Hellblade: Senua's Sacrifice การต่อสู้ที่ยากลำบากที่สุดคือการต่อสู้ภายในจิตใจของตัวเอง


พอเข้าไปดูคุณ Nutpinto อัพคลิปเล่นเกมใหม่ แล้วได้เห็นฉากเปิดเกมสุดแหวกแนวแกมหลอนประสาทก็รู้สึกแล้วล่ะว่าเกมนี้มันมีอะไรบางอย่างน่าโดนใจ แถมชื่อทีมงานผู้พัฒนาเกมคนแรกยังเป็นที่ปรึกษาด้านจิตวิทยาอีกต่างหาก ยิ่งดูไปก็ยิ่งรู้สึกว่าเข้าแนวพอดี เลยขอมาเขียนวิเคราะห์กันสักหน่อยนะคะ

เกม Hellblade: Senua's Sacrifice มีเนื้อเรื่องเกิดขึ้นในทวีปยุโรปเหนือจึงมีการอ้างอิงความเชื่อเกี่ยวกับพระเจ้าในตำนานนอร์สด้วย และถ้าใครเป็นสายเกมก็น่าจะเคยได้ยินชื่อของสงครามวันสิ้นโลกแร็คนาร็อคมาไม่มากก็น้อย ซึ่งมันก็คือตอนจบของตำนานเทพยุโรปเหนือนั่นเอง

เทพเจ้าในตำนานนอร์สค่อนข้างมีความคล้ายคลึงกับตำนานเทพเจ้ากรีกโรมัน พวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตเผ่าหนึ่งที่มีพลังอำนาจควบคุมสิ่งต่างๆ จนได้รับการเคารพยกย่องให้เป็นเทพ ไม่ได้มีตัวตนจากการสั่งสมคุณงามความดี หรือเป็นจิตวิญญาณตัวแทนของสิ่งใด คล้ายกับแนวคิดเรื่องเทพของเกม Dark Souls ที่เราจะเห็นได้ว่าเทพเจ้ามีตัวตนค่อนข้างเป็นรูปธรรมจับต้องได้ มีรัก โลภ โกรธ หลง หวาดกลัว มีการสืบสกุล และสามารถตายได้ อีกทั้งเทพเจ้าในตำนานนอร์สยังสืบเชื้อสายมาจากยักษ์ด้วย

เราจะได้รับบทเป็นวิญญาณดวงหนึ่งซึ่งเพิ่งมาติดตามนักรบสาวที่มีชื่อว่าเซนัว ผู้มีความสามารถในการสัมผัสถึงความมืด และความตาย นอกจากเราแล้วยังมีวิญญาณดวงอื่นติดตามเธอด้วย วิญญาณหญิงสาวดวงหนึ่งจะคอยเล่าความเป็นมาของเซนัวให้เราฟัง และเรายังได้ยินเสียงวิญญาณพูดคุยกับเธอตลอดทั้งเกม เซนัวออกเดินทางมายังดินแดนแห่งหมอกซึ่งชาวเหนือเรียกว่าเฮล สถานที่อันเป็นปลายทางของวิญญาณก่อนเข้าสู่โลกหลังความตายเฮลไฮม์ สิ่งที่เธอพกติดตัวมีเพียงดาบคู่กาย และศีรษะของดิลเลียน ชายคนรักของเธอที่ถูกชาวเหนือฆ่า แม้ว่าเธอจะหวาดกลัว ยิ่งเห็นศพเรียงรายทั่วบริเวณหญิงสาวก็ยิ่งสับสน แต่เพื่อช่วยเหลือวิญญาณของดิลเลียนจากการถูกทรมานเป็นทาส เซนัวก็ตัดสินใจถีบเรือที่ตนพายมาออกจากฝั่งเพื่อประกาศต่อตัวเอง และเหล่าวิญญาณว่าเธอจะไม่มีวันหันหลังกลับเด็ดขาด เธอจำเป็นต้องพบกับเฮลา เทพีผู้ปกครองดินแดนแห่งนี้ซึ่งเป็นผู้เดียวที่จะปลดปล่อยวิญญาณของดิลเลียนได้

เฮลา หรือเฮล เป็นธิดาของเทพผู้มีนามว่าโลกิกับนางยักษ์ เธอมีร่างกายครึ่งหนึ่งเป็นสาวงาม ส่วนอีกครึ่งเป็นศพเน่าเหม็น ยามที่เธอขึ้นมายังโลกเบื้องบน เธอจะนำพาโรคระบาดติดตามคร่าชีวิตของผู้คน นอกจากเฮลาจะเป็นนายเหนือหัวของความตายแล้ว เทพสาวยังมีหน้าที่รวบรวมวิญญาณเพื่อใช้พวกเขาเป็นกำลังในสงครามแร็คนาร็อค สงครามของเทพเจ้าตามคำทำนายที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้าด้วย

คำเตือน เนื้อหาข้างล่างจะสปอยเนื้อเรื่องเกมกันรัวๆ แล้วนะคะ

เซนัวลอบเข้ามาถึงประตูลับที่คนเป็นสามารถเดินทางเข้าสู่เฮลไฮม์ ที่นั่นเธอได้พบกับความมืดของเฮลา แต่แม้เธอจะอ้อนวอนขอให้เทพสาวปล่อยวิญญาณของชายคนรัก เธอกลับถูกอีกฝ่ายร่ายโรคร้ายใส่แขนข้างขวา ซึ่งมันจะค่อยๆ กัดกินหญิงสาวหากเธอไม่อาจต้านทางความมืดที่เข้าทำร้ายได้ และเมื่อมันลุกลามถึงศีระษะเธอก็จะเสียชีวิต แถมเซฟเกมทั้งหมดของเราก็จะหายไป ต้องเริ่มเล่นใหม่ทั้งหมดด้วย


ถึงเช่นนั้นเซนัวก็ยังไม่ละความพยายาม เพื่อเปิดประตูเข้าสู่เฮลไฮม์ เธอจะต้องสังหารเซิทร์ เทพแห่งไฟ กับวาลราเวน เทพแห่งภาพลวงตา และด้วยคำแนะนำของดรูธ วิญญาณที่พยายามหนีออกมาจากการถูกใช้งานทรมานของแดนเหนือ ในที่สุดเธอก็สามารถเอาชนะเทพทั้งสองได้ แต่ดรูธก็ไม่อาจคงร่างของตัวเองได้อีก เขาจึงฝากให้หญิงสาวช่วยเล่าขานเรื่องของเขาสืบไป

หลังจากเปิดประตูได้ เซนัวก็ต้องเผชิญหน้ากับความมืดที่พยายามสร้างความกลัวให้เธออีกครั้ง พร้อมกันนั้นเธอก็เริ่มได้ยินคำสบประมาทดูถูกจากวิญญาณชายผู้หนึ่งที่อ้างว่าเขาคือเงาของเธอ แล้วโดยไม่ได้คาดคิด เฮลาก็ปรากฏตัวขึ้น ร่างกายครึ่งหนึ่งที่เป็นสาวงาม ส่วนอีกครึ่งเป็นศพของอีกฝ่ายทำเอาเซนัวเข่าอ่อนด้วยความหวาดกลัว ไม่แม้แต่จะทนมองใบหน้าของเทพสาวได้ และถึงแม้เธอจะจับดาบขึ้นต่อสู้ เซนัวก็ไม่อาจต่อกรเฮลา เธอถูกอีกฝ่ายทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังต้องเสียอาวุธคู่กายไปอีก หญิงสาวจึงต้องเข้ารับการทดสอบเพื่อสร้างดาบเกรม ดาบในตำนานของซิกมุนด์ผู้สังหารมังกร เพื่อนำมันมาใช้ทำภารกิจต่อ

การทดสอบของเทพเจ้าคือการให้เธอได้พบกับความหวาดกลัวที่เธอเคยเผชิญผ่านการเปรียบเทียบกับตำนานของยุโรปเหนือ ทั้งการเสียชีวิตของแม่ การถูกความมืดสาปจนทำให้พ่อของเธอกักขังเธอไว้ในบ้านเป็นเวลาหลายปีเพื่อไม่ให้ลูกสาวนำพาความโชคร้ายมาสู่คนในหมู่บ้าน การได้พบกับดิลเลียนผู้ยอมรับทุกสิ่งที่เธอเป็น ความขัดแย้งระหว่างสิ่งที่พ่อสอน และสิ่งที่ชายคนรักบอก อนาคตอันสดใส กับความหลังอันดำมืดที่ไม่อาจอยู่ร่วมกัน การตัดสินใจต่อต้านผู้เป็นบิดา การถูกชาวบ้านครหาว่าตัวกาลกิณี การพยายามต่อสู้กับความมืดเพื่อที่เธอจะสามารถอยู่กับคนรักได้อย่างเช่นคนปรกติ แม้นั่นจะหมายถึงการทิ้งเขาไว้เพียงลำพังจนเธอต้องสูญเสียเขาไปอย่างไม่อาจหวนคืน แต่แล้วเสียงเรียกของดิลเลียนก็ทำให้หญิงสาวสามารถผ่านการทดสอบ เซนัวตัดสินใจทิ้งอดีตอันเลวร้ายของตนไว้เบื้องหลัง แล้วดึงดาบเกรมมาออกมาจากหินเพื่อไปต่อสู้อยู่เคียงข้างคนรัก แต่ตอนนั้นเองเธอก็ถูกความมืดเข้าโจมตีอีกครั้ง

คำพูดของซินเบลกลับมาในห้วงความคิดของเซนัว เมื่อดิลเลียนต้องสูญเสียพ่อในเหตุการณ์โรคระบาด ทุกคนต่างก็สาปแช่งกล่าวโทษว่าเธอคือผู้ที่นำพาโรคระบาดมาจนคร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย หญิงสาวตกลงสู่ทะเลเลือดที่เต็มไปด้วยซากศพ ต้องเข้าฟาดฟันกับความมืดที่เข้าโจมตีเธอไม่หยุด แม้เซนัวจะเห็นใบหน้าของมารดาบนหินผาแล้วร้องเรียกให้อีกฝ่ายช่วยเหลือตน กาลีนาก็ไม่อาจช่วยอะไรลูกสาวได้ มีหรือที่คนที่พ่ายแพ้ให้ความมืดอย่างเธอจะมีพลังพอจะช่วยเหลือคนอื่น วิญญาณพากันบอกให้เธอกับแม่มอบชีวิตให้พระเจ้า กระนั้นเสียงให้กำลังใจของดิลเลียนก็ช่วยเรียกเธอกลับสู่ความจริง เซนัวผ่านการต่อสู้ที่ยากเย็นที่สุดในจิตใจของตัวเองพร้อมก้าวเท้าเข้าสู่เฮลไฮม์

เมื่อเซนัวเปิดประตูสู่ด้านในไปเรื่อยๆ เธอก็สัมผัสได้ถึงความมืดคุกคามของการ์ม สุนัขยักษ์ผู้เฝ้าประตูนรก เธอจึงต้องคอยอยู่ในแสงสว่างเพื่อไม่ให้สัตว์ร้ายสามารถทำร้ายเธอได้ เซนัวได้พบกับกาลีนาที่ถูกจองจำอยู่ที่นี่ แม้วิญญาณจะเตือนว่าเป็นกับดักแต่หญิงสาวก็รีบเข้าไปหาแม่ กาลีนาได้ยินเสียง และเห็นวิญญาณไม่ต่างจากลูกสาว ความเกลียดชังเจ็บปวดของพวกมันทำให้เธออยากได้รับการช่วยเหลือ แต่สามีกลับสั่งให้เธอไล่พวกมันด้วยทำร้ายร่างกาย ตอนนั้นเองจู่ๆ กาลีนาก็ได้ยินเสียงของใครบางคน เธอแสดงความหวาดกลัว และขอร้องให้ลูกสาวช่วยพาตนออกไป ก่อนที่ร่างของเธอจะกลืนหายไปในความมืด

คำพูดของแม่ทำให้เซนัวนึกถึงเรื่องในวัยเด็ก บางทีกาลีนาอาจจบชีวิตตัวเองเพื่อหนีจากความมืดที่คุกคามตน หญิงสาวจำไม่ได้แล้วว่ารอยยิ้มเริ่มหายไปจากใบหน้า และสายตาของแม่เริ่มมองไปยังที่ที่ลูกสาวไม่อาจไปถึงเมื่อใด ซินเบล ผู้เป็นพ่อของเธออธิบายว่านี่เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นหากเธอยอมรับความมืดเข้ามา แล้วนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ทำให้เซนัวรู้จักกับความหนาวเย็นของความกลัว หลังจากนั้นไม่นานยามที่เธอถูกขังไว้ในห้องคนเดียวยามค่ำคืน เด็กหญิงก็เริ่มมองเห็นใบหน้าของสัตว์ประหลาดรอบตัว ซึ่งนั่นก็ทำให้ซินเบลตระหนักได้ว่าลูกสาวของเขาก็มีปีศาจอยู่ภายในใจไม่ต่างจากมารดา

เซนัวสามารถไขปริศนาเวทมนต์จนค้นหาเส้นทางไปต่อ แต่แล้วเธอก็ถูกการ์มวิ่งไล่กวดไปทางสะพานแขวนซึ่งผุหัก แม้เธอจะสามารถรอดพ้นเงื้อมือของมันมาได้ แต่ศีรษะของดิลเลียนก็ตกลงสู่เบื้องล่าง วิญญาณรอบตัวต่างพากันร้องว่าภารกิจของเธอล้มเหลว ทว่าเซนัวยังไม่ยอมแพ้ หญิงสาวไม่ได้มาที่นี่เพื่อสู้กับอดีต แต่เธอมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือดิลเลียน และจะไม่มีวันยอมแพ้ให้ความมืดเหมือนแม่เด็ดขาด เธอกลับไปเผชิญหน้ากับความกลัวอีกครั้ง และหลังจากต้องต่อสู้กับการ์มในความมืด ในที่สุดเธอก็ได้ศีรษะของคนรักกลับมา


หญิงสาวจะไม่เบือนหน้าหนีจากความกลัวอีกต่อไป เธอมุ่งหน้าจนพบกับกระจกบานหนึ่งซึ่งทำให้วิญญาณที่ติดตามเธอหวาดกลัว พวกมันต่างร้องให้เธอหยุด แต่เซนัวตัดสินใจแล้ว เธอไม่ได้ร้องขอให้พวกมันมาเป็นส่วนหนึ่งของเธอ และหากไม่อยากตายไปด้วยกัน พวกมันก็ควรละทิ้งเธอเสียแต่ตอนนี้ เซนัวมองเข้าไปในกระจกซึ่งสะท้อนภาพใบหน้าหวาดกลัวของเธอออกมา แต่แม้เธอจะยังไม่ได้ขยับร่างกาย เงาสะท้อนกลับเคลื่อนไหวขอร้องไม่ให้เธอทอดทิ้งพวกตน ก่อนที่มันจะเดินออกมาจากกระจกเพื่อหว่านล้อมเธอ ทว่าเซนัวก็ไม่หวั่นไหว เธอเดินเข้าไปในกระจกปล่อยให้เงาของตนกรีดร้องแล้วสลายหายไป

เซนัวเดินเข้าไปในกระจกอีกบาน ที่ๆ เธอได้พบกับความมืด และประกายเพลิงลุกไหม้ เสียงกรีดร้องของกาลีนาทำให้หญิงสาวหันไปพบกับภาพที่อีกฝ่ายถูกจับมัดอยู่ท่ามกลางเปลวไฟโดยมีเงาของผู้คนที่ยืนดูอยู่รอบๆ กาลีนาเอ่ยห้ามไม่ให้ลูกสาวมองภาพของตนอย่างยากลำบาก ร่างกายครึ่งหนึ่งของเธอไหม้ไฟจนเละไปหมด ก่อนที่เสียงร้องด้วยความทรมานจะดังก้อง พร้อมกับที่เงาร่างของชายคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้เซนัว เขาบอกให้เธอมองความมืดที่ออกมาจากร่างของกาลีนาด้วยเสียงเดียวกับวิญญาณที่เอ่ยคำดูถูกเธอมาตลอด เขาคือซินเบล พ่อของเธอนั่นเอง

ในที่สุดเซนัวก็นึกเรื่องราวที่เธอลืมได้ทั้งหมด คำอ้างถึงพระเจ้าที่ผู้เป็นพ่อใช้เพื่อมอบความชอบธรรมในการสังหารภรรยาของตนเอง และใช้มันควบคุมไม่ให้ลูกสาวต้องตกสู่หนทางเดียวกัน เขาคือผู้ที่กักขังเธอไว้คนเดียวในความมืด ไม่มีพระเจ้าหรืออะไรทั้งนั้น เป็นซินเบลที่ใช้ความบ้าคลั่งของเขาสาปแช่งเธอกับมารดา เป็นเขาที่สร้างความมืดให้เธอเพื่อซ่อนความน่ารังเกลียดของตนไว้เบื้องหลัง

ภาพน่าอดสูของกาลีนาหายไป และที่ปลายทางนั้น เฮลา เทพีผู้ปกครองดินแดนแห่งความตายซึ่งมีร่างกายครึ่งหนึ่งเป็นศพไหม้ไฟ เทพีผู้เป็นความมืดอัปลักษณ์ของพ่อของเธอก็ปรากฏตัวขึ้น เสียงดูถูกต่อว่าโดยอ้างนามของพระเจ้าของซินเบลยังคงวนเวียนอยู่ในหัว เซนัวเข้าใจในที่สุดว่าแม่ของเธอไม่ได้ปฏิเสธพระเจ้า ซินเบลฆ่ากาลีนาเพราะเธอปฏิเสธเขาต่างหาก ซึ่งลูกสาวอย่างเธอก็คงถูกเขาฆ่าด้วยในสักวัน แต่เธอจะไม่ยอมให้เขาทำร้ายอีกต่อไปแล้ว


เซนัววิ่งเข้าไปต่อสู้กับความมืดมากมายที่เข้ามาขัดขวาง รวมไปถึงเงาร่างของเซิทร์ วาลราเวน และการ์มที่เธอเคยสังหารไป ในที่สุดเซนัวก็สามารถไปถึงตัวของเฮลาได้สำเร็จ แต่เธอก็ถูกอีกฝ่ายทำร้ายจนล้มลง เซนัวค่อยๆ คลานเข้าไปหาศีรษะของดิลเลียน ขณะที่เฮลาก้มลงหยิบดาบเกรมมาไว้กับตัว ตอนนี้หญิงสาวสามารถมองร่างอัปลักษณ์ของเทพีแห่งความตายได้แล้ว

เซนัวลุกขึ้นนั่งโดยกอดหัวของชายคนรักเอาไว้ เธอสะอื้นไห้ก่อนหัวเราะราวเสียสติ หากเธอปฏิเสธความมืดนั่นก็เท่ากับว่าเธอปฏิเสธการมีอยู่ของวิญญาณของดิลเลียน เธอจะไม่สามารถรักษาสัญญา หรือช่วยเหลืออะไรเขาได้สักอย่างเดียว ถึงพ่อของเธอจะโกหก แต่การมีอยู่ของเทพสาวนั้นเป็นความจริง เธออ้อนวอนเฮลาให้ปลดปล่อยดิลเลียน ทว่าอีกฝ่ายกลับมองหน้าของหญิงสาวโดยไม่กล่าวอะไร สุดท้ายเซนัวก็ยอมรับความจริงว่าเทพีตรงหน้าไม่อาจคืนชีวิตให้คนรักของเธอ เธอหมดสิ้นทุกอย่าง ไม่มีความหวัง หรือสิ่งใดให้เชื่อมั่น เซนัวจึงขอให้อีกฝ่ายปลิดชีพของตน ซึ่งเฮลาก็ตอบรับคำขอนั้นแล้วใช้ดาบเกรมแทงหญิงสาวจนสิ้นใจ เซนัวจากไปพร้อมกับเสียงอ่อนโยนของคนรักที่บอกให้เธอยอมรับความตายที่เกิดขึ้น เพราะมันคือวิธีที่เธอจะสามารถก้าวพ้นความกลัว และหลุดพ้นจากความมืดได้

เฮลาหยิบศีรษะของดิลเลียนขึ้นมา เทพสาวมองสิ่งที่อยู่ในมือด้วยความรวดร้าว เธอนั่งคุกเข่ากับพื้น ปล่อยศีรษะของดิลเลียนลงในเหวลึก และเมื่อกล้องจับมาที่เธออีกครั้ง ร่างของเธอก็กลับกลายเป็นเซนัว

เซนัวกล่าวลาชายคนรักของเธอเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนลุกขึ้นยืนแล้วมองออกไปยังข้างนอกกำแพงของเฮลไฮม์ซึ่งมีแสงตะวันแรงกล้าฉายผ่านช่องเขา เป็นดังที่ดิลเลียนเคยบอก แม้จะอยู่ในความมืดมิดแค่ไหนความสวยงามของโลกนี้ก็ไม่เคยหายไป และรอคอยให้ผู้คนได้กลับมาเห็นมันอีกครั้ง

เสียงหัวเราะของเหล่าวิญญาณที่ติดตามเธอดังขึ้น ทว่าตอนนี้เซนัวกลับไม่รู้สึกรำคาญพวกมันอีกแล้ว เธอหันหน้ามาหาตัวเราที่เป็นหนึ่งในวิญญาณเหล่านั้น ก่อนบอกให้เราติดตามเธอไปเพื่อค้นพบเรื่องใหม่ๆ ด้วยกัน เธอหันหลังทิ้งร่างไร้ชีวิตของเฮลาไว้เบื้องหลัง และเราจะได้เป็นพยานในการผจญภัยครั้งใหม่ให้แก่เธอ

เกมจะจบลงพร้อมทิ้งปริศนาให้เราได้ขบคิดพอเป็นกระสัย ทำไมเฮลาถึงกลายเป็นเซนัว ทำไมเซนัวที่ถูกฆ่าไปแล้วจึงฟื้นขึ้นมา เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเธอ และกาลีนากันแน่ เหตุใดจู่ๆ เธอจึงทิ้งศีรษะของดิลเลียน ทำไมเธอจึงยอมรับวิญญาณ แล้วตกลงเราเป็นวิญญาณมาจากไหน (ฟะ) แต่เรื่องนี้มีคำตอบ

เพราะแท้จริงแล้วเซนัวไม่เคยได้สู้กับเทพเจ้า หรือได้พบเห็นวิญญาณ แต่เธอเป็นผู้ป่วยจิตเวช


อันนี้เป็นเรื่องจริงไม่ได้มัวนิ่ม เพราะผู้พัฒนาเกมเป็นคนออกมาให้สัมภาษณ์เองว่าเซนัวมีจิตไม่ปรกติ และเกมนี้ก็สร้างเพื่อสะท้อนสิ่งที่ผู้ป่วยทางจิตต้องเผชิญ การต่อสู้ทั้งหมดในเกมเกิดขึ้นในหัวของเซนัว เราจะเห็นได้ว่าเธอมีอาการทางจิตหลายอย่างร่วมกัน ทั้งหูแว่ว เห็นภาพหลอน เห็นแสงสีที่มากเกินความจริง และน่าจะมีหลายบุคลิคด้วย ซึ่งพวกวิญญาณทั้งหลายที่ติดตามเธอรวมไปถึงตัวเราก็คือบุคลิค และจินตนาการที่เธอสร้างขึ้นมานั่นเอง เรื่องพวกนี้นี้ก็ถูกบอกใบ้ในเกมไว้หลายครั้ง ตัวอย่างเช่น
  • วิญญาณหญิงสาวบอกเราตั้งแต่ต้นเกมแล้วว่าความหวาดกลัวของเซนัวนั้นต่างจากคนทั่วไป เพราะมันลึกซึ้งกว่านั้นมาก นอกจากนี้เธอยังบอกว่าวิญญาณมาอยู่ที่นี่หลังจากเกิดเหตุโศกนาฎกรรมขึ้น และเพิ่มจำนวนเรื่อยๆ มาตลอด อีกทั้งวิญญาณทุกดวงก็มีจิตใจบิดเบี้ยวไปพร้อมกับเซนัว แสดงว่าทุกครั้งที่เซนัวพบเจอเรื่องเลวร้าย เธอก็สร้างบุคลิคใหม่ๆ ขึ้นมาด้วย
  • ส่วนตัวเราน่าจะเป็นบุคลิคใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นตอนที่เธอเดินทางมายังเฮลไฮม์ 
  • ครั้งแรกที่เซนัวเริ่มเห็น และได้ยินเสียงวิญญาณคือหลังจากที่แม่ของเธอตาย
  • วิญญาณแต่ละตนแสดงความรู้สึกต่างๆ ของเธอ บางดวงหวาดกลัว บางดวงสับสน บางดวงต่อว่าเธอ บางดวงให้กำลังใจ และบางดวงก็เป็นตัวแทนของคนที่มีอิทธิพลต่อชีวิตเธอเช่นซินเบล ส่วนดรูธน่าจะเป็นเพื่อนในจินตนาการ เพราะว่าเขามีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์ แถมยังมีอาการเหมือนเซนัวที่ได้ยินเสียงวิญญาณ แต่หลังจากที่หนีออกมาจากพวกชาวเหนือที่จับเขาไปเป็นทาสได้แล้ว ดรูธตัวจริงก็ออกบวชไม่ได้จบชีวิตในเฮลไฮม์เช่นในเกม คิดว่าเซนัวที่เคยได้ยินเรื่องราวของดรูธน่าจะจินตนาการถึงเขาที่มีชะตากรรมไม่ต่างจากเธอมากขึ้นมาเป็นเพื่อนที่คอยแนะนำการต่อสู้ในแดนเหนือให้
  • ยามที่เซนัวมองกระจก แม้ภาพในกระจกจะสะท้อนภาพของเธอ แต่ลักษณะท่าทาง และน้ำเสียงจะเปลี่ยนไปทุกครั้ง 
  • วิญญาณบอกว่าพวกตนติดตามเซนัวเพื่อให้ความช่วยเหลือ และจะไม่มีวันจากเธอไปไหน อีกทั้งเซนัวก็เคยพูดเองว่าวิญญาณคือส่วนหนึ่งของเธอ
  • วิญญาณหวาดกลัวเมื่อเซนัวตั้งใจเผชิญหน้ากับความจริงในอดีตของตน เพราะกลัวว่าพวกตนจะหายไปเมื่อเธอจำเรื่องทั้งหมดได้ เนื่องจากเหล่าวิญญาณเกิดจากความหวาดกลัวในใจของเซนัว หากหญิงสาวยอมรับความจริงตัวตนของพวกเธอก็จะไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป และวิญญาณตนหนึ่งก็หายไปจริงๆ หลังจากที่เซนัวผ่านเข้าไปในกระจก
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น สิ่งที่วิญญาณพูดทั้งหมดจะไม่มีอยู่จริง หรือเป็นแค่เรื่องมโนของเซนัว และเราจะมาวิเคราะห์เพื่อทำความรู้จักตัวจริงของเธอ กับเหตุการณ์ทั้งหมดที่ส่งผลทำให้เธอป่วยในที่สุดด้วยกัน

ก่อนอื่นเลย เซนัวไม่ได้นับถือเทพเจ้านอร์ส

ตามคำสัมภาษณ์ของผู้พัฒนาเกม เซนัวเป็นชาวบาร์บาเลียนที่อาศัยอยู่ในสกอตแลนด์ ตามหลักแล้วเธอจึงไม่ควรเชื่อในตำนานเทพเจ้านอร์สซึ่งเป็นตำนานของชาวไวกิ้งบรรพบุรุษของคนสวีเดน พระเจ้าที่ซินเบลกล่าวถึงจึงหมายถึงพระเจ้าในศาสนาคริสต์ซึ่งชาวตะวันตกส่วนมากนับถือ จึงอธิบายได้ว่าทำไมเธอจึงมีความคิดว่าการที่วิญญาณของดิลเลียนเข้าไปอยู่ในเฮลไฮม์จึงเป็นการถูกขังกักทรมาน เพราะถ้าเธอนับถือเทพเจ้านอร์ส เธอก็น่าจะยอมรับกับการที่เขาไปอยู่ในเฮลไฮม์เพื่อเป็นนักรบให้พระเจ้า และพอทราบว่าเธอเป็นชาวคริสต์แล้ว การที่ซินเบลฆ่ากาลีนาด้วยการเผาทั้งเป็นก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะมันคือวิธีที่ผู้คลั่งศาสนาในอดีตใช้ฆ่าแม่มด

เมื่อพิจารณาจากคำพูดของกาลีนาที่เซนัวได้พบในเฮลไฮม์ ก็จะทำให้เราพอทราบว่าซินเบลนั้นมีนิสัยชอบความใช้ความรุนแรง พอภรรยาทำอะไรไม่ได้ดังใจก็จะทำร้ายร่างกาย เช่นเดียวกับตอนที่เขาตบหน้าของเซนัวตอนที่เธอขอไปอยู่กับดิลเลียน และเมื่อเวลาผ่านไปกาลีนาก็เริ่มมีอาการทางจิต เธอได้ยินเสียงในจินตนาการที่สะท้อนความรู้สึกในใจที่เจ็บปวด และเกลียดชังสามีผู้ทำร้ายร่างกายของตน แต่ในยุคที่มนุษย์ยังไม่มีความรู้ด้านจิตวิทยามากนัก ซินเบลจึงเชื่อว่าเธอได้ยินเสียงของปีศาจร้าย และสิ่งที่เขาทำก็คือการทำร้ายภรรยามากยิ่งขึ้นโดยเชื่อว่าจะทำให้เธอเลิกใส่ใจกับเสียงพวกนั้น แล้วหันหน้ากลับเข้าหาพระเจ้า แต่นั่นกลับทำให้อาการของกาลีนาแย่ลง สุดท้ายซินเบลก็ฆ่าเธอโดยการเผาทั้งเป็น และได้ทำสิ่งเลวร้ายอีกอย่างนั่นก็คือการให้เซนัว ลูกสาววัย 5 ขวบ ร่วมเป็นสักขีพยานในการกำจัดคนนอกรีตเพื่อให้เธอหวาดกลัวต่อความมืด และไม่เดินไปในเส้นทางเดียวกับมารดา โดยไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นการทำร้ายลูกสาวของเขาเอง

หลังจากได้เห็นความเลวร้ายที่พ่อทำกับแม่ เซนัวก็เริ่มมีอาการทางจิต ซินเบลจึงจับลูกสาวกักขังไว้ในห้องคนเดียวเป็นเวลานาน ใช้คำสอนของพระเจ้าต่อว่าเด็กหญิงให้เธอเลิกฟังเสียงเหล่านั้นเช่นเดียวกับที่เขาสั่งกาลีนา และประวัติศาสตร์ก็ซ้ำรอยเพราะสิ่งนี้ทำให้อาการของเซนัวยิ่งแย่ลง ด้วยความเป็นพ่อ ซินเบลไม่ได้สังหารเธอเช่นเดียวกับที่ทำกับภรรยา ทั้งยังพยายามช่วยเหลืออีกฝ่ายให้กลับสู่หนทางที่ถูกต้อง เขากักขังเธอไว้ไม่ให้ได้พบกับผู้ใด และเที่ยวบอกชาวบ้านว่าเธอโดนคำสาปร้ายเพื่อไม่ให้ใครทำร้าย หรือช่วยเหลือเธอให้ออกไปได้ เขาหลอกลูกสาวว่ากาลีนาถูกความมืดเข้าครอบงำจนต้องหนีมันด้วยการกลับสู่อ้อมกอดของพระเจ้า ซึ่งเขาไม่ต้องการให้เธออ่อนแอเช่นมารดา แต่ความหวาดกลัวก็ยิ่งกัดกินจิตใจของเซนัว โลกของเธอมีเพียงบิดาซึ่งเป็นมือของพระเจ้าที่มาพร้อมกับความโหดร้าย และเมื่อต้องเผชิญกับความโหดร้ายนานวันเข้า ในที่สุดเด็กหญิงก็ปิดผนึกความทรงจำเกี่ยวกับความตายของผู้เป็นแม่เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเศร้าโศกเสียใจมากไปกว่าที่เป็นอยู่

เมื่ออาการของเซนัวอยู่ตัว และซินเบลเริ่มให้อิสระกับเธอมากขึ้น เซนัวที่ออกมาเดินเล่นข้างนอกก็ได้พบกับดิลเลียน ชายที่มองว่าเธอเป็นคนปรกติ และยอมรับในสิ่งที่เป็น มิตรภาพของทั้งสองก่อเกิดเป็นความรักจนเซนัวตัดสินใจตัดขาดกับซินเบล ก่อนออกจากบ้านไปอยู่กินกับคนรัก แต่แล้วก็เกิดโรคระบาดขึ้นในหมู่บ้าน ชาวบ้านที่เชื่อคำของซินเบลต่างประณามเซนัวว่าเธอเป็นผู้นำโรคร้ายมา และมันก็คร่าชีวิตพ่อของดิลเลียนไปด้วย แม้ชายหนุ่มจะไม่โทษหญิงสาว ทั้งยังให้กำลังใจอยู่เคียงข้างไม่ห่าง แต่คำพูดของพ่อก็กลับมาในความคิดของเซนัว บางทีเธออาจจะต้องสาปและทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนจริงๆ หญิงสาวจึงตั้งมั่นที่จะเผชิญกับความมืดเพื่อหาทางกำจัดมัน เธอบอกลาดิลเลียนเดินทางเข้าสู่ป่าเพียงลำพังโดยมีคำสัญญาว่าเธอจะกลับมาหาเขา ทว่าเมื่อหญิงสาวกลับมา เธอก็พบว่าชาวเหนือผู้โหดร้ายได้บุกเข้าทำลายหมู่บ้าน ฆ่าชาวบ้านบริสุทธิ์เพื่อบูชาแก่เทพของพวกเขา และนั่นก็รวมไปถึงดิลเลียน ชายผู้เป็นแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของเซนัว


การต้องสูญเสียคนรักไปทำให้อาการของเซนัวยิ่งย่ำแย่ เธอไม่ได้ทำตามคำสัญญา และไม่อาจยอมรับความตายของดิลเลียนได้ เรื่องราวเลวร้ายที่ผ่านมาผสานเข้ากับตำนานของชาวเหนือผู้พรากชีวิตคนสำคัญของเธอ เซนัวเริ่มได้ยินเสียงของดิลเลียนร้องขอความช่วยเหลือ ความมืดก็เริ่มแปรเปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นชาวไวกิ้งตัวใหญ่ หญิงสาวที่ไม่อาจแยกความจริงกับจินตนาการออกจึงออกเดินทางสู่เฮลไฮม์ สถานที่หลังความตายของยุโรปเหนือ ด้วยเชื่อว่าวิญญาณของคนรักถูกจับไปทรมานเป็นทาสอยู่ในที่แห่งนั้น ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ก็คือการเข้าไปสำรวจ และต่อสู้ภายในจิตใจของตน จนในที่สุดมันก็นำเธอไปพบกับความจริงที่หลอมรวมเป็นตัวเธอในตอนนี้ ความจริงอันโหดร้ายที่เธอพยายามปฏิเสธ ความจริงที่ถูกพ่อปิดบัง มันคือการเนื้อเรื่องทั้งหมดของเกมนี้นั่นเอง

ด้วยเหตุนี้เซนัวจึงต้องต่อสู้กับเซิทร์ เทพแห่งไฟซึ่งเกี่ยวพันการตายของมารดา และวาลราเวน เทพแห่งภาพลวงตาซึ่งเกี่ยวข้องกับการปกปิดความจริงของซิลเบล ต้องเผชิญกับความกลัวในอดีตเพื่อสร้างดาบเกรม ดาบในตำนานซึ่งชื่อมีความหมายว่าความโกรธ เธอใช้ความโกรธนั้นเข้าต่อกรกับความมืด หญิงสาวต้องพบกับการ์มสุนัขเฝ้าประตูสู่เฮลไฮม์ที่คุมกันไม่ให้เธอเข้าถึงความจริงที่ตนลืมเลือน และวิญญาณดวงหนึ่งซึ่งสะท้อนความหวาดกลัวกับการเปิดผนึกความทรงจำนั้นที่ออกมาขอร้องไม่ให้เธอมุ่งหน้าต่อไป สุดท้ายเซนัวก็เข้าใจแล้วว่าผู้ที่ทำให้เธอต้องเป็นเช่นนี้คือซินเบล ชายที่ทำร้ายภรรยา และลูกสาวโดยอ้างศีลธรรมอันสูงส่ง ความโกรธแค้นทั้งหมดทยานขึ้นมา แล้วเธอก็ใช้ดาบเกรมพุ่งเข้าต่อกรกับความมืดของพ่อซึ่งอยู่เบื้องหน้า

ตัวละครสำคัญอีกคนซึ่งจะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือเฮลา


แม้จะรู้ว่าความจริงแล้ว แต่ความผิดปรกติทางจิตใจก็ยังทำให้เซนัวเชื่อว่าแม้พ่อจะโกหก แต่คำลวงนั้นก็มีตัวตนอยู่จริง เฮลาคือกุญแจสำคัญการเดินทางของหญิงสาว เป็นคนที่จะให้คำตอบได้ว่าจะทำให้ดิลเลียนได้รับการปลดปล่อย หรือได้ชีวิตคืนหรือไม่ เธอคือเทพีอัปลักษณ์นายเหนือหัวผู้กำหนดความตายแห่งเฮลไฮม์ เธอผู้มีร่างกายครึ่งหนึ่งเป็นสาวงาม ส่วนอีกครึ่งเป็นศพแฟะเหม็นเน่า

แต่เอ๊ะ รู้สึกมีอะไรแปลกๆ ไหม ตามตำนานเทพเจ้ายุโรปเหนือ เฮลามีร่างกายครึ่งหนึ่งเป็นศพเละๆ แต่เฮลาในเกมกลับมีร่างกายครึ่งหนึ่งเป็นศพถูกไฟเผา แถมอีกครึ่งก็มีอักษรรูนสักในรูปแบบที่ห่างไกลจากคำว่าสวยงาม ถึงก่อนที่เธอจะปล่อยหัวของดิลเลียนลงในเหวลึกอักษรรูนจะหายไปกลายเป็นผิวหนังปรกติก็เถอะ มันก็ยังขัดกับตำนานจริงๆ อยู่ดี

ถ้าอย่างนั้นเราลองมาดูประวัติเต็มๆ ของเฮลากัน

เฮลา หรือเฮล เป็นธิดาของโลกิกับนางยักษ์แองเกอร์โบดา ด้วยความโกรธที่ตนเคยมอบความไว้วางใจแก่โลกิ ทั้งพยายามยกระดับอีกฝ่ายซึ่งมีเชื้อสายยักษ์ข้นกว่าให้ขึ้นมาเทียบเท่าเทพแอสการ์ดคนอื่นๆ แต่โลกิกลับยังก่อเรื่องครั้งแล้วครั้งเล่า และครั้งนี้ก็มาหักหน้าเขาด้วยการนอกใจภรรยาที่เขาแนะนำให้ มาเสพย์สังวาสกับยักษ์สาวจนมีลูกด้วยกันถึง 3 คน โอดินผู้เป็นเทพเจ้าสูงสุดจึงไม่อาจทนการกระทำของอีกฝ่ายได้อีก เขาสั่งจับโลกิตรึงกับหินซึ่งทุกวันจะมีงูมาหยดพิษใส่ และสังหารแองเกอร์โบดาผู้กระทำผิดจารีต ส่วนลูกทั้ง 3 ของโลกิที่เกิดจากเธอก็ต้องถูกจองจำหรือถูกขับไล่จากแดนเทพ เฮลาผู้ไม่ได้มีส่วนกับการกระทำผิดของบิดามารดาแม้แต่น้อยถูกเนรเทศให้มาเป็นผู้ครองดินแดนน้ำแข็งอันมืดมิดโดดเดี่ยวหนาวเย็น เป็นเจ้าแห่งความตายมีวิญญาณล้อมรอบ เธอมีร่างกายครึ่งหนึ่งเป็นสาวงาม ส่วนอีกครึ่งเป็นศพ หากผู้ใดมองใบหน้าของเธอโดยตรงก็จะพบกับความแตกต่างสุดขั้วจนไม่อาจตัดสินใจได้ว่าควรชื่นชมความงาม หรือรังเกียจความอัปลักษณ์นั้นดี สุดท้ายพวกเขาก็จะหวาดกลัวสับสนจนเสียสติ ยามที่เฮลาขึ้นมายังโลกเบื้องบน เธอจะนำพาโรคระบาดติดตามคร่าชีวิตของผู้คน  นอกจากนี้เทพสาวยังมีหน้าที่รวบรวมวิญญาณของนักรบเพื่อให้พวกเขาเป็นนักรบทาสในสงครามแร็คนาร็อค สงครามของเทพเจ้าตามคำทำนายซึ่งทำให้เทพเกือบทุกองค์ของแอสการ์ดต้องเสียชีวิต

ทีนี้มาดูประวัติของเซนัว

เซนัวอาศัยอยู่ซินเบล บิดาที่มักทำร้ายร่างกายกาลีนา แม่ของเธออยู่เสมอ จนในที่สุดกาลีนาก็มีอาการทางจิตได้ยินเสียงปริศนาที่เชื่อว่าเป็นปีศาจจากความมืด ซินเบลจึงทำร้ายภรรยามากยิ่งขึ้น เพราะเชื่อว่ามันจะทำให้เธอหันสู่หนทางที่ถูกต้อง แต่อาการของกาลีนากลับไม่ดีขึ้น เขาจึงอ้างนามของพระเจ้าในการฆ่าภรรยาด้วยการเผาทั้งเป็น เพราะเชื่อว่าเธอถูกความมืดเข้าครอบงำกลายเป็นแม่มดนอกรีต ความโหดร้ายที่ได้พบทำให้เซนัวซึ่งไม่ได้รู้เรื่องอะไรเริ่มมีอาการทางจิต เธอถูกซินเบลกักขังเธอไว้ในบ้านเพราะคิดว่าเธอจะเป็นเช่นมารดา เด็กหญิงต้องทนทุกข์คนเดียวอยู่ในความมืดจนในที่สุดเธอก็ได้ยินเสียงของวิญญาณรอบๆ ตัว และเห็นใบหน้าของกาลีนาที่ถูกกล่าวหากว่าเป็นพวกนอกรีตตามสถานที่ต่างๆ ทำให้ซินเบลยิ่งไม่ยอมให้เธอได้พบกับผู้ใด โลกของเซนัวจึงเหลือเพียงพ่อที่พยายามใช้ความเชื่อทางศาสนาเข้าควบคุมเธอ แต่แล้วเธอก็ได้พบกับดิลเลียน ชายผู้ยอมรับในตัวเธอ และไม่คิดว่าเธอผิดปรกติ ความอบอุ่น และอนาคตอันสดใสที่จะได้มีกับชายคนรัก ช่างขัดแย้งกับความมืด และโหดร้ายในอดีตที่พ่อของเธอเป็นผู้มอบให้จนมันแทบจะฉีกวิญญาณของหญิงสาวออกเป็นสองซีก แม้เธอจะตัดสินใจเลือกมาอยู่กับดิลเลียน แต่เมื่อเกิดโรคระบาด ชาวบ้านกลับพากันกล่าวหาว่าเธอเป็นผู้นำพาเภทภัยโรคร้ายมาสู่หมู่บ้านอันทำให้ทุกคนต้องเสียชีวิต และเมื่อเธอต้องสูญเสียดิลเลียนไป เซนัว และเหล่าวิญญาณที่ติดตามก็มุ่งสู่เฮลไฮม์ ที่ซึ่งสุดท้ายเธอต้องจัดการเหล่าเทพผู้โหดร้ายที่พ่อของเธอเป็นคนสร้างขึ้นมา

รู้สึกเหมือนกันใช่ไหม ใช่แล้ว ผู้เขียนคิดว่าแท้จริงแล้วเฮลาก็คือเซนัว

ในขณะที่ความมืด และเทพองค์อื่นที่พบในเฮลไฮม์เป็นภาพที่ซินเบลเป็นผู้สร้าง มีเพียงเฮลาเท่านั้นที่เกิดจากจินตนาการของเซนัวเอง เฮลาคือตัวตนจริงๆ ของเด็กสาวที่ถูกความโหดร้ายกัดกิน เด็กหญิงที่เห็นใบหน้าครึ่งหนึ่งของมารดากำลังไหม้ไฟ เด็กหญิงที่ถูกพ่อกักขังให้อยู่ในความมืดมิด แต่ขณะเดียวกันเธอก็เป็นเด็กสาวธรรมดาที่ต้องการมีชีวิต มีความรัก มีคนเป็นห่วงเอาใจใส่ และมีชีวิตที่สดใส เด็กสาวที่มีชีวิตราวขั้วตรงข้ามกันคือทั้งหมดที่เป็นเธอ ผู้หญิงที่ชื่อว่าเซนัว

แม้ว่าซินเบลจะเป็นผู้มอบความมืดมิดนี่ให้กับลูกสาว แต่สุดท้ายคนที่จะมีอำนาจเหนือความมืดเหล่านั้นก็คือตัวเธอเอง เช่นเดียวกับที่เฮลาเป็นเจ้าแห่งดินแดนแห่งนี้ และหากคิดว่าเฮลาคือตัวเซนัวจริงๆ เมื่อพิจารณาคำว่าเฮลไฮม์ ซึ่ง ไฮม์ มีความหมายว่าที่อยู่ เฮลไฮม์ก็คือที่อยู่ของเฮลา หรืออีกนัยหนึ่งก็คือเฮลไฮม์นั้นอยู่ในตัวของเซนัว และเฮลานี่เองที่เป็นความทรงจำที่เธอยากจะเอาชนะ หรือหนีไปได้

เซนัวต้องเผชิญหน้ากับตัวจริงของตัวเอง เฮลาคือผู้เป็นนายเหนือหัวแห่งความตาย เป็นตัวเธอเองที่จะตัดสินใจว่าจะยอมรับความตายของดิลเลียนหรือไม่ เมื่อเซนัวได้เห็นแล้วว่าไม่ว่าอย่างไรเฮลาก็ไม่อาจคืนชีวิตให้กับคนรัก เธอจึงขอให้อีกฝ่ายฆ่าเธอเสีย และเฮลาก็ได้ใช้ดาบเกรม ดาบแห่งความโกรธนั้นสังหารตนเองที่ต่อต้านความจริงนั้นมาตลอดการเดินทาง

ในที่สุดเฮลไฮม์ก็เหลือเฮลาเพียงคนเดียว หญิงสาวที่เผชิญหน้ากับความจริงอันเลวร้ายในอดีต หญิงสาวที่มีชีวิตสองด้านที่ต่างกันจนกลายเป็นความบิดเบี้ยว และเป็นที่หวาดกลัวของผู้อื่น เมื่อเธอยอมรับความจริงนั้นได้ เธอก็ปล่อยวางถึงการจากไปชายคนรักได้ในที่สุด เธอกลับไปเซนัวคนเดิม เซนัวที่เป็นเด็กสาวที่เคยมองเห็นงานศิลปะในใบไม้ที่ร่วงหล่น คนที่เห็นเมฆกลิ้งไปมา คนที่เห็นว่าทุกวันเป็นการผจญภัยครั้งใหม่ แต่พร้อมกันนั้นเธอก็จะเป็นเซนัวคนใหม่ที่ยอมรับว่าทุกเวทมนต์ย่อมมีวันเสื่อม เช่นที่คลื่นต้องม้วนกลับสู่ท้องทะเล

สงครามแร็คนาร็อคจบลงพร้อมการตายของเหล่าทวยเทพ ก่อเกิดการสูญเสียมากมายจนสิ่งมีชีวิตแทบหมดสิ้น แต่ในที่สุดดวงอาทิตย์ก็ฉายแสงอีกครั้ง แล้วมนุษย์ชายหญิงคู่หนึ่งออกมาจากที่หลบภัย เตรียมพบกับโลกใหม่ที่ปราศจากสงคราม หรือเทพผู้มีอำนาจเหนือพวกตน


เซนัวลุกขึ้นยืนแล้วมองออกไปยังข้างนอกกำแพงของเฮลไฮม์ซึ่งมีแสงตะวันแรงกล้าฉายผ่านช่องเขา เป็นดังที่ดิลเลียนเคยบอก แม้จะอยู่ในความมืดมิดแค่ไหน ความสวยงามของโลกนี้ก็ไม่เคยหายไป และรอคอยให้ผู้คนได้กลับมาเห็นมันอีกครั้ง เสียงหัวเราะของเหล่าวิญญาณที่ติดตามเธอดังขึ้น แม้เธอจะยอมรับตัวเองได้แล้ว แต่บาดแผลนั้นยังคงอยู่ เธอยังไม่อาจลบจินตนาการที่เกิดจากจากความเจ็บปวดของเธอออกไปได้ทั้งหมด ทว่าตอนนี้เซนัวไม่รู้สึกรำคาญพวกมันอีกต่อไปแล้ว เธอหันหน้ามาหาตัวเราที่เป็นหนึ่งในวิญญาณเหล่านั้น แล้วบอกให้เราติดตามเธอไปเพื่อค้นพบเรื่องใหม่ๆ ด้วยกัน ทิ้งร่างของเฮลาซึ่งเป็นตัวตนในอดีตแสนเจ็บปวดทั้งหมดไว้เบื้องหลัง และเราจะได้เป็นพยานในการผจญภัยครั้งใหม่ให้แก่เธอ...


Hellblade: Senua's Sacrifice เป็นเกมที่ผสมผสานความน่ากลัว ความแฟนตาซี และมีวิธีเล่าเรื่องที่ดีมากเกมหนึ่ง ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าความรุนแรงไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้น อย่าปล่อยให้ความหวังดีของเราทำร้ายใครคนอื่นโดยไม่รู้ตัว และหากเราถูกใครทำให้เสียใจ การยอมรับความรู้สึกด้านลบโดยไม่พยายามโกหกหลอกลวงตัวเองอาจเป็นสิ่งที่ช่วยเราได้มากที่สุด แม้เราจะไม่อาจรู้ว่าปลายทางของสูญเสีย และความเศร้านี้จะเป็นเช่นไร แต่ขอให้เชื่อเถอะว่าอย่างน้อยกาลเวลาก็จะช่วยทำให้มันดีขึ้นเสมอ

สุดท้ายนี้ผู้เขียนก็หวังว่าข้อคิดดีๆ จากเกมนี้จะทำให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้น ช่วยลดจำนวนคนที่ถูกทำร้ายจนต้องเผชิญกับความกลัวในจิตใจเช่นเดียวกับเซนัว โดยเฉพาะการทำร้ายกันในครอบครัว และทำให้เราสามารถเข้าใจผู้ป่วยจิตเวชกันมากขึ้นนะคะ

ความคิดเห็น

  1. วิเคราะห์ดีครับเป็นกำลังใจให้ ^^ ถ้าเพิ่มเนื้อหาเรื่องเกี่ยวกับพาร์ทดาบที่ไปหาปมต่างๆจะเป็นบทความสรุปที่เนื้อหาครบมากๆครับ

    ตอบลบ
  2. เป็นบทความที่สุดยอดมากครับ เพิ่งเล่นเกมจบวันนี้ แล้วยังงงกับเนื้อเรื่อง พอมาอ่านบทความนี้แล้วเข้าใจชัดเจนเลย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบคุณมากเลยค่ะ เกมนี้เขาเนื้อเรื่องนุ่มลึกจริงๆ เนอะ ^^

      ลบ
  3. ยอดมากกกกกกก บทความชั้นยอด

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Spoil NieR Automata Part 27 Ending E : the End of YoRHa และวิเคราะห์เนื้อเรื่องทั้งหมดตามใจฉัน

ผ้าปิดตาของ YoRHa