การเฝ้ารอการแก้แค้นคนที่ทำร้ายเธอ หรือการเฝ้าทรัพย์เหมือนคุณอุบลในเรื่องพิษสวาท นางนากรอพี่มากในเรื่องนางนาก (อย่างน้อยเราก็ไม่เคยเห็นภาพผีผู้ชายรอคอยวิญญาณคนรักมาเกิดใหม่ในละคร หรือภาพยนต์ไทย) ทว่าขณะเดียวกันการที่ผีห่มสไบพันผ้าคาดอกเหล่านี้ยึดติดกันขนาดนั้นก็เป็นผลมาจากค่านิยมชายเป็นใหญ่ทั้งหลาย ยามมีชีวิตพวกเธอถูกพร่ำสอนให้ต้องเคารพผัว  ไร้อำนาจใดๆ ในการกำหนดชีวิตให้ตนเอง นั่นทำให้หลังความตายพลังคอสโมที่เก็บกดในใจถูกระเบิดออกมา ผีผู้หญิงจึงมักมีอิทธิฤทธิ์อภินิหาร หรืออีกนัยคือพวกเธอจะมีพลังเมื่อกลายเป็นผีเท่านั้น ดังนั้นผู้เขียนจึงคิดว่าผี หรือปัญหาที่เจนต้องเผชิญด้วยนั้นคือพลังอำนาจของผู้หญิง แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะเรียกร้องสิทธิอะไรให้ตัวเอง เพราะเราจะเห็นได้ว่าระหว่างที่อยู่ในมิติพิศวงนั้นเธอพยายามวิ่งหนีติมตลอดเวลา แถมยังถือมีดหมอพร้อมบวกกับผีนางรำอีก สิ่งที่เจนต่อสู้อยู่คือพลังของผู้หญิงอีกคนที่เป็นปัญหาต่างหาก

หลังจากที่ถูกสามีละเลยเป็นเวลานาน เจนน่าจะเริ่มคิดว่าติมไปติดพันกับผู้หญิงสวยแซ่บสดใหม่ ช่างเจรจาฉอเลาะต่างจากเธอที่พูดไม่เก่ง (มีพลังอำนาจมากกว่าเธอ) โดยมีนายดิวเป็นคนชักชวนให้ออกนอกลู่ (หรือจิ้นวายก็คือตัวบักดิวเอง) แม้เธอจะพยายามหลอกตัวเองว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ และไม่ว่านายติมจะทำผิดจริงหรือไม่ สุดท้ายเจนก็ไม่อาจหยุดความคิดของตน เธอบอกปัญหากับสามี ทว่าอีกฝ่ายกลับมองว่าเธอไร้สาระ พอหันไปเข้าหาธรรมะ พระเกจิกลับไม่อาจช่วยเหลืออะไร เธอจึงไม่อาจใช้ศาสนาเข้าดับไฟในใจ และสุดท้ายเจนก็ไปรับมีดหมอมาจากเณร มีดที่สามารถใช้เป็นอาวุธที่ทั้งสามารถใช้ทำร้าย หรือป้องกันตัวเองได้ และผู้เขียนคิดว่าความจริงก็คือเธอเริ่มใช้ความรุนแรงตอบโต้ปัญหา ทว่านางไม่ได้เอามีดไปจ้วงผัวตัวเองนะ แต่จะเอาไปจัดการนังเมียน้อย (หรือผัวน้อย) มือที่สามเนี่ยแหละ โดยเอานายติมออกไปจากระบบสมการ มุ่งเข้าโรมรันกับหญิงคนนั้นเพียงคนเดียว และเธอก็หมกหมุ่นกับมันจนไม่อาจออกมาจากโลกวิญญาณได้


แล้วหากเราโยงความสัมผัสที่มีปัญหาเพราะมือที่สามของติมกับเจนเข้ากับผีนางรำ ผู้เขียนก็มโนได้ว่าเธออาจจะแย่งชิงตำแหน่งตัวนางกับหญิงอื่นในคณะ แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้รับเลือก หรือถูกแย่งบท "ตัวจริง" และเป็นได้เพียง "ตัวสำรอง" เท่านั้น และคนที่เล่นเป็นตัวพระก็น่าจะมีส่วนในเรื่องนี้ไม่น้อย เธอจึงเกิดความเคียดแค้นริษยาจนไปกรีดภาพใบหน้าของทั้งสอง ทั้งยังถูกผูกมัดหมกหมุ่นกับการเป็นตัวนางเลยใส่ชุดนี้อยู่ตลอดเวลา เที่ยวรำด้วยท่าของบทนี้อยู่ร่ำไป และเมื่อเธอกลายเป็นผีแล้วเธอจึงมีพลังอำนาจมากขึ้นตามค่านิยมผีไทย ส่วนที่เธอต้องทำร้ายเจนนั้นก็เพราะว่าอีกฝ่ายที่เป็นภรรยา "ตัวจริง" กำลังถือมีด (ความรุนแรง) มาท้าทายไฝ้ว์กับเธอที่เป็น "ตัวสำรอง" ในการแสดงนาฏศิลป์ ทว่ามีพลังอำนาจมากกว่า แต่ก็อย่างที่เราได้เห็นในตอนจบของเกม ความรุนแรงไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา หรือจัดการกับผีได้เลย

ส่วนคนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือเบล ผีนักศึกษาผู้เป็นเหมือนประเด็นหลักของเกมนี้

ในขณะที่ผีนางรำเป็นผีประจำตัวของเจน ผีน้องเบลก็เหมือนสแตนของติม จากเอกสารที่เราสามารถพบได้ภายในฉากมหาวิทยาลัย เราจะพอเดาได้ว่าเบลทำเสน่ห์ใส่นักศึกษาชายที่ชื่อว่าเชน แต่ต่อมาเชอร์รี่ คนที่น่าจะเป็นเพื่อนของเขา (หรืออาจจะเป็นแฟนเก่า) ได้สังเกตเห็นความผิดปรกตินี้ จึงแนะนำให้ทางบ้านของเชนแยกเขาออกจากเบล สิ่งนี้สร้างความโกรธแค้นให้แก่เบลมากจนเธอทำพิธีเสกตะปูเข้าท้องของเชอร์รี่ แต่อีกฝ่ายได้รับความช่วยเหลือทันเวลาส่งผลให้ของย้อนกลับ เบลอาเจียนออกมาเป็นตะปูเสียเลือดจนสิ้นชีวิต และกลายเป็นวิญญาณร้ายไม่ได้ไปผุดไปเกิด ส่วนทางด้านเชนหลังทราบข่าวการจากไปของเธอ เขาก็ได้ผูกคอตายภายในมหาวิทยาลัย


พอมองมาในแง่นี้จะพบว่าความสัมพันธ์ของเบล เชน กับเชอร์รี่นั้นค่อนข้างมีความคล้ายคลึงกับความสัมพันธ์ของติม เจน และดิว ร่วมไปถึงเรื่องราวของผีนางรำมาก นั่นคือการมีคน 3 คนอยู่ในสถานการณ์ ความรัก ความอิจฉา และตัณหาที่โยงกันยุ่งเหยิง ความผูกผันที่มากเกินไปจนกลายเป็นความผูกมัด ก่อนที่สุดท้ายสายใยนั้นจะหันมารัดคอทำร้ายทุกๆ ฝ่าย นั่นอาจเป็นสาเหตุว่าทำไมติมจึงได้พบกับเบลในห้วงมิตินี้ และเธอคือตัวแทนของความรักที่มากเกินไปจนทำร้ายคนรักโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งอาจคล้ายกับติมที่มุ่งมั่นทำงานจนลืมคิดถึงความรู้สึกของภรรยา

บ้านไม่ได้แค่สิ่งก่อสร้างที่เราใช้อาศัยเพียงอย่างเดียว แต่มันก็ยังเป็นสิ่งที่รวบรวมสมาชิกครอบครัวเอาไว้ด้วยกัน และควรเต็มไปด้วยความรักความผูกผัน แต่เมื่อมีปัญหาเข้ามาจนทำให้บ้านรก ข้าวของกระจัดกระจาย ไร้แสงสว่าง และทางออก หรือการบังคับให้ใครเข้ามาอยู่ในบ้านกับเรา หากวันหนึ่งความสัมพันธ์ของเรายุ่งเหยิงดังสายสิญจน์ที่มัดโยงจนบ้านไม่ได้เป็นบ้านอีกต่อไป บางทีการตัดมันออก หรือเอาน้ำมนต์ทำลายสายสิญจน์ที่ผนึกปัญหาไว้ก็อาจเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง

แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ผู้เขียนก็หวังว่าสุดท้ายติมจะได้พบกับเจนแล้วจบอย่างมีความสุข นั่นเพราะว่าเขาไม่เคยละความพยายามที่จะวิ่งฝ่าฝันกับผีร้าย (ปัญหา) เพื่อตามหาเธอที่ไม่อาจถอนตัวออกจากโลกของวิญญาณ และถึงแม้บ้านอันเป็นสิ่งแสดงความเป็นครอบครัวของทั้งสองจะเละเทะ มีสายสิญจน์ผนึกผีเต็มไปหมด แต่ก็ยังมีสายสิญจน์เส้นน้อยที่โยงไปยังสถานที่ต่างๆ พาเขาไปหาเจน แม้สายสิญจน์จะผูกมัดปัญหาต่างๆ ไว้ในบ้าน ขณะเดียวกันมันก็เป็นด้ายแดงเชื่อมโยงความรักความผูกผันของทั้งสอง และนำคนทั้งคู่กลับสู่บ้านหลังนี้ หากฝ่ายที่ตามหายังไม่เลิกละความพยายาม และฝ่ายที่เฝ้ารอยังคงรอคอยการกลับมาของอีกคน สักวันหนึ่งทั้งสองคงสามารถเอาชนะเหล่าผีร้าย แล้วบ้านก็จะได้กลับเป็นบ้านหวาน Home Sweet Home อีกครั้งอย่างแน่นอน

ความคิดเห็น

  1. โอ้! ทฤษฎีนี้ดูมีความเป็นไปได้อยู่นะครับเนี่ย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณมากค่ะ แต่อีกใจก็แอบคิดว่าไม่ติมหรือเจนคนใดคนหนึ่ง หรือทั้งสองคนอาจจะตายไปแล้วเหมือนกันนะคะ

      ลบ
  2. ลึกมากๆๆ ครับ ไม่น่าเชื่อว่าจะ เริ่มมีคนเข้าใจความลึกของเกมนี้

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณมากค่ะ แต่อันนี้ก็เป็นแค่มโนที่คิดๆ ไว้เอง ของจริงอาจไม่ใช่อย่างนี้ก็ได้ค่ะ ^^

      ลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Spoil NieR Automata Part 27 Ending E : the End of YoRHa และวิเคราะห์เนื้อเรื่องทั้งหมดตามใจฉัน

ผ้าปิดตาของ YoRHa