Spoil Drag on Dragoon 3 Part 17 ทู


ในที่สุดพวกซีโรก็มาถึงวิหารแห่งทรายซึ่งเป็นที่อยู่ของทู เจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงคนที่ 4 เมื่อเธอได้พบกับมิไฮล์ที่บินล่วงหน้ามาถึงก่อน หญิงสาวก็กระโดดขึ้นหลังของอีกฝ่ายโดยไม่รอช้า มังกรน้อยออกบินเข้าไปภายในวิหาร เรียกเสียงตะโกนวุ่นวายของเหล่าทหารที่ทราบการมาถึงของผู้บุกรุก แม้จะดูเหมือนไม่มีทางเอาชนะ แต่พวกเขาก็ยังทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ

มิไฮล์ : ในนี้มืดจังเลยเนอะ
ซีโร : นั่นสิ
มิไฮล์ : ถ้าเจ้ากลัวล่ะก็ เรายังกลับกันทันนะ

ซีโร : ไม่มีทาง
ทหาร 1 : อย่าถอยนะ ห้ามถอยเด็ดขาด!
ทหาร 2 : นั่นมันนางปีศาจซีโรนี่นา

ทหาร 3 : นางคิดจะมาท้าทายท่านทูสินะ!
ทหาร 2 : ไม่เอาแล้ว ข้ากลัว ให้ข้าถอยออกจากแนวหน้าเถอะ!
ทหาร 3 : อย่าตื่นไปสิ ถ้าพวกเราต้องตาย พวกเราก็จะตายด้วยกัน รักษาตำแหน่งของเจ้าไว้ พวกเราเป็นทหารกองสุดท้ายของท่านทูแล้วนะ

ทหาร 1 : ใช่ ถึงเวลาแสดงพลังกำปั้นเหล็กไร้พ่ายของพวกเราให้นางได้เห็นแล้ว
ทหาร 2 : พวกเราต้องปกป้องท่านทูที่รักของพวกเราเอาไว้ให้ได้!

ทว่าแม้ความตั้งใจของเหล่าทหารของแรงกล้าเพียงใด สุดท้ายพวกเขาก็ถูกไฟของมิไฮล์คลอกเสียชีวิตอยู่ดี

ซีโร : จะว่าไป ทำไมตอนที่พวกข้าอยู่ในทะเลทรายเจ้าถึงได้หายหัวไปห่ะ ทั้งๆ ที่พวกข้าเกือบจะแห้งตายกันอยู่แล้ว
มิไฮล์ : พวกเขาใช้พลังของเสียงสร้างกำแพงเวทมนต์ ข้าเลยออกไปไม่ได้จนกระทั่งพวกเจ้าจัดการพวกคนเลวได้หมดน่ะซีโร แต่ก่อนมาเจอกับเจ้าข้าก็ทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้วนะ แล้วข้าก็เอาทรายกลบเหมือนที่เจ้าสอนด้วย สบายใจหายห่วงได้เลย สบายใจได้เลย!
ซีโร : อย่างนั้นเหรอ...

หญิงสาวตอบเสียงเหนื่อยอ่อนกับความไร้เดียงสาของคู่หู ไม่นานนักทหารก็ถูกกำจัดลงทั้งหมด แล้วทั้งสองจึงบินผ่านช่องบนพื้นเพื่อลงไปยังส่วนลึกลงไปของวิหาร และที่เสาต้นหนึ่ง ซีโรก็หันไปเห็นน้องสาวคนที่สอง และสาวกของอีกฝ่ายยืนอยู่บนนั้น


แม้พี่สาวคนโตที่เคยประกาศว่าจะเอาชีวิตของตนจะมาปรากฏตัวตรงหน้า ทูกลับเอาแต่นั่งคุกเข่าก้มหน้ามองพื้นโดยไร้การตอบสนองใดๆ ขณะที่เซนท์เดินออกมารับหน้าแทนเจ้านายของตนเอง เขาโค้งตัวแสดงความเคารพเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงผมสีเงินซึ่งมองท่าทีของหญิงสาวผมสีน้ำเงินด้วยความงุนงง

เซนท์ : ยินดีตอนรับคร้าบบ ทุกท่าน
ซีโร : ทู!
เซนท์ : พอดีตอนนี้ท่านทูรู้สึกไม่ค่อยสบายน่ะครับ ไม่สิ ฮ่าๆๆๆ จะพูดยังไงดีล่ะ นั่นสินะ เดี๋ยวพรสวรรค์ด้านการพูดของข้าคงช่วยให้การสนทนาลื่นไหลไปได้เองนั่นแหละ ข้าจะพยายามทำให้นางรู้สึกพึงพอใจที่การเจรจาของพวกเราเป็นไปได้ด้วยดีราวกับ...

ซีโร : ทู!

ซีโรไม่สนใจสิ่งที่สาวกผมสีดำพูดแม้แต่น้อย ดวงตาสีแดงจับจ้องไปที่น้องสาวของตนไม่ลดละ เมื่อได้ยินเสียงเรียกที่ดังขึ้นของพี่สาว ทูกลับสะดุ้งขึ้นเพียงเล็กน้อยก่อนกลับไปนั่งนิ่งเฉยเช่นเดิม และแล้วเสียงร่าเริงชวนปวดหัวของเซนท์ก็กดต่ำลง เช่นเดียวกับคิ้วของเขาที่ขมวดเข้าหากัน ก่อนที่เขาจะหันหลังให้กับผู้บุกรุก เดินมาคุกเข่าเบื้องหน้าเจ้านายของตน

เซนท์ : ตอนนี้ท่านทูกำลังหลงอยู่ในความฝัน ท่านอย่าไปรบกวนนางดีกว่านะครับ
ซีโร : ...นางเสียสติไปแล้วสินะ นางยังแข็งแกร่งไม่มากพอเลยทนรับพลังแห่งเสียงเพลงของตัวเองไม่ไหว ส่งทูมาทางนี้ซะ ข้าจะจบความเจ็บปวดให้นางเอง
เซนท์ : ข้าทำแบบนั้นไม่ได้หรอกคร้าบบ

ซีโร : เจ้าเข้าใจไหมเนี่ยว่าตัวเองกำลังทำอะ...
เซนท์ : แน่อยู่แล้ว คนอย่างข้าจะไปเข้าใจอะไรได้ล่ะคร้าบบบ เพราะว่าข้ามันก็เป็นแค่ไอ้โง่นี่นาาา ก็อย่างนั้นล่ะครับ ทั้งหมดข้าก็แค่ทำตามคำสั่ง แล้วนางก็สั่งให้ข้าสังหารท่าน...
ซีโร : ...เจ้านี่มันโง่จริงๆ

ซีโรเอ่ยด้วยเสียงเศร้าลงเล็กน้อย ดวงตาหลุบลงมองพื้นราวพยายามปกปิดความรู้สึกเอาไว้ แล้วเซนท์ก็หันไปหาทูอีกครั้ง

เซนท์ : งั้นก็ ท่านทูครับ ช่วยพูดว่า อาาา หน่อยสิครับ
ทู : อา...
เซนท์ : เก่งมาก อย่างนั้นแหละครับ ทำต่อไปเรื่อยๆ เลย!

ทูค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา พร้อมกับเวทมนต์ที่ค่อยๆ ขยายตัวร่วมกับเสียงที่ดังขึ้นของเธอ ในที่สุดเวทมนต์แห่งเสียงก็ส่องแสงสีน้ำเงินไปทั่วทั้งโถง

ทู : อาาาาาาา!
เซนท์ : โปรดสดับบทเพลงลำดับที่สอง กำปั้นยักษ์จากโบราณกาล พายุโลหิตที่เชือดเชือนโชคชะตา... หัตถ์เหล็กกล้าที่สาบานภักดี... ข้ามผ่านคำสัตย์แห่งความตายอันบิดเบี้ยวนับครั้งไม่ถ้วน ข้าเซนท์ ขออัญเชิญท่านด้วยนามของข้า... เอกรีโกริ จงร่ายรำ!


สิ้นคำอัญเชิญ สิ่งมีชีวิตเรืองแสงสีฟ้าสองตนที่ก่อนหน้านี้ได้ลักพาตัวมิไฮล์ไปก็ปรากฏขึ้น ร่างกายใหญ่โตของพวกมันทำเอามิไฮล์ดูตัวเล็กลงไปขนัดตา และโดยไม่รอช้า เอกรีโกริก็พุ่งเข้าโจมตีผู้บุกรุกทันที

ซีโร : ให้ตายเถอะ หมอนั่นยังจะอัญเชิญเจ้าหัวมะระน้ำเต้านี่มาอีกเหรอเนี่ย
เซนท์ : แต่ว่าท่านทูคิดว่ามันมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าพวกมะระพันธุ์ปรกตินะครับ อะ ขอเวลานิดหนึ่งนะครับ ท่านรู้หรือเปล่าว่าทำไมผลมะระน้ำเต้าถึงได้คอดตรงกลาง ก็เพราะว่ามันจะได้กลายเป็นครึ่งผักครึ่งผลไม้ไงล่าาา ท่านรู้ไหมล่ะคร้าบบ
ซีโร : อย่ามาทำเหมือนเจ้าเข้าใจเรื่องที่ตัวเองพูดดีนะ เจ้าคนปัญญาอ่อน!

เซนท์ : ปัญญาอ่อนเหรอ หยาบคายจังเลยนะครับ ถึงปรกติคนจิตใจดีอย่างข้าจะให้อภัยคนอื่นอยู่บ่อยๆ ... แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาทำอย่างนั้นว่าไหมครับ ท่านทู
ซีโร : คนโง่ยังไงก็เป็นคนโง่อยู่ดี ที่ทูต้องเสียวิญญาณไปก็เพราะว่านางโง่ที่เอาแต่ฟังคำพูดโง่ๆ ของเจ้าจนตัวเองโง่ยิ่งกว่ายังไงล่ะ
เซนท์ : อย่าพูดจาดูถูกท่านทูนะ หยุดเดี๋ยวนี้ หยุดเดี๋ยวนี้ หยุดเดี๋ยวนี้ หยุดเดี๋ยวนี้!

เซนท์เอ่ยด้วยความเกรี้ยวกราด ขณะที่ซีโร และมิไฮล์หันไปตั้งใจต่อสู้กับเอกรีโกริ จนในที่สุดการโจมตีของมังกรน้อยก็สามารถทำลายเกราะของอีกฝ่ายได้

เซนท์ : กะ เกราะของเทพรับใช้ของท่านทู... แตกอย่างนั้นเหรอ
ซีโร : ใช่สิ ก็เพราะพวกข้าโจมตีมันนี่
เซนท์ : แย่แล้ว ถ้าถูกทำลายหมดล่ะก็ต้องแย่แน่ๆ นี่มันเลวร้ายสุดๆ เลย

ซีโร : ต้องมาสู้กับเจ้าสองตัวนี้พร้อมกันนี่ลำบากชะมัด
มิไฮล์ : ถ้าอย่างนั้นพวกเราทั้งหมดเปลี่ยนไปเป็นเพื่อนกันดีกว่าไหม
ซีโร : ไม่มีวันซะล่ะ!

มิไฮล์ : ตกลงทูนางเป็นอะไรเหรอ
ซีโร : นางพ่ายแพ้ใหักับพลังของตัวเองน่ะ การจะควบคุมพลังแห่งเสียงเพลงได้เจ้าจะต้องมีจิตใจที่แข็งแกร่งพอ แต่นางไม่มีมันไงล่ะ
มิไฮล์ : หมายความว่านางป่วยอยู่ใช่ไหม แล้วไม่ช่วยรักษานางเหรอ ทำอะไรไม่ได้เลยเหรอ

ซีโร : ไม่ได้หรอก แล้วอีกอย่างข้าก็จะฆ่านางอยู่แล้วด้วย
มิไฮล์ : ซีโรดูนั่นสิ พวกมันวิ่งหนีกันไปแล้ว!
ซีโร : อย่าให้พวกมันหนีไปได้นะ!


และแล้วสองคู่หูก็สามารถจัดการเอกรีโกริได้ ร่างของมันหงายหลังล้มลงบนพื้น พร้อมๆ กับที่ซีโรกระโดดลงจากหลังของมิไฮล์ ทว่าทันใดนั้นเองแสงสีฟ้าก็เปล่งออกมาจากดวงตาของเอกรีโกริแล้วพุ่งออกจากตาของมันเข้าใส่หญิงสาวผมสีเงินอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นดังนั้นมังกรน้อยก็รีบเอาตัวเข้าบังซีโรซึ่งยังไม่ทันตั้งตัวโดยไม่คิดถึงตนเอง

มิไฮล์พยายามทนรับพลังของเอกรีโกริอย่างสุดความสามารถ ก่อนที่เขาจะส่งเสียงคำรามออกมา และเมื่อมังกรน้อยหันหน้ากลับไปเผชิญกับเทพรับใช้ พลังของอีกฝ่ายก็พลันสลายไป แสงสีขาวแผ่กระจายของออกจากร่างของมิไฮล์ทำลายร่างของเอกรีโกริจนหมดสิ้น เมื่อซีโรลดแขนที่ยกขึ้นบังแสงลง เธอก็เห็นคู่หูของเธอกำลังรวบรวมเพลิงที่ปลายปาก แล้วมิไฮล์ก็พ่นไฟนั้นเข้าใส่ทูอย่างไร้ความปราณี

ทู : มิ... เคล...

เจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงผมสั้นพึมพำออกมาเมื่อเห็นร่างของมังกรตรงหน้า เธอยื่นมือราวกับจะไขว่คว้าบางอย่างแล้วร่างของเธอก็ถูกเพลิงเผาพลาญไปจนสิ้น ภาพที่เห็นทำให้ซีโรเบิกตากว้าง เมื่อเธอหันมามองมิไฮล์ที่อยู่เบื้องหลังก็พบว่าลำตัวของอีกฝ่ายก็เริ่มมีสีดำ แถมเขาบนศีรษะก็ขยายใหญ่ขึ้นดูราวกับมิเคล มังกรผู้แข็งแกร่งที่สุดซึ่งเป็นชีวิตในในชาติก่อนหน้าของมังกรน้อย เธอเอ่ยคำพูดออกมาอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

ซีโร : นี่เจ้า... วิวัฒนาการ... อีกแล้วอย่างนั้นเหรอ


เซนท์ : แหม ช่วยไม่ได้แฮะ เอาล่ะ ยังไงซะผู้ชายที่ทั้งเก่ง แถมรูปหล่ออย่างข้า เซนท์คนนี้ก็รู้ดีว่าควรวางตัวอย่างไรตอนพ่ายแพ้ ถ้าอย่างนั้นนับแต่นี้ต่อไป... ข้าจะขอให้การรับใช้ท่านซีโรนะครับ

จู่ๆ สาวกผมดำเดินเข้ามาหาเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงคนเดียวที่เหลืออยู่ในที่แห่งนี้ เขายิ้มน้อยๆ ยกมือเสยผมอย่างวางท่า ก่อนวาดมือเข้ากับลำตัวโค้งแสดงความเคารพต่ออีกฝ่าย ซีโรมองเซนท์ที่ก้มหัวให้เธออย่างนอบน้อมด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ แม้ไม่เห็นใบหน้าของคนตรงหน้าเธอก็พอคาดเดาออกว่าเขามีสีหน้าเช่นไร และมันก็ทำให้เธอกำดาบในมือแน่นขึ้น

ซีโร : เจ้าจะไม่ตามทูลงหลุมไปเหรอ

เมื่อได้ยินดังนั้นชายหนุ่มก็ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะส่ายหัวน้อยๆ โดยยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมา

เซนท์ : ฮ่ะๆ ไม่หรอกครับ... ข้าก็แค่ต้องการรับใช้เจ้าหญิงแห่งเสียงเพลง จะเป็นคนไหนข้าก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้น เพราะว่าข้ามันเป็นแค่ไอ้โง่คนหนึ่งจริงไหมล่ะครับ

ในที่สุดเซนท์ก็ยกศีรษะขึ้นมา ดวงตาสีน้ำเงินหรี่ลงพร้อมมุมปากที่เหยียดออกราวกับเขากำลังเหยาะเย้ยอะไรบางอย่าง และแล้วเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงในรายชื่อก็เหลืออีกเพียงคนเดียวเท่านั้น...

เกร็ดความรู้
  • ถึงพอทูตาย เซนท์จะรีบมาขอสวามิภักดิ์ต่อซีโรทันทีจนดูเหมือนว่าที่จริงเขาก็ไม่ได้สนใจเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงของตนเท่าใดนัก แต่ใน DLC ของทูจะทำให้เราได้ทราบว่าก่อนหน้านี้เธอเคยขอร้องเซนท์ไว้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หรือเธอต้องเสียชีวิตไปก่อนเขา เธอก็อยากให้เขามีชีวิตต่อไป ซึ่งเซนท์ก็ให้สัญญาว่าถ้าเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นจริงๆ แม้จะต้องรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็นเขาก็จะมีชีวิตต่อ นั่นเป็นเหตุผลที่เขารีบหันมาขอติดตามซีโร เพราะสาวกต้องอาศัยพลังของเจ้าหญิงแห่งเสียงในการดำรงตัวตนไว้
  • ในช่วงระหว่าง 1 ปีที่ซีโรพักฟื้นตัว ทูกับเซนต์ได้รับคำสั่งจากวันให้กำจัดปีศาจ ซึ่งทูก็รับทำหน้าที่ด้วยความยินดีเพราะต้องการปกป้องผู้คน ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนเธอก็ไม่ย่อท้อ เธอดูแลทหารในสังกัดด้วยความเมตตา สร้างสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ให้ความรักความอบอุ่นแก่เด็กผู้สูญเสียครอบครัวไป
  • ทว่าด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเซนท์ เขาได้แบ่งพลังที่ได้รับจากทูให้แก่ทหาร และเด็กกำพร้า เพื่อทำให้ทุกคนสามารถฟื้นตัว และมีร่างกายแข็งแกร่งขึ้นด้วยพลังของเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลง โดยหวังว่าวันข้างหน้าคนเหล่านั้นจะกลับมาช่วยปกป้องทูผู้เป็นที่รักของเขา แต่มนุษย์ธรรมดาไม่อาจรองรับพลังของเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงได้ หลังจากเวลาผ่านไปช่วงหนึ่งพวกเขาก็สูญเสียตัวตนกลายร่างเป็นปีศาจ 
  • ทูรีบกลับจากการเดินทางเพื่อหาทางช่วยเหลือคนของตน แต่ด้วยที่ไม่มีหนทางใดช่วยเหลืออีกฝ่ายให้กลับเป็นเช่นเดิมได้เธอจึงจำเป็นต้องฆ่าพวกเขาทั้งน้ำตา และเมื่อถึงสถานที่หลบภัยของพวกเด็กกำพร้า เธอก็พบว่าเด็กๆ ได้หลอมรวมร่างกลายเป็นปีศาจสีขาวตัวใหญ่ แม้ตอนแรกเธอจะไม่ยอมรับความจริง แต่เมื่อได้ยินเสียงเด็กๆ ออกมาจากมันพร้อมคำชวนเธอเล่นเช่นตอนยังเป็นมนุษย์ธรรมดา แต่ตอนนี้กลับโจมตีเธอด้วยสำนึกของเดรัจฉาน ทูก็ร้องไห้เหมือนจะขาดใจขณะแกว่งดาบโจมตีใส่อีกฝ่าย เธอเรียกหาความช่วยเหลือจากเซนท์ให้พาเธอออกไปจากความจริงอันโหดร้ายนี้ ก่อนที่เธอจะหัวเราะราวเสียสติ หลังจากนั้นก็ไม่มีคำพูดใดๆ จากเธออีก ดวงตาของเธอเหม่อมองไปไกล ณ ที่ที่ไม่มีใครเอื้อมถึง และเรื่องนี้ก็เป็นปมในใจของเซนท์มาก แต่เขาก็ยังคงอยู่ข้างเธอไม่ห่าง
  • ทูเคยบอกว่าตนเองเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก นั่นเพราะว่าเธอได้รักผู้ชายที่ยอดเยี่ยมที่สุด และเขาก็ยังมอบรักตอบให้เธอด้วย ซึ่งเซนท์เองก็อยากบอกว่าคนที่โชคดีที่จริงแล้วคือตัวเขามากกว่าที่ได้รับใช้หญิงสาวที่หญิงสาวที่งดงาม แข็งแกร่ง ร่าเริง ใจดี และอ่อนโยนเช่นเธอ
  • หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นทูก็แทบไม่ยอมกินอาหารเลย วันหนึ่งเซนท์เลยลองผสมเลือดของตัวเองลงไปในไวน์ให้เธอ เมื่อดื่มมันเข้าไปทูก็เอ่ยคำๆ หนึ่งออกมาเป็นครั้งแรก นั่นคือคำว่า "ฆ่านาง" ทำให้เซนท์คิดว่าเธอหมายถึงซีโร คนที่ก่อนหน้านี้เคยประกาศว่าจะฆ่าน้องสาวทั้ง 5 คนของตน
  • เซนท์เคยมีความคิดชั่วหวูบที่จะบีบคอฆ่าทูตอนเธอหลับ เพราะรับไม่ได้ที่ต้องเห็นคนรักกลายเป็นเช่นนี้ แต่พอรู้สึกตัวเขาก็รู้สึกผิดต่อเธอมาก

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Spoil NieR Automata Part 27 Ending E : the End of YoRHa และวิเคราะห์เนื้อเรื่องทั้งหมดตามใจฉัน

ผ้าปิดตาของ YoRHa